วงจรปิดจับภาพเยาวชนชาย อายุ 13 ปี ปีนกำแพงร้านค้าของชำในหมู่บ้าน 3 วันรวด เข้าไปเปิดลิ้นชักขโมยเอาเงินเหรียญของร้านไป แจ้งความก็ทำอะไรเด็กไม่ได้ สุดท้ายจำใจต้องควักเงินทำตาข่ายกั้นรอบบ้าน ฝากเป็นอุทาหรณ์ให้ดูแลบุตรหลานให้ดี

        นี่เป็นภาพจากกล้องวงจรปิดของร้านบัวพุทธาพานิช ตั้งอยู่บ้านเหล่าเกวียนหัก ต.บ้านทุ่ม อ.เมือง จ.ขอนแก่นบันทึกภาพเหตุการณ์เด็ก13ปีแอบเข้ามาภายในร้านแล้วเปิดลิ้นชักเอาเงินเหรียญต่างๆของทางร้านไปจนหมด โดยใช้เวลาก่อเหตุนานหลายนาทีก่อนจะหลบหนีปีนกำแพงกลับไปทางเดิม โดยเหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อเวลาประมาณ 23.30 น. กลางเดือน ก.ค.2564 ที่ผ่านมา โดยเจ้าของร้านได้แจ้งความเอาไว้ที่ สภ.บ้านเป็ด จ.ขอนแก่น

        ล่าสุดเมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 21 ก.ย.2564 ผู้สื่อข่าวลงพื้นที่ไปที่ร้านบัวพุทธาพานิช ซึ่งเป็นร้านที่เกิดเหตุโดยได้พบกับ นางสาวพิมพ์ลภัส พงษ์สุข อายุ 39 ปี 235 หมู่ 5 บ้านเหล่าเกวียนหัก ต.บ้านทุ่ม อ.เมือง จ.ขอนแก่น เจ้าของร้านกำลังนั่งขายของอยู่ภายในร้าน ซึ่งจากการสอบถามทางเจ้าของร้านก็พาผู้สื่อข่าวดูจุดที่เด็กชายวัย 13 ปีดังกล่าวปีนกำแพงเข้ามาข้างร้าน ก่อนจะคลานเข้าไปในร้านโดยมีกล้องวงจรปิดจับภาพเอาไว้ได้

        นางสาวพิมพ์ลภัส เจ้าของร้านเล่าให้ผู้สื่อข่าวฟังว่า เหตุการณ์ดังกล่าวนั้นเป็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นต่อเนื่อง 3 วันรวด ตั้งแต่วันที่ 17- 18 – 19 ก.ค.2564 ที่ผ่านมา ซึ่งกว่าจะรู้ตัวก็หมดเงินไปเยอะ ก่อนที่จะรู้นั้น ปกติตนเองจะเก็บเงินธนบัตรแล้วเหลือเงินเหรียญไว้เผื่อใส่บาตรตอนเช้า แต่ก็พบว่าเงินเหรียญหายไปจึงได้ถามสามีก็ไม่เห็นจึงเปิดกล้องวงจรปิดดูในวันที่ 19 ซึ่งก่อเหตุเป็นครั้งที่ 3 แล้ว โดยครั้งแรกนั้นเริ่มมาขโมยเงินในวันที่ 17 ก.ค.ต่อเนื่อง 18 และ 19 ก.ค.64 โดยได้เข้าแจ้งความแล้วแต่ตำรวจก็อธิบายว่าเป็นเด็กเยาวชนจับไปก็ต้องปล่อยอยู่ดี จึงไม่สามารถำอะไรได้ ตนเองก็ได้พูดคุยกับผู้ใหญ่บ้านและผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้าน ก็สรุปได้ว่าคงต้องแก้ที่ตัวเราเอง ต้องยอมควักเงินซื้อตะข่ายมาล้อมปิดรอบบ้านไม่ให้สามารถปีนเข้าได้อีก ซึ่งตอนนี้ก็เริ่มทำไปจนจะเสร็จแล้ว

        ซึ่งเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นนั้นมองว่าทำไมคนทำผิดถึงไม่ได้ชดใช้ความผิด แต่ผู้เสียหายกลับตอนเป็นฝ่ายเสียเงินแก้ไขเรื่องที่เกิดขึ้นแทน แทนที่จะใช้ชีวิตตามปกติโดยไม่ต้องระแวงว่าจะมีโจรเข้ามางัดร้านอีกมั้ย อยากจะฝากเป็นอุทาหรณ์ถึงผู้ปกครองให้ดูแลบุตรหลานให้ดีถ้ารู้ว่าเป็นภัยต่อสังคม และอยากฝากหน่วยงานอื่นๆที่ไม่ใช่ตำรวจเข้ามาตรวจสอบช่วยเหลือแก้ไขปัญหาดังกล่าวอย่างยังยืน เพราะเด็ก 13 ปี ดังกล่าวนั้นรู้ตัวว่าเป็นเด็กในหมู่บ้านห่างไปจากร้านตนเอง 4 หลัง และได้คุยกับผู้ปกครองเด็กก็ทราบว่าไม่มีพ่อแม่ อยู่กับย่า ย่าก็ไม่สามารถทำอะไรได้ก็ให้เป็นไปตามกฎหมาย