รองผู้ว่าฯขอนแก่น นำทีมปศุสัตว์จังหวัด พาณิชย์จังหวัด ตำรวจ ปกครอง ตรวจโรงงานแปรรูปสุกร ห้องเย็น 4 จุด ป้องกันการกักตุนสินค้า เบื้องต้นไม่พบความผิดปกติ เตือนผู้ประกอบการอย่ากักตุนหมู หากพบความผิดจะถูกดำเนินคดี

เมื่อเวลา 14.00 น. วันที่ 21 มกราคม 2565 นายสุเทพ มณีโชติ รองผู้ว่าราชการจังหวัดขอนแก่น นายชาญประเสริฐ พลซา ปศุสัตว์จังหวัดขอนแก่น นายชาญยุทธ วันดี พาณิชย์จังหวัดขอนแก่น ฝ่ายปกครองจังหวัด ตำรวจ พร้อมด้วยหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ประชุมหารือมาตรการป้องกันการกักตุนสินค้า โดยเฉพาะเนื้อหมูที่กำลังเป็นที่ต้องการของตลาด พร้อมกับลงพื้นที่สุ่มตรวจห้องเย็น 4 แห่ง ประกอบด้วย 1.บริษัทเบทาโกรอุตสาหกรรม จำกัด ตั้งอยู่หมู่ที่ 3 ต.ในเมือง อ.เมือง จ.ขอนแก่น 2.บริษัทโค-ดี-ซี-อี มาร์เก็ต จำกัด ตั้งอยู่ ต.เมืองเก่า อ.เมืองขอนแก่น จ.ขอนแก่น 3.บริษัทซีพีเอฟ(ประเทศไทย) จำกัด มหาชน ตั้งอยู่หมู่ 9 ต.ดอนหัน อ.เมืองขอนแก่น จ.ขอนแก่น และ 4.บริษัท สมชาย ซีฟู๊ดส์ จำกัด ตั้งอยู่ หมู่ที่ 6 ต.ท่าพระ อ.เมืองขอนแก่น จ.ขอนแก่น

โดยจุดแรกที่เจ้าหน้าที่เจ้าไปตรวจสอบคือ บริษัท เบทาโกรอุตสาหกรรม จำกัด ซึ่งเป็นโรงงานแปรรูปสุกรขอนแก่น พบว่ามีสุกรคงค้างจำนวน 22 ตัน ตรวจบัญชีเข้าออกของสุกรไม่พบความผิดปกติ โดยบริษัทแห่งนี้เป็นโรงงานแปรรูปขนาดใหญ่ กระจายสุกรสำเร็จรูปจำหน่ายทั่วภาคอีสาน ตรวจบัญชีเข้าออกของสุกรไม่พบความผิดปกติ โดยเจ้าของว่าปกติจะฆ่าสุกรวันละ 650 ตัว แต่ช่วงหลังมีการลดลงมาเหลือวันละ 640 ตัว

ส่วนบริษัทโค-ดี-ซี-อี มาร์เก็ต จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทรับฝากสินค้าแช่แข็งแช่เย็นสินค้าทั่วไป สามารถบรรจุได้ 100 ตัน เป็นสินค้าประเภท เนื้อหมู เนื้อไก่ และอาหารทะเล ตรวจสอบเบื้องต้นไม่พบความผิดปกติเช่นกัน โดยผู้จัดการบริษัท บอกว่า ลูกค้าส่วนใหญ่เป็นรายย่อย นำอาหารมาฝากแช่แข็ง ตอนนี้มีสินค้าอยู่ในห้องเย็นประมาณ80เปอร์เซ็นต์ เป็นสินค้าหลากหลายชนิด ยินดีให้เจ้าหน้าที่ตรวจ ซึ่งผู้ประกอบการจำหน่ายเนื้อสุกรหลักๆในขอนแก่นมีประมาณ 13 บริษัท ขณะนี้มีเนื้อสุกรขุนทั้งจังหวัดประมาณ 187 ตัน

รองผู้ว่าราชการจังหวัดขอนแก่น เปิดเผยว่า การลงพื้นที่สุ่มตรวจครั้งนี้เป็นการสร้างความมั่นใจให้กับประชาชน โดยทางจังหวัดขอนแก่นจะลงพื้นที่ต่อเนื่องไปจนถึงช่วงตรุษจีน เพื่อป้องกันผู้ประกอบการกักตุนสินค้า ไม่ใช่เฉพาะหมู แต่จะตรวจสอบค้าชนิดอื่นๆด้วย เช่น เป็ด ไก่ ผลไม้ เป็นต้น เตือนผู้ประกอบการอย่ากักตุนสินค้า ถือว่าสงสารพี่น้องประชาชนที่กำลังลำบาก หากเจ้าหน้าที่ตรวจสอบพบจะมีความผิดทั้งอาญา และความผิดว่าด้วย พรบ.ว่าด้วยราคาสินค้าและบริการ และจะถูกดำเนินคดีตามกฎหมาย