หนุ่มเมาแล้วขับทะเลาะกับภรรยาในรถยนต์ขณะเดินทางเข้าเมือง คลุ้มคลั่งถือมีดอยู่ริมถนน ตำรวจเข้าตรวจสอบชายดังกล่าวขับรถยนต์หลบหนี สุดท้ายจนมุมด้วยอุปกรณ์ Stop Stick พบประวัติเคยเสพยาเสพติด ปัจจุบันได้เลิกยุ่งเกี่ยวแล้ว แต่ระยะหลังผู้ต้องหาเริ่มมีอาการทางจิต ภรรยากำลังจะพาไปพบแพทย์จิตเวชเพื่อทำการรักษาก็เกิดเหตุขึ้นก่อน
นี่เป็นคลิปจากกล้องติดตัวของเจ้าหน้าที่ตำรวจสายตรวจ สภ.เมืองขอนแก่น บันทึกวินาทีนำกำลังเข้าตรวจสอบเหตุชายคลุ้มคลั่งถือมีดอยู่กลางถนน หลังได้รับแจ้งจากศูนย์วิทยุ สภ.เมืองขอนแก่น เมื่อเวลา 10.50 น. วันที่ 17 ก.ค.2565 ที่ผ่านมา ว่ามีเหตุชายถืออาวุธมีดด้ามยาวยืนอยู่บริเวณริมถนนมะลิวัลย์ หน้าประตูสีฐาน มหาวิทยาลัยขอนแก่น ลักษณะคลุ้มคลั่ง หลังรับแจ้งจึงลงพื้นที่ตรวจสอบ
เมื่อไปถึงที่เกิดเหตุ พบนาง วรางคณา (ขอสงวนนามสกุล) อายุ 34 ปี ชาว จ.ขอนแก่น แสดงตัวกับเจ้าหน้าที่ว่าเป็นภรรยาผู้ก่อเหตุและเป็นผู้โทรแจ้ง 191 และพบ น.ส.สุธาดา (ขอสงวนนามสกุล) อายุ 26 ปี ชาว จ.ขอนแก่น ซึ่งเป็นผู้เสียหายจากเหตุถูกรถเฉี่ยวชน ได้รับบาดเจ็บเป็นแผลถลอกที่ข้อศอกซ้ายและบริเวณสะโพก โดยได้แจ้งกับเจ้าหน้าที่ตำรวจอีกว่าผู้ก่อเหตุขับรถยนต์ยี่ห้อ มิตซูมิชิ สีดำ แผ่นป้ายทะเบียน ผน 4247 ขอนแก่น ซึ่งเป็นสามีของผู้แจ้ง ขับไปจอดอยู่อีกฝั่งของถนนมะลิวัลย์
ทางตำรวจสายตรวจจึงได้แสดงตัวจะเข้าไปตรวจสอบ แต่ปรากฎว่าผู้ขับขี่รถยนต์มีลักษณะคลุ้มคลั่ง ถืออาวุธมีดด้ามยาวเดินไป-มา เมื่อประเมินสถานการณ์แล้วอาจเป็นอันตราย จึงได้ขอกำลังสนับสนุน และสายตรวจโซนข้างเคียงกำลังส่วนที่เหลือมาถึง ปรากฎว่าชายคลุ้มคลั่งได้ขับขี่รถยนต์คันดังกล่าวหลบหนีมุ่งหน้าไปทาง สี่แยกไฟแดง ร.8 เจ้าหน้าที่สายตรวจจึงได้ขับขี่ยานพาหนะไล่ติดตามไป พร้อมออกคำสั่งให้หยุดรถเพื่อตรวจสอบ แต่ชายคลุ้มคลั่งไม่ยอมหยุดรถยังคงขับขี่หลบหนีต่อไป จึงได้ประสานเจ้าหน้าที่จราจร สภ.บ้านเป็ด ให้ช่วยสกัดรถบริเวณแยกไฟแดงทางเข้า ร.8 เมื่อรถยนต์ของชายคลุ้มคลั่งใกล้ถึงแยกไฟแดง เจ้าหน้าที่สายตรวจเกรงว่าประชาชนทั่วไปอาจจะได้รับอันตราย จึงได้ใช้อุปกรณ์หยุดรถ STOP STICK วางขวาง จนทำให้รถคันดังกล่าวขับต่อไปไม่ได้ เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุมจึงได้เข้าควบคุมตัวชายคลุ้มคลั่งไว้ ทราบชื่อภายหลังคือ นายสันติ (สงวนนามสกุล) อายุ 27 ปี ชาว จ.ขอนแก่น
จากนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้ขอตรวจค้นตัวนายสันติฯ ก่อนการตรวจค้นเจ้าหน้าที่ตำรวจทุกนายได้แสดงความบริสุทธิ์ใจให้นายสันติฯ ดูจนเป็นที่พอจึงแล้วจึงได้ทำการตรวจค้น ผลการตรวจค้นตัวไม่พบสิ่งของผิดกฎหมาย จากนั้นจึงได้นำตัวนายสันติฯเพื่อไปตรวจค้นรถ ตลอดการตรวจค้นรถนั้น เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ให้นายสันติฯ ยืนดูการตรวจค้นของเจ้าหน้าที่ จากการตรวจค้นพบอาวุธมีดยาวประมาณ 70 ซม. จำนวน 1 เล่ม และ มีดปลายแหลมยาวประมาณ 30 ซม. อีกจำนวน 1 เล่ม เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้จับกุมตัวนายสันติฯ พร้อมของกลางมายัง สภ.เมืองขอนแก่น และได้ประสานเจ้าหน้าที่จราจรเพื่อทำการตรวจวัดปริมาณแอลกอฮอล์และสารเสพติดในร่างกาย ผลการตรวจไม่พบสารเสพติดและผลการตรวจวัดปริมาณแอลกอฮอล์ในร่างกาย จากเครื่องตรวจวัด ค่าที่ตรวจวัดได้มีปริมาณ 63 มิลลิกรัมเปอร์เซ็นต์ ซึ่งมีค่าเกินกว่าที่กฎหมายกำหนด จึงได้สอบปากคำและแจ้ง 4 ข้อกล่าวหาประกอบด้วย พกพาอาวุธมีดไปในเมือง หมู่บ้าน หรือทางสาธารณะโดยไม่มีเหตุอันควร, ฝ่าฝืนคำสั่งเจ้าพนักงานซึ่งกระทำการตามหน้าที่, ขับรถโดยประมาทเป็นเหตุให้ผู้อื่นได้รับบาดเจ็บและทรัพย์สินเสียหาย และ เป็นผู้ขับขี่ยานพาหนะขณะเมาสุราซึ่งมีค่าตรวจวัดปริมาณแอลกอฮอล์ในร่างกายได้สูงเกินกว่าที่กฎหมายกำหนด ก่อนนำตัวพร้อมของกลางส่งพนักงานสอบสวนเพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
พ.ต.อ.ปรีชา เก่งสาริกิจ ผกก.สภ.เมืองขอนแก่น กล่าวอีกว่า จากการตรวจสอบประวัติ พบว่า ผู้ต้องหาเคยมีประวัติเกี่ยวกับยาเสพติด (ผู้เสพ) ปัจจุบันได้เลิกยุ่งเกี่ยวแล้ว แต่ระยะหลัง ผู้ต้องหาเริ่มมีอาการทางจิต ทางภรรยา กำลังจะพาไปพบแพทย์จิตเวชเพื่อทำการรักษา โดยก่อนเกิดเหตุผู้ต้องหาได้ดื่มสุราจนเกิดอาการมึนเมา และมีปากเสียงกับภรรยาบนรถ ขณะขับขี่มุ่งหน้าเข้าตัวเมืองขอนแก่น จนมาก่อเหตุและถูกจับกุมตัวในเวลาต่อมา และขอชมเชยการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่สายตรวจที่ได้ปฏิบัติตามขั้นตอนทางยุทธวิธีเพื่อความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของประชาชนและตัวเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติเอง พร้อมทั้งได้มอบเงินรางวัลแก่เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุมเพื่อเป็นขวัญและกำลังใจในการปฏิบัติหน้าที่ต่อไป
Leave a Response