หญิงวัย 53 ชาว อ.หนองสองห้อง จ.ขอนแก่น โพสต์เฟซบุ๊กเตือนภัยตามสื่อโซเชียลต่างๆ หลังสั่งซื้อโทรศัพท์มือถือราคาถูกโดยเก็บเงินปลายทาง แต่ขอยกเลิกการสั่งซื้อถูกร้านข่มขู่จะเอาผิดตามกฎหมายหากไม่รับของ สุดท้ายต้องจำใจจ่ายเงินไป ได้สายชาร์จโทรศัพท์มือถือกับน้ำยาปรับผ้านุ่มแทน

        มีกรณีผู้ใช้เฟซบุ๊กชื่อ “บ่ ปาก” โพสต์คลิปและข้อความระบุว่า เตือนภัย อย่าหลงเชื่อ เด้อ จ้า โดยในคลิปเป็นเหตุการณ์ที่หญิงรายหนึ่งได้รับพัสดุจากบริษัทขนส่งเอกชนและมีการเก็ยเงินปลายทางไป 200 บาท หลังสั่งซื้อโทรศัพท์มือถือ แต่สุดท้ายถูกหลอกได้ของเป็นสาร์จโทรศัพท์มือถือ 1 เส้น และน้ำยาปรับผ้านุ่ม 1 ถุง

        ต่อมาเมื่อเวลา 12.00 น.วันที่ 23 กันยายน 2564 ผู้สื่อข่าวลงพื้นที่ไปพบนางอธิตรา สุดทอง อายุ 53 ปี ที่บ้านเลขที่ 46 ม.14 บ้านเหล่าดารา ต.หนองเม็ก อ.หนองสองห้อง จ.ขอนแก่น ซึ่งเป็นผู้โพสต์คลิปดังกล่าวโพสต์เตือนภัยให้ประชาชนได้รับรู้ ถึงกลโกงของคนขายสินค้าตีกลับ หรือสินค้ามีตำหนิ แล้วนำมาไลฟ์สดขายในราคาถูก หลังสั่งซื้อโทรศัพท์มือถือ แต่ได้สายชาร์จและน้ำยาปรับผ้านุ่มแทน

        นางอธิตรา สุดทอง อายุ 53 ปี หลังจากได้นำกล่องกระดาษสีน้ำตาล ที่บรรจุกล่องใส่สายชาร์จโทรศัพท์มือถือและน้ำยาปรับผ้านุ่ม มาให้ผู้สื่อข่าวดู โดยยืนยันว่า ได้รับกล่องดังกล่าวจากได้สั่งซื้อโทรศัพท์มือถือหลังดูการไลฟ์สดขายผ่านเพจเฟซบุ๊กของผู้ขายรายหนึ่ง หลังดูการไลฟ์สด จึงสนใจอยากได้โทรศัพท์มือถือ ที่พอจะนำมาให้หลานเรียนออนไลน์ได้ จึงได้ทักแชทไปหาคนขายตามชื่อเพจดังกล่าว เพื่อสั่งซื้อโทรศัพท์มือถือ แต่ไม่ได้เจาะจงว่าเอารุ่นไหน ขอเพียงแค่ใช้งานได้ และหลานเรียนออนไลน์ก็พอ ทางเพจจึงมีการตอบรับและว่าจะส่งโทรศัพท์มาให้ ลูกค้าจะมีค่าใช้จ่ายที่ปลายทางเท่านั้น

        หลังสั่งซื้อก็มานั่งคิดว่า ทำไมทางเพจไม่พูดถึงราคาสินค้าหรือแจ้งรายละเอียดว่า ลูกค้าจะได้โทรศัพท์รุ่นใด คิดว่าจะต้องไม่มีความโปร่งใส กลัวจะถูกหลอก จึงแชทแจ้งไปยังเพจอีกครั้งว่า ขอยกเลิกการซื้อ ทางเพจจึงตอบกลับว่า ห้ามยกเลิก ถ้ายกเลิกจะมีความผิดตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์มาตรา 168และ 458 มีโทษปรับ 20,000บาท หรือจำคุก1 ปี เมื่อได้รับข้อความตอบกลับว่า ถ้ายกเลิกจะมีความผิด จึงอยู่เงียบๆ รอรับสินค้าที่ทางเพจส่งมาให้ กระทั่งช่วงบ่ายวันที่ 22 กันยายน ที่ผ่านมา ก็มีพนักงานส่วนสินค้าของเอกชนมาส่งพัสดุให้ ก่อนจะแกะกล่อง คุยกับสามีว่า ควรถ่ายคลิปไว้ เผื่อมีความไม่ชอบมาพากล จากนั้นตนก็แกะกล่อง สามีก็ถ่ายคลิป เมื่อแกะออกมาดูก็เห็นเพียงกล่อยใส่สายชาร์จและถุงน้ำยาปรับผ้านุ่มเท่านั้น ไม่มีโทรศัพท์มือถือตามที่สั่งไป และจ่ายค่าส่งพัสดุที่มาเก็บปลายทางจำนวน 200บาท โดยมีที่อยู่ผู้ส่ง อยู่ที่ในตำบลในเมือง อ.เมือง จ.ขอนแก่น พร้อมเบอร์โทรศัพท์ แต่ไม่ได้โทรหา เพราะไม่อยากพูดคุยด้วย

        นางอธิตรา กล่าวอีกว่า รู้ว่าถูกหลอก ก็รู้สึกเสียใจ เพราะเป็นเพียงคนบ้านนอก ที่ต้องการโทรศัพท์มือถือมาให้หลานเรียนออนไลน์ เมื่อถูกหลอก จึงโพสคลิปพร้อมข้อความเพื่อเตือนภัยให้พี่น้องชาวอ.หนองสองห้องระวังกลโกงจากมิจฉาชีพ ผ่านเพจคนค้าขาย หนองสองห้อง ให้ทุกคนระวัง เพราะเงินแต่ละบาทที่เสียไป ต้องเข้าป่าหาเห็ด เก็บผักตามท้องนามาขาย แต่จะไม่แจ้งความเอาผิดกับเพจที่ไลฟ์สดขายรนายดังกล่าว ถือว่าตัวเองเสียรู้และเป็นเงินจำนวนไม่มาก เพราะต้องการแค่เตือนภัยชาวบ้าน ให้ระวัง การสั่งซื้อสินค้าให้มากขึ้น เพราะไม่เช่นนั้นจะถูกโกงได้ และได้สินค้าไม่ตรงตามที่เราต้องการ