เมื่อเวลา 09.00 น. วันที่25 มิถุนายน 2565 ผู้สื่อข่าวลงพื้นที่สำรวจการขายข้าวสารหลังจากมีกระแสข่าวข้าวสารจ่อขึ้นราคา 30บาทต่อถุงที่มีน้ำหนัก5กิโลกรัม แต่ทางสมาคมชี้แจงว่าไม่ได้ปรับราคา มีแต่โปรโมชั่นลดลงนั้น

ผู้สื่อข่าวได้เข้าสำรวจราคาขายข้าวสารที่ร้านอำนวยค้าขาว เลขที่ 183 ถนนหน้าเมืองในเขตเทศบาลนครขอนแก่น  ซึ่งเป็นร้านขายข้าวสารที่มีประชาชนมาซื้อข้าวสารอย่างไม่ขาดสาย  โดยที่ทางร้านติดป้ายราคาขายไว้ที่กระสอบข้าวแต่ละชนิดอย่างชัดเจน

นางอำนวย มาซา อายุ 60 ปี  เจ้าของร้าน กล่าวว่า ที่ร้านไม่ได้เป็นสมาชิกของสมาคมผู้ค้าข้าว  แต่ก็พอจะรู้ว่าการขึ้นราคาข้าสารนั้นมาจากสาเหตุใดบ้าง อาจเป็นเพราะน้ำมันขึ้นราคา ก็มีส่วนที่ทำให้ข้าวสารมีการปรับราคาขึ้น  เพราะน้ำมันแพงค่าขนส่งก็แพงขึ้น อีกส่วนหนึ่งน่าจะมาจากการที่ผู้ค้าข้าว ส่งออกข้าวหอมมะลิได้มากขึ้น  เพราะเท่าที่ทราบต่างประเทศ โดยเฉพาะประเทศยูเครนที่มีผลกระทบจากสงคราม ได้มีการสั่งซื้อข้าวจากประเทศไทยจำนวนมากด้วย

“ทุกวันนี้เงียบ ไม่ได้ขายดีเหมือนเมื่อก่อน ตามเศรษฐกิจปัจจุบัน  เพราะลูกค้าที่มาซื้อข้าวบางส่วนซื้อไปไว้ใช้ในครัวเรือน บางส่วนซื้อไปขายต่อแต่ช่วงนี้การค้าขายยังไม่ดีคนซื้อน้อยลงเงียบกว่าเดิมเยอะ ราคาข้าวช่วงนี้มีการปรับราคาขึ้น เพราะโรงสีแจ้งมาโดยก่อนเดือนพฤษภาคมข้าวสารกระสอบ 45 กิโลกรัม กระสอบละ 1,250 บาท ปรับขึ้นมาเป็น กระสอบละ 1,350 บาท แต่ลูกค้าที่เคยมาซื้อก็กลับมาซื้อเหมือนเดิม ช่วงเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมาข้าวปรับราคาขึ้นมาเรื่อยๆตลอดตั้งแต่ต้นเดือน สาเหตุที่ปรับราคาขึ้นเพราะสาเหตุโรงสีปรับขึ้นเนื่องจากส่งออกต่างประเทศได้เยอะและราคาน้ำมันที่แพงขึ้นมีส่วนอย่างมากเพราะค่าขนส่งปรับอย่างอื่นก็ต้องปรับราคาขึ้นตามกลไกการตลาดพฤติกรรมของผู้บริโภคเปลี่ยนไปซื้อน้อยลงจากเดิมและคนก็ไม่ค่อยมีเงิน”

ในขณะที่นายประชารัฐ เหง้าจำปา อายุ 58 ปี ลูกค้าที่มาซื้อข้าวสารที่ร้านดังกล่าว กล่าวถึงถ้ามีการขึ้นราคาข้าวสารนั้น โดยส่วนตัวไม่เดือดร้อน เพราะอยู่ตัวคนเดียวส่วนครอบครัวอยู่ที่ต่างจังหวัดมีที่นา ก็ทำนา มีข้าวกิน จึงไม่เดือดร้อน เพราะเข้าใจกลไกของตลาด แต่รัฐบาลก็ควรออกมาบริหารจัดการ เพื่อลดความเดือดร้อนให้ประชาชนผู้ที่ยากจนและมีรายได้น้อย ขณะที่ลูกค้าอีกคนที่มาซื้อข้าวสารบอกว่า ถ้าถามว่ากระทบไหมมันก็เป็นของที่ต้องซื้อ จะถูกจะแพงก็ต้องซื้อกินทุกวัน