เจ้าของร้านอาหารตั้งรางวัลนำจับ 20,000 บาท ล่าตัวโจรแอบย่องงัดร้านตัดสายเซิร์ฟเวอร์กล้องวงจรปิด ยกเค้าทรัพย์สินไปหลายรายการรวมมูลค่ากว่า 120,000 บาท คาดคนร้ายมีมากกว่า 1 คน พบกลุ่มคนต้องสงสัยขับจักรยานยนต์พ่วงข้างมาด้อมๆมองๆจะเข้าร้านแต่เจ้าของร้านจ้าง รปภ.มาเฝ้าหลังเกิดเหตุจึงรีบขับหลบหนีไป

เมื่อเวลา 16.30 น. วันที่ 5 เม.ย.2565 ที่ร้านอินเลิฟ สาขา 3 ตั้งอยู่ริมถนนศรีจันทร์ เลขที่ 261 หมู่ 21 บ้านโคกฟันโปง ต.บ้านเป็ด อ.เมือง จ.ขอนแก่น นายพชร สานนท์ อายุ 37 ปี เจ้าของร้านพาผู้สื่อข่าวเดินดูจุดที่คาดว่าคนร้ายเข้ามางัดประตูออฟฟิศของร้าน โดยมาจากทางข้างร้านซึ่งเป็นซอยตัดผ่านข้างร้านไปเข้าถนนใหญ่ และเดินเข้ามางัดประตูแล้วรื้อค้นตัดสายเซิร์ฟเวอร์กล้องวงจรปิดที่มีอยู่ในร้าน 11 ตัว และยกเครื่องเซิร์ฟเวอร์ไปด้วย ทำให้ไม่สามารถตรวจสอบภาพย้อนหลังได้ พร้อมทั้งขโมยทรัพย์สินไปอีกหลายรายการ ประกอบด้วย พาวเวอร์มิกซ์ยี่ห้อยามาฮ่า 1 เครื่อง ตู้แอมป์เบส 1 เครื่อง ตู้แอมป์กีตาร์ 1 เครื่อง เครื่องสแกนลายนิ้วมือ 2 เครื่อง จอคอมพิวเตอร์ 1 จอ โทรทัศน์จอแบน 1 เครื่อง ชุดไมโครโฟน 1 ชุด บอร์ดควบคุมไฟพาร์ 1 เครื่อง และเครื่องสำรองไฟอีก 1 เครื่อง รวมมูลค่ากว่า 120,000 บาท ซึ่งถูกคนร้ายเข้ามาก่อเหตุเมื่อช่วงเที่ยงคืนวันที่ 30 มีนาคมต่อเนื่อง 31 มีนาคม 2565 หลังเกิดเหตุได้เข้าแจ้งความที่ สภ.บ้านเป็ดทันที ซึ่งทางเจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐาน 4 ภ.จว.ขอนแก่นได้เข้ามาตรวจสอบเก็บหลักฐานลายนิ้วมือแฝงทั้งหมดแล้ว อยู่ระหว่างการสืบสวนสอบสวนของตำรวจ สภ.บ้านเป็ดในการติดตามจับกุมตัวผู้ก่อเหตุมาดำเนินคดีตามกฎหมาย

นาย พชร เจ้าของร้านเล่าให้ผู้สื่อข่าวฟังว่า ช่วงเช้าวันที่ 31 มี.ค.2565 หลังเกิดเหตุ ตนเองได้ตรวจสอบกล้องวงจรปิดผ่านมือถือ แต่ขึ้นสถานะออฟไลน์ ทำให้รู้ว่าน่าจะมีความผิดปกติเกิดขึ้นจึงรีบมาดูที่ร้าน ตั้งใจว่าจะเข้ามาเช็คเซิร์ฟเวอร์ก่อนแต่ก็วุ่นวายกับการวิ่งซื้อของมาให้ช่างทำร้าน จนลืมตรวจสอบและไม่ได้เอะใจ กระทั่งเวลา 20.00 น. จะไปล็อคห้องออฟฟิศเพื่อเก็บของเข้าที่และจะกลับบ้าน ก็พบว่ามีร่องรอยโดนงัดประตู จึงได้โทรเรียกนักดนตรีเข้ามาตรวจสอบทรัพย์สิน ก็พบว่าทรัพย์สินต่างๆดังกล่าวหายไป จึงโทรศัพท์แจ้งตำรวจหมายเลข 191 ทางตำรวจ สภ.บ้านเป็ดก็ได้ลงพื้นที่มาตรวจสอบเบื้องต้น และวันต่อมาทางเจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐานก็เข้ามาเก็บลายนิ้วมือและหลักฐานต่างๆ พร้อมกันนี้ตนเองก็ได้จ้าง รปภ.มาเฝ้าในวันที่ 2 เม.ย.2565 ซึ่งในคืนที่ รปภ.มาเฝ้าวันแรกก็พบกลุ่มคนต้องสงสัยขับรถจักรยานยนต์พ่วงข้างมากันประมาณ 3-4 คน มีผู้หญิง 1 คน และมีเด็กวัยรุ่นมาด้วย มีท่าทีว่าจะเข้ามาในร้าน พอ รปภ.เดินไปตรวจสอบซึ่งคาดว่ากลุ่มคนต้องสงสัยจะเห็นแถบสะท้อนแสงที่เสื้อ รปภ.จึงรีบขับหลบหนีไปทางซอยด้านหลังร้าน ซึ่งร้านจะมีทางเข้าออกได้ 3 ทาง คือด้านหน้าร้าน และด้านข้างร้านทั้ง 2 ทาง จึงได้ตั้งรางวัลนำจับจำนวน 20,000 บาทสำหรับผู้ที่แจ้งเบาะแสไปสู่การจับกุมคนร้ายกลุ่มนี้ได้

เจ้าของร้าน บอกอีกว่า อยากจะฝากทางเจ้าหน้าที่ตำรวจและเจ้าของร้านรับซื้อต่างๆซึ่งส่วนใหญ่เป็นทรัพย์สินเกี่ยวกับเครื่องเสียงดนตรี ช่วยตรวจสอบทรัพย์สินหากมีคนนำไปขายในราคาถูกหรือไม่ทราบราคาก็ให้สงสัยเอาไว้ก่อนแล้วโทรแจ้งตำรวจตรวจสอบ หรือแจ้งข้อมูลมาหาตนเองซึ่งได้โพสต์ประชาสัมพันธ์ไว้ในสื่อโซเชียลมีเดียต่างๆ โดยทรัพย์สินต่างๆจะมีตำหนิ มีร่องรอยถลอกจากการใช้งาน หากพบว่ามีใครท่าทางน่าสงสัยนำทรัพย์สินไปขายหรือไปจำนำขอให้รีบแจ้งเบาะแสให้ตำรวจจับกุมตัวดำเนินคดี แล้วตนเองก็จะจ่ายเงินรางวัลนำจับ 20,000 บาทให้ทันที