จับเด็กชาย 4 คน ร่วมกันลักเงินในเครื่องซักผ้า รับสารภาพว่าแต่ละคนไม่มีเงิน แต่อยากซื้อของกิน ในร้านสะดวกซื้อ ในห้างสรรพสินค้ามากินด้วยกัน คิดว่า ลักเงินในเครื้องซักผ้าน่าจะได้เงินง่าย
เมื่อเวลา 09.00 น.วันที่ 21 กรกฎาคม 2565 พ.ต.ท.โชติคุณ บุญอนงค์พันธุ์ รอง ผกก.สืบสวน สภ.พล พร้อมเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน ร่วมกันจับกุมเยาวชนชายอายุ 11-13 ปี รวม 4 คน ในข้อหา ร่วมกันลักทรัพย์ในเวลากลางคืน ควบคุมตัวพร้อมของกลางรถจักรยานยนต์ ยี่ห้อฮอนด้าเวฟ สีน้ำเงิน ไม่ติดทะเบียน และถาดใส่เงินของเครื่องซักผ้าหยอดเหรียญ ส่งให้พนักงานสอบสวน ทำการสอบสวนและดำเนินการตามขั้นตอนของกฎหมาย
พ.ต.ท.โชติคุณ บุญอนงค์พันธุ์ รอง ผกก.สืบสวน.สภ.พล กล่าวถึงการคุมตัวเด็กชายทั้ง 4 คนว่า เนื่องจากเมื่อวันที่ 15 ก.ค.มีคนร้ายก่อเหตุลักทรัพย์ถาดเงินในเครื้องซักผ้าที่บ้านเลขที่อยู่ 221 หมู่ที่ 5 ต.โสกนกเต็น อ.พล จ.ขอนแก่น จำนวน 4 เครื่องได้เงินไปประมาณ5000 บาท วันที่ 17 ก.ค.คนร้ายกลุ่มเดิม ก่อเหตุลักทรัพย์ถอดเอาถาดใส่เงินในเครื่องซักผ้าที่หมู่บ้านเอื้ออาทร จำนวน 5 เครื่อง และวันที่ 19 กค.คนร้ายกลุ่มเดิม ก่อเหตุที่ร้าน wash way ต.เมืองพล อ.พล จ.ขอนแก่น ผู้เสียหายนำหลักฐานเป็นภาพในกล้องวงจรปิดมาแจ้งความกับพนักงานสอบสวน เพื่อให้ตำรวจติดตามจับกุมคนร้าย
จากการสืบสวนพร้อมทั้งดูภาพจากวงจรปิด เจ้าหน้าที่ตำรวจเชื่อว่า เป็นเด็กและเยาวชนในพื้นที่ จึงออกติดตามหาตัว และพบว่า กลุ่มคนก่อเหตุใช้รถจักรยานยนต์คันเดียวคือรถยี่ห้อฮอนด้าเวฟ สีน้ำเงิน ไม่ติดทะเบียนเข้าไปในชุมชนเก่างิ้ว จึงติดตามหาตัวกลุ่มคนก่อเหตุ กระทั่งพบตัวทั้ง 4 คน พร้อมรถจักรยานยนต์ที่บ้านของเพื่อน ซึ่งเป็นบ้านไม่มีเลขที่ จึงนำตัวไปสอบสวน และแจ้งผู้ปกครองของเด็กชายทั้ง 4 คนให้ทราบรายละเอียดในการควบคุมตัว
ทางด้าน พ.ต.ท.จันทโรภาส ชัยลา รอง ผกก.(สอบสวน)สภ.พล กล่าวว่า การควบคุมเด็กชายทั้งหมดนั้น เจ้าหน้าที่ตำรวจติดตามตัวได้ตามหลักฐานจากกล้องวงจรปิด ที่บันทึกภาพขณะลงมือก่อเหตุในจุดต่างๆไว้ได้ ส่วนการสอบสวนนั้น เจ้าหน้าที่ตำรวจได้เชิญนักกฎหมายมาร่วมรับฟังด้วย ส่วนการแจ้งข้อกล่าวหานั้น เจ้าหน้าที่ตำรวจได้แจ้งต่อหน้าผู้ปกครองของเด็กคือข้อหา ร่วมกันลักทรัพย์ในเวลากลางคืน
จากการสอบสวนเด็กๆรับสารภาพว่า เมื่อทุกคนมาเจอกัน แต่ละคนจะไม่มีเงิน แต่อยากซื้อของกิน ในร้านสะดวกซื้อ ในห้างสรรพสินค้ามากินด้วยกัน จึงคิดว่า ลักเงินในเครื้องซักผ้าน่าจะได้เงินง่าย เพราะเจ้าของร้านไม่ค่อยล็อคกุญแจ จึงร่วมกันก่อเหตุลักทรัพย์ในร้านที่ตั้งเครื่องซักผ้า เมื่อได้เงินมาก็แบ่งกัน และพากันไปซื้อของกินมากินด้วยกัน และจากการสืบสวนประวัติของเด็กนั้น กำลังเรียนหนังสือในระดับชั้นประถม แต่ไปเรียนบ้าง ไม่เรียนบ้าง และยังไม่เคยก่อเหตุอาชญากรรมหรือเกี่ยวข้องกับยาเสพติด แต่อย่างใด และเมื่อขั้นตอนการสอบสวนเรียบร้อย และทำความเข้าใจกับผู้ปกครองแล้ว พนักงานสอบสวนจะนำเด็กทั้งหมดส่งไปที่ สถานพินิจและคุ้มครองเด็กและเยาวชนจังหวัดขอนแก่น ดำเนินการตามขั้นตอนต่อไป
Leave a Response