ตำรวจสภ.พล คุมตัวไอ้เบิร์ด ก่อเหตุนำบัตรประชารัฐไปกดเงินที่ตู้เอทีเอ็ม แต่ไม่ได้ ใช้มือทุบตู้เอทีเอ็มจนพังเสียหาย ชี้จุดทำแผนประกอบคำรับสารภาพ
เมื่อเวลา 11.00 น. วันที่ 10 พฤศจิกายน 2564 พล.ต.ต.นพเก้า โสมนัส ผบก.ภ.จว.ขอนแก่น และ พ.ต.อ.ถนอมสิทธิ์ วงษ์วิจารณ์ ผกก.สภ.พล พร้อมกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน สภ.พล จ.ขอนแก่น คุมตัวนายพิชิต เศษดา หรือ เบิร์ด อายุ 35 ปี ที่อยู่ 163/1 หมู่7 ต.บางไผ่ อ.บางมูลนาก จ.พิจิตร ผู้ต้องหาในคดีทำให้เสียทรัพย์ ไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพที่ตู้ เอทีเอ็ม ธนาคารกรุงไทย ซึ่งตั้งอยู่ที่บริเวณข้างศาลจังหวัดพล ถ.เสริมสวาสดิ์ ต.เมืองพล อ.พล จ.ขอนแก่น
พล.ต.ต.นพเก้า โสมนัส ผบก.ภ.จว.ขอนแก่น กล่าวว่า เนื่องจากเมื่อเวลา 17.20 น.วันที่ 7 พ.ย.ที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ตำรวจสภ.พล ได้รับแจ้งเหตุจากศูนย์วิทยุว่ามีเหตุทุบทำลายตู้ เอ ที เอ็ม ธนาคารกรุงไทย ที่บริเวณข้างศาลจังหวัดพล ถ.เสริมสวาสดิ์ ต.เมืองพล อ.พล จ.ขอนแก่น (ตรงข้ามไปรษณีย์อำเภอพล) จึงได้ไปทำการตรวจสอบ สถานที่เกิดเหตุ พบว่าหน้าจอระบบคอมพิวเตอร์ จอแตกได้รับความเสียหาย ส่วนตู้เซฟเงินไม่ได้ถูกทำลายหรือถูกลักขโมย จากนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน สภ.พลตรวจสอบกล้องวงจรปิดใกล้สถานที่เกิดเหตุ ที่บริเวณสี่แยกไปรษณีย์ พบรูปพรรณสัณฐานของคนร้าย เป็นชายไทย (ไม่ทราบชื่อ-สกุล) รูปร่างสันทัด ทรงผมรองทรงยาว สวมเสื้อยืดแขนสั้นมีลาย สวมกางเกงยีนส์ มีผ้าคาดผม สะพายกระเป๋าสะพายข้างสีน้ำตาล รถจักรยานยนต์ รุ่นเวฟ สีน้ำเงิน ติดอุปกรณ์ส่วนควบครบ ติดสติ๊กเกอร์วงกลมสีขาวที่บังลมฝั่งขวาของตัวรถ ขับขี่เข้ามาที่เกิดเหตุ และทุบที่บริเวณตู้ และพยายามรื้อ และทุบ จากนั้นไม่นานคนร้ายก็ขับขี่รถจักรยานยนต์คันที่ก่อเหตุแล้วขับหลบหนีออกไปทางถนนมิตรภาพ
ต่อมาเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวนจึงได้นำภาพคนร้าย ออกทำการสอบถามบุคคลในพื้นที่ชุมชนดังกล่าว เพื่อหาเบาะแสเพิ่มเติม และได้ข้อมูลต่อมาว่าคนร้ายลักษณะตรงกับ นายพิชิตหรือเบิร์ด เศษดา อาศัยอยู่บ้านไม่มีเลขที่ ภายในชุมชนหนองแวง 3 ต.เมืองพล อ.พล จ.ขอนแก่น เจ้าหน้าที่ตำรวจไปตรวจสอบที่บ้านหลังดังกล่าวไม่พบตัว แต่ไปพบตัวนายพิชิต ขับขี่รถจักรยานยนต์ รุ่นเวฟ สีน้ำเงิน ที่บริเวณริมถนนสาธารณะหน้า อบต.เก่างิ้ว ต.เก่างิ้ว อ.พล จึงควบคุมตัวมาสอบสวน
จากการสอบสวนนายพิชิตให้การรับสารภาพว่า มีอาชีพรับจ้างทั่วไป และติดยาบ้า ก่อนก่อเหตุทุบตู้เอทีเอ็มนั้น ได้เข้าไปทำธุรกรรมการเงินที่ตู้ เอ ที เอ็ม ดังกล่าว โดยนำบัตรประชารัฐไปกดเงินสด แต่ไม่ได้รับเงินสดออกมา จึงเกิดความโมโห ลงมือก่อเหตุทุบไปที่หน้าจอของตู้ เอ ที เอ็ม หลายครั้ง จนทำให้ตู้ เอ ที เอ็ม ได้รับความเสียหาย หลังก่อเหตุตนได้ขับขี่รถจักรยานยนต์ หลบหนีเข้าไปภายในชุมชนหนองแวง 3 จากนั้นตนได้ไปหลบซ่อนตัวอยู่ที่เพิง ใกล้กับ อบต.เก่างิ้ว ต.เก่างิ้ว อ.พล จ.ขอนแก่น กระทั่งถูกตำรวจจับกุม
และในทางการสืบสวนของเจ้าหน้าที่ตำรวจยังพบว่าผู้ต้องหารายนี้เคยถูกจับในคดีเสพยาเสพติดมาแล้ว 2 ครั้ง และในครั้งนี้ผู้ต้องหา ก็รับสารภาพว่า ก่อนจะมาทำธุรกรรมทางการเงินที่ตู้เอทีเอ็มดังกล่าวนั้น ได้เสพยาบ้า 2 เม็ด จากนั้นก็ขับขี่รถจักรยานยนต์ออกจากที่พักมาที่ตู้เอทีเอ็ม ซึ่งขณะที่ผู้ต้องหามาที่ตู้เอทีเอ็มนั้น มีพยานเห็นว่าผู้ต้องหายืนต่อคิวจากประชาชนรายอื่น จากนั้นเมื่อถึงคิวตัวเองก็เดินเข้าไปทุบทำลายตู้ ซึ่งตรงกับภาพที่ได้จากกล้องวงจรปิด จึงเชื่อว่าอาการดังกล่าวและนำมาสู่การก่อเหตุในครั้งนี้น่าจะเกิดจากอาการหลอนหลังเสพยาบ้าเข้าไป จึงได้ทำการตรวจปัสสาวะพบว่าเป็นบวก จึงแจ้งข้อหา เสพยาเสพติดให้โทษประเภท1 (ยาบ้า) โดยผิดกฎหมาย และข้อหาทำให้เสียทรัพย์ ซึ่งทราบจากธนาคารว่า ความเสียหายครั้งนี้ร่วมสองแสนบาท
ภายหลังการทำแผนประกอบคำรับสารภาพ เจ้าหน้าที่ตำรวจได้นำตัวผู้ต้องหาส่งฟ้องฝากขังที่ศาลจังหวัดพลตามขั้นตอนของกฎหมายต่อไป
Leave a Response