เจ้าของร้านส้มตำวอนรัฐบาลแก้ปัญหาราคาวัตถุดิบอาหารแพง โดยเฉพาะมะละกอที่ปรับราคาขึ้นบางสายพันธุ์ หากมีการขึ้นเรื่อยๆก็ต้องจำเป็นต้องปรับราคาส้มตำขึ้นตามหรืออาจจะเลิกขายไปเลยหากรัฐบาลยังแก้ไขปัญหาคุมราคาไม่ได้

เมื่อเวลา 15.00 น. วันที่ 16 ม.ค.2565 ผู้สื่อข่าวลงพื้นที่สำรวจราคาส้มตำหลังราคามะละกอ อยู่ที่ถุง 10 กก. ราคา 200-280 บาท จากปีที่แล้วราคาอยู่ที่ถุง 10 กก. ราคา 60-70 บาท โดยเฉพาะช่วงปีใหม่อยู่ที่ ถุง 10 กก.ราคา 300 บาท ซึ่งจากการสำรวจที่ตลาดบ้านกอก ต.บ้านเป็ด อ.เมือง จ.ขอนแก่น ซึ่งมีร้านส้มตำหลายร้านตั้งเรียงรายอยู่ริมถนน พบว่า ราคาจำหน่ายส้มตำซึ่งมีมะละกอเป็นวัตถุดิบหลักยังคงจำหน่ายในราคาเดิมคือ 30-60 บาท โดยเฉพาะที่ร้าน ส้มตำตาแอ้บ พบว่ามีลูกค้าทั้งขาประจำขาจรแวะเวียนมาซื้อส้มตำอย่างต่อเนื่อง

พร้อมกันนี้ผู้สื่อข่าวได้สอบถาม นางละมุล คำวัฒน์ อายุ 65 ปี เจ้าของร้านส้มตำตาแอ้บ บอกกับผู้สื่อข่าวว่า ที่ร้านขายส้มตำมากว่า 20 ปีแล้ว ราคามะละกอขณะนี้แพงมาก ยิ่งช่วงเทศกาลปีใหม่ที่ผ่านมา ถุง 10 กก.อยู่ที่ราคา 300 บาท ตอนนี้ลดลงมาเหลืออยู่ที่ 220-280 บาท แต่บางสายพันธุ์เช่นพันธุ์ดำเนินอยู่ที่ถุง 10 กก.ราคา 280 บาท ส่วนสายพันธุ์อื่นอยู่ที่ถุง 10 กก. ราคา 200-250 บาท แม้ว่าจะลดลงแต่ก็ยังถือว่าแพงอยู่ เพราะเมื่อปีที่แล้วราคามะละกอจำหน่ายเพียง ถุง 10 กก.ราคา 60-70 บาทเท่านั้น แต่ทางร้านเองก็ไม่ได้ปรับราคาขายส้มตำขึ้น โดยขายราคาเดิมที่ 40-60 บาท เพราะไม่อยากให้ภาระไปตกอยู่กับลูกค้ามากเกินไป เพราะวันนี้สินค้าต่างๆมีราคาแพงแทบทุกอย่าง ไม่รู้ว่าสาเหตุมาจากอะไร แต่คิดว่าน่าจะเกิดจากราคาน้ำมันที่พุ่งสูงทำให้ต้นทุนขนส่งเพิ่มขึ้น เพราะมะละกอสายพันธุ์ต่างที่ซื้อมานั้นมาจากทางจ.นครปฐม จ.ราชบุรี แต่หากราคายังเพิ่มสูงขึ้นก็จำเป็นจะต้องปรับราคาจำหน่ายส้มตำขึ้นตาม เพราะคงแบกรับราคาไม่ไหวเช่นกัน อยากให้ทางรัฐบาลคุมราคาให้ถูกลงช่วยประชาชน

ขณะที่ร้านส้มตำไม่มีชื่อ ตั้งอยู่ใกล้ๆกัน พบว่า ราคาจำหน่ายส้มตำยังอยู่ที่ราคาเดิมคือเริ่มต้นที่ 30 บาท – 60 บาท โดย นางสมจิต เปรมสีมา เจ้าของร้าน เปิดเผยกับผู้สื่อข่าวว่า ราคามะละกอขณะนี้มีการปรับลดลงมาแล้ว จากเดิมช่วงเทศกาลปีใหม่อยู่ที่ ถุง 10 กก.ราคา 300 บาท ขณะนี้ลดลงมาอยู่ที่ถุง 10 กก. ราคา 200 บาท แต่ก็ยังถือว่าราคาสูงหากเทียบกับเมื่อปีที่แล้วราคา 10 ถุง อยู่ที่ 60-70 บาท หากราคายังเพิ่มขึ้นก็จะต้องปรับราคาขึ้นตาม ถ้าหากไม่ปรับขึ้นก็อยู่ไม่ได้เช่นกัน หากแพงมากเกินไปก็คงจะต้องเลิกขายเมนูส้มตำไปเลย อยากให้ทางรัฐบาลช่วยในเรื่องราคา ไม่ใช่เพียงแค่มะละกอเท่านั้น แต่ทุกอย่างล้วนอต่แพงไปหมด

ทั้งนี้ราคามะละกอปัจจุบันมีราคาแตกต่างกันแล้วแต่สายพันธุ์ ซึ่งมีบางพันธุ์ปรับขึ้นและบางพันธุ์ปรับราคาลง เช่นพันธุ์ดำเนิน ซึ่งเป็นสายพันธุ์ลูกใหญ่ คุณภาพจะดีกว่าทุกๆสายพันธุ์ปรับขึ้นจากเดิน ถุง 10 กก. ราคา 250 บาท เป็น 280 บาท ส่วนสายพันธุ์แขกนวล ถุง 10 กก.อยู่ที่ราคา 220-250 บาท จากเกือบ 300 ส่วนมะละกอป้อมซึ่งจะมีขนาดเล็กสุดอยู่ที่ถุง 10 กก.ราคา 180 บาท ลดลงจากเดิมที่ราคา 220 บาท และจะมีมะละกอสายพันธุ์อื่นๆแบบ 2 แถว 3 แถว และ 4 แถว คือในถุง 10 กก.จะมีมะละกอเรียงกันเป็นแถว โดย 2 แถวอยู่ที่ถุง 10 กก. ราคา 240 บาทลดลงจาก 280 บาท 3 แถวอยู่ที่ถุง 10 กก. ราคา200 บาทลดลงจาก 220 บาท และ 4 แถวอยู่ที่ถุง 10 กก. ราคา 150 บาท จากราคา 200 บาท ซึ่งความแตกต่างของทะละกอแต่ละแถวนั้นขึ้นอยู่กับขนาดหากขนาดเล็กก็จะมีการใส่ในถุง 10 กก. หลายแถว