นี่เป็นภาพจากกล้องวงจรปิดภายในไซต์งานก่อสร้างสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง ริมถนนมิตรภาพ ม.7 ต.โนนท่อน อ.เมือง จ.ขอนแก่น บันทึกภาพคนร้ายเป็นชายผอม สูงประมาณ 165-175 ซม. สวมเสื้อเชิตแขนสั้นสีน้ำเงิน กางเกงขาสั้นสีเขียว ใช้เสื้อคลุมหัวแล้วสวมใส่หมวกแก๊ปทับ โดยถือไฟฉายพร้อมสะพายกระเป๋าเดินลัดเลาะหาทางเข้ามางัดประตูออฟฟิศ ก่อนจะเข้าไปรื้อค้นหาทรัพย์สินตามโต๊ะทำงานที่อยู่ภายในออฟฟิศ ก่อนจะได้ทรัพย์สินแล้วหลบหนีไป โดยเหตุการณ์เกิดขึ้นเมื่อเวลา 02.00 น. วันที่ 8 ต.ค.2564 ที่ผ่านมา

         ล่าสุด เมื่อเวลา 09.00 น. วันที่ 10 ต.ค.2564 พ.ต.อ.รุ่งศักดิ์ จงกลรัตน์ ผกก.สภ.เวฬุวัน เปิดเผยความคืบหน้าทางคดีว่า ภายหลังเกิดเหตุ เมื่อช่วงเย็นวันที่ 8 ต.ค.2564 ผู้เสียหายได้นำหลักฐานภาพจากกล้องวงจรปิดซึ่งสามารถบันทึกพฤติการณ์ของคนร้ายเอาไว้ได้ทั้งหมดพร้อมภาพใบหน้าของคนร้ายอย่างชัดเจนเข้าแจ้งความกับตำรวจ หลังรับแจ้งทางชุดสืบสวนได้ลงพื้นที่ไปหาเบาะแสของคนร้ายและเก็บรวบรวมหลักฐานกะรอยคนร้ายจากกล้องวงจรปิด กระทั่งทราบเบาะแสทราบตัวคนร้ายดังกล่าวคือ นายนพพล หรือพล ทองสะแก อายุ 30 ปี ที่อยู่ 103 ม.14 ต.บ้านเม็ง อ.หนองเรือ จ.ขอนแก่น และสามารถติดตามจับกุมได้ที่หน้าไซต์งานก่อสร้างสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง ที่คนร้ายเข้าไปก่อเหตุ

         เนื่องจากแนวทางสืบสวนของตำรวจเชื่อว่าคนร้ายจะย้อนกลับมาก่อนเหตุซ้ำอีก เพราะก่อนหน้านี้ทรัพย์สินในไซต์งานฯได้หายไปต่อเนื่องประมาณ 2 วัน จึงวางแผนซุ่มที่หน้าไซต์งาน กระทั่งพบคนร้ายย้อนมาจะลงมือก่อเหตุอีก ทางตำรวจจึงแสดงตัว โดยผู้ต้องหายอมจำนนต่อหลักฐาน ก่อนที่ตำรวจจะนำตัวผู้ต้องหาไปตรวจค้นภายในห้องพักไม่ทราบเลขที่ บริเวณปากทางเข้าบ้านคำบอน ม.11 ต.โนนท่อน อ.เมือง จ.ขอนแก่นฝั่งตรงข้ามไซต์งานก่อสร้างที่เกิดเหตุฯ พร้อมกับตรวจค้นภายในห้องพักพบของกลางที่ถูกขโมยไป 3 รายการ ประกอบด้วย สปอร์ตไลท์ ยี่ห้อ RACER จำนวน 1 เครื่อง สปอร์ตไลท์ ยี่ห้อ PHILIPS จำนวน 1 เครื่องและ หินเจียร ยี่ห้อ NASH จำนวน 1 เครื่อง และทำการตรวจปัสสาวะหาสารเสพติดพบว่าเป็นฉี่ม่วง จึงควบคุมตัวมาสอบสวนที่ สภ.เวฬุวัน ซึ่ง จากการสอบสวน ผู้ต้องหาให้การรับสารภาพว่า ลงมือก่อเหตุวันที่ 8 จริง และทำครั้งแรก คิดว่าไม่มีคนเฝ้าจึงย้อนมาก่อเหตุซ้ำ ก็ถูกตำรวจจับก่อน โดยทรัพย์สินที่ได้จะนำไปขายหาเงินมาซื้อยาบ้าเสพ

         พ.ต.อ.รุ่งศักดิ์ จงกลรัตน์ ผกก.สภ.เวฬุวัน กล่าวอีกว่า จากการสืบสวนนั้นพบว่าผู้ต้องหามีประวัติยุ่งเกี่ยวกับยาเสพติดโดยซื้อยาบ้ามาจากนายต้น อาศัยอยู่ในหมู่บ้านเดียวกันราคาเม็ดละ 80 บาท ซึ่งทางตำรวจก็จะขยายผลติดตามจับกุมนายต้นมาดำเนินคดีตามกฎหมาย ในส่วนของนายพลนั้น ตำรวจไม่ปักใจเชื่อว่าจะก่อเหตุเพียงครั้งเดียว ซึ่งจากพฤติการณ์ของคนร้ายและข้อมูลการสืบสวนสอบสวนเชื่อว่าจะก่อเหตุที่ไซต์ก่อสร้างมาแล้วหลายครั้งก่อนจะย่ามใจย้อนกลับมาก่อเหตุ แต่ก็ไม่รอดสายตาเจ้าหน้าที่ โดยนำทรัพย์สินไปฝากไว้กับเพื่อนที่ห้องพักตรงข้ามไซต์งานตำรวจ ตม. ทั้งปั๊มน้ำ เครื่องเชื่อมเหล็กและอุปกรณ์เครื่องใช้อื่นๆ โดยอยู่ระหว่างการสอบสวนขยายผลเอาผิด หากพบว่าใครมีส่วนเกี่ยวข้องให้การช่วยเหลือผู้ต้องหาก็จะต้องถูกดำเนินคดีตามกฎหมายทั้งหมด