หนุ่มถูกจับเรียกค่าไถ่ สุดท้ายถูกฆ่าโยนศพทิ้งน้ำโขง ญาติรับศพวอนตำรวจล่าตัวคนร้าย (มีคลิป)

คืบหน้า พบศพชายถูกฆ่านำศพโยนทิ้งน้ำโขง ที่จ.นครพนม ล่าสุด ญาติๆเข้ารับศพวอนตำรวจเร่งติดตามล่าตัวคนร้ายที่เกี่ยวข้องทั้งหมดมาดำเนินคดี ด้าน ผู้การฯสืบภาค ส่งทีมสืบสวนลงพื้นที่หาเบาะแสคนร้าย สันนิษฐานอาจจะเป็นไปได้ว่าการตายในครั้งนี้เป็นการลงมือของขบวนการการค้ายาเสพติดข้ามชาติ เชือดไก่ให้ลิงดู ใครโกงตายสถานเดียว


จากกรณีที่ มีชาวบ้านพบศพคนตาย ถูกฆ่าทิ้งลำน้ำโขง ศพติดตลิ่งแม่น้ำโขง พื้นที่ บ้านโคกไก่เซา หมู่ 6 บ.ท่าค้อ ต.ท่าค้อ อ.เมือง จ.นครพนม เมื่อช่วงเย็นของวันที่ 22 พฤษภาคม 2565 ที่ผ่านมา สภาพศพ สวมเสื้อยืดแขนสั้นสีขาว กางเกงขายาวสีดำ กางเกงในบ๊อกเซอร์ บริเวณศีรษะคล้ายถูกตีด้วยของแข็ง ภายในปากมีผ้าอุดไว้ และใช้ผ้าขนหนูปิดปากมัดพันรอบศีรษะอีกรอบ ขณะที่แขนทั้ง 2 ข้างถูกมัดด้วยเชือกไนล่อนสีน้ำตาล ในสภาพมือไพล่หลัง ส่วนขาทั้ง 2 ข้างมีเชือกไนล่อนมัดจนเท้าชิดแนบกัน และจากข้อเท้าบริเวณหน้าแข้งถึงเข่า มีสก๊อตเทปสีขาวพันธนาการโดยรอบไว้อย่างแน่นหนา ตรวจตามร่างกายพบรอยสักสวยงามลวดลายกราฟฟิกเต็มตัว แขนขวามีรอยสักตัวหนังสือระบุว่า ณัฐวุฒิ จำปาบุญ ส่วนที่หลังเท้าซ้าย พบรอยสักเขียนคำว่า ที่พัก สภาพร่างกายผิวหนังส่วนใหญ่เริ่มเปื่อยยุ้ย คาดว่าผู้ตายอาจถูกแช่ในน้ำไม่น้อยกว่า 5 วัน เบื้องต้นคาดว่าอาจถูกฆาตกรรม ก่อนมัดศพโยนถ่วงน้ำอำพราง

ต่อมานางบุญหลาย วงศ์อามาตย์ 65 ปี อยู่บ้านเลขที่ 219 ม.2บ้านเล้าข้าว ต.หินกอง อ.สุวรรณภูมิ จ.ร้อยเอ็ด ซึ่งเป็นแม่บุญธรรม พร้อมญาติ เดินทางมาพบ ร.ต.อ.(หญิง)จุฬารัตน์ อาจภิรมย์ รอง สว.(สอบสวน) สภ.เมืองนครพนม ยืนยันว่าคนตาย คือ นายกิ่งไผ่ ขัตติยนนท์ อายุ 35 ปีลูกชาย ซึ่งก่อนเสียชีวิตอยู่กินกับนางวิไล หาระพันธ์ ชาวบ้านหนองบัวงาม อ.ศรีวิไล จ.บึงกาฬ แล้วลูกชายหายตัวไป กระทั่งมาพบเป็นศพลอยน้ำ สงสัยในการตายของลูกชาย จึงอยากให้ตำรวจทำการสืบสวนสอบสวนหาตัวคนที่เกี่ยวข้องกับการลงมือสังหารโหดลูกชายโยนทิ้งน้ำโขงในครั้งนี้มาดำเนินคดีตามฏฏหมาย เจ้าหน้าที่ตำรวจสภ.เมืองนครพนม จึงได้ส่งศพให้แพทย์นิติเวช รพ.ศรีนครินทร์ ทำการตรวจพิสูจน์ศพ ก่อนจะมอบศพให้ญาตินำกลับไปบำเพ็ญกุศลตามประเพณี

ความคืบหน้าล่าสุด ที่ห้องเก็บศพ แผนกนิติเวช รพ.ศรีนครินทร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น นางบุญหลาย วงศ์อามาตย์ 65 ปี แม่บุญธรรมของคนตาย พร้อมญาติพี่น้องเดินทาง มารับศพผู้ตายกลับไปบำเพ็ญกุศลที่บ้านในจังหวัดร้อยเอ็ด

นางบุญหลาย วงศ์อามาตย์ 65 ปี กล่าวว่า เลี้ยงนายกิ่งไผ่มาตั้งแต่แรกเกิด จึงรับเป็นบุตรบุญธรรม กระทั่งโตเป็นหนุ่ม ก็ไปมีภรรยาที่บ้านหนองบัวงาม อ.ศรีวิไล จ.บึงกาฬ แล้วก็เคยกลับบ้านที่ร้อยเอ็ดอีกเลย มีเพียงลูกชายโทรศัพท์ไปบอกเมื่อหลายปีก่อนว่า ถูกจับในคดียาบ้า แม่ไม่ต้องเป็นห่วง เพราะลูกสบายดี

“ลูกชายหายไปไม่ติดต่อแม่บุญธรรมกับครอบครัวทางจ.ร้อยเอ็ดมา 7 ปี แม่ทราบข่าวคราวอีกทีเมื่อวันที่ 17 พ.ค.ที่ผ่านมา สะใภ้โทรศัพท์ไปบอกว่า ให้มารับเอาศพลูกชาย เพราะลูกชายถูกจับตัวไปเรียกค่าไถ่ที่ประเทศลาว จำนวน 1.5 ล้านบาท แต่สะใภ้ไม่มีเงินให้ เขาจึงจะฆ่าลูกชายทิ้งน้ำโขง ให้แม่มารับศพลูกชายได้เลย เมื่อ รับสายจากลูกสะใภ้แล้ว จึงตอบกลับไปว่า อย่ารับปาก แม่จะไปหาค่อยคุยกัน จากนั้นวันที่ 18 พ.ค.จึงเดินทางไปบ้านลูกสะใภ้ จึงทราบรายละเอียดว่า ลูกชายทำธุรกิจกับชาวลาว และไม่ทราบว่ามีปัญหาอะไรกัน อยู่ๆลูกชายก็ถูกคนจับตัวไปที่ฝั่งลาวแล้วก็มีโทรศัพท์มาหาภรรยา ว่าต้องการเงิน 1.5 ล้านบาท จึงจะปล่อยตัว แต่ครอบครัวไม่มีเงินจ่ายให้”

นางบุญหลาย กล่าวอีกว่า ในวันที่แม่กับพ่ออยู่ที่บ้านสะใภ้ก็มีโทรศัพท์จากคนที่จับตัวลูกชายไปเรียกค่าไถ่ โทรศัพท์มาหาสะใภ้ บอกว่า ถ้าไม่มีเงิน 1.5 ล้านบาท ก็จะลดให้เหลือ 800,000 บาท สะใภ้จึงบอกไปว่า แม่มาแล้วให้คุยกับแม่เอาเอง ซึ่งชายรายดังกล่าวก็บอกแม่เพียงว่า อยากได้เงินถ้าไม่จ่ายแม่ก็ไปแจ้งความลูกชายหายได้เลย ด้วยความกลัวว่าลูกจะถูกฆ่าและเป็นอันตราย จึงถามสะใภ้ว่า คนที่โทรศัพท์มาเรียกค่าไถ่ เป็นใคร ลูกสะใภ้บอกว่า เป็นคนที่ทำธุรกิจและเป็นเพื่อนกับลูกชาย แต่ไม่ได้ถามว่า เป็นคนไทยหรือคนลาว

โดยส่วนตัว ตนและครอบครัวที่จังหวัดร้อยเอ็ด ไม่ทราบรายละเอียดอะไรเกี่ยวกับลูกชายเลย ว่า อยู่กับภรรยาทำมาหากินอะไร เคยมีเรื่องบาดหมางกับใครหรือไม่ แต่เมื่อลูกชายตายแล้ว และตายในสภาพที่ถูกฆ่าอย่างโหดร้ายทารุณเช่นนี้ก็ต้องฝากให้เจ้าหน้าที่ตำรวจ ติดตามสืบสวน จับกุม คนที่ลงมือกระทำ หรือมีส่วนรู้เห็นมาดำเนินคดีตามกฎหมายให้ด้วย

ทางด้าน พล.ต.ต.ณัฐนนท์ ประชุม ผบก.สส.ภ.4 กล่าวถึงกรณีนายกิ่งไผ่ ขัตติยนนท์ อายุ 35 ปี จ.ร้อยเอ็ด มีภรรยาเป็นคนจังหวัดบึงกาฬแล้วถูกฆ่า โยนศพทิ้งน้ำโขง พบศพที่จังหวัดนครพนมว่า ขณะนี้ทีมสืบสวนจากกองบังคับการสืบสวนสอบสวนตำรวจภูธรภาค 4 ลงพื้นที่ไปยังจังหวัดบึงกาฬเป็นที่เรียบร้อยแล้ว อยู่ระหว่างการหาเบาะแสกลุ่มคนที่เกี่ยวข้องกับคนตาย ว่าก่อนหายตัวไป หรือถูกจับตัวไปฝั่งประเทศเพื่อนบ้านนั้น คนตาย ติดต่อกับใคร และนอกจากภรรยาแล้ว คนตายมีสัมพันธ์กับคนอื่นๆอีกหรือไม่ หนีใครหรือไม่ เกี่ยวกันกับขบวนการค้ายาเสพติดหรือไม่ ทั้งหมดนี้ต้องมีการสืบสวน สอบสวนให้ได้รายละเอียด และต้องพิสูจน์ทราบว่า การตายในครั้งนี้ ถูกลงมือฆ่าที่ประเทศไทย หรือต่างประเทศ แล้วจึงโยนศพทิ้งน้ำโขง

แต่จากการสืบสวนเชิงลึกในเบื้องต้นนั้น จำนวนเงินที่บอกว่าเรียกค่าไถ่นั้น ทราบว่าจริงๆแล้ว ขบวนการค้ายาเสพติด ทวงถามเอาเงินที่คนตายติดหนี้ค่ายาบ้า ที่คนตายนำยาบ้ามาขายแล้วไม่จ่ายเงิน ซึ่งอาจจะเป็นไปได้ว่าการตายในครั้งนี้เป็นการลงมือของขบวนการการค้ายาเสพติดข้ามชาติ เชือดไก่ให้ลิงดู ใครโกงตายสถานเดียว อย่างไรก็ตามเจ้าหน้าที่ตำรวจจะมีการสืบสวนสอบสวนให้ชัดเจนในทุกกรณี

Leave a Response

อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง