ขอนแก่น คุมตัว2ผู้ต้องหาลักเด็ก5ขวบทำแผน สารภาพทำไปเพราะรัก

ตำรวจ สภ.น้ำพอง คุมตัว 2 ผู้ต้องหาลักพาตัวน้องภัทร เด็กชายวัย 5 ขวบไปที่จังหวัด สกลนคร มาทำแผนประกอบคำรับสารภาพ โดยนายเต้สารภาพทำไปเพราะรัก เอ็นดูน้องภัทรเหมือนลูกคนหนึ่ง ไม่ได้ตีน้องในรถตามที่เป็นข่าว ส่วนนายกาย เพื่อนที่มาด้วย ยืนยันไม่ตั้งใจไม่รู้มาก่อนว่าเพื่อนจะก่อเหตุ

         เมื่อเวลา 16.00 น.วันที่ 8 กันยายน 2564 พ.ต.อ.พัฒนศักดิ์ ยี่สารพัฒน์ ผกก.สภ.น้ำพอง จ.ขอนแก่น และ พ.ต.ท.สามารถ พิมพ์ดีด สว.สส.สภ.น้ำพอง และกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจอีกหลายนาย ควบคุมตัว นายสุรพงษ์ แก้วกิ่ง หรือนายเต้ อายุ 22 ปี อยู่บ้านเลขที่ 85 หมู่ 16 ต.วาสรนิวาส อ.วานรนิวาส จ.สกลนคร และนายวรวุธ พาละการ หรือ กาย อายุ 23 ปี อยู่บ้านเลขที่ 6207 หมู่ที่ 10 ต.แวง อ.สว่างแดนดิน จ.สกลนครผู้ต้องหาในคดี ร่วมกันพรากผู้เยาว์ พร้อมรถยนต์กระบะ ยี่ห้อ โตโยต้า สีบลอนด์ ทะเบียน บษ-9032 สกลนคร ยานพาหนะคันที่ใช้ก่อเหตุ ไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพในจุดเกิดเหตุกลางถนน หน้าโรงเรียนบ้านโสกม่วง ม.4 ต.พังทุย อ.น้ำพอง จ.ขอนแก่น จุดที่ผู้ต้องหาทั้ง 2 คน ร่วมกันลักพาตัว น้องภัทรหรือ เด็กชายวรวัฒน์ แข็งขัน วัย 5 ขวบ บุตรชายของนางสาวพิจิตรา ชีกว้าง อายุ 25 ปี อยู่บ้านเลขที่ 68 ม.4 บ้านโสกม่วง ตำบลพังทุย อำเภอน้ำพอง จังหวัดขอนแก่น หญิงหม้ายที่เลิกกับสามีมากว่า 4 ปี แต่นายสุรพงษ์ แก้วกิ่ง หรือนายเต้ อายุ 22 ปี ผู้ต้องหา หลงรักฝ่ายหญิง แต่ฝ่ายหญิงไม่คบหาและขอเลิกคบ ผู้ต้องหาจึงก่อเหตุลักพาตัวลูกชายของฝ่ายหญิง กลับไปอยู่ที่บ้านในพื้นที่อ.วานรนิวาส จ.สกลนคร เพื่อให้ฝ่ายหญิงไปรับลูกชายคืนแล้วจะรั้งตัวฝ่ายหญิงให้อยู่กินด้วยกัน แต่ฝ่ายหญิงแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจสภ.น้ำพอง ติดตามหาตัวลูกชาย และให้จับกุมผู้ต้องหามาดำเนินคดีตามกฎหมาย

         โดยบรรยากาศมีชาวบ้านในพื้นที่จำนวนมากต่างมาเฝ้ารอดูการทำแผนในวันนี้เป็นจำนวนมาก รวมทั้งน้องภัทรเด็กชายวัย 5 ขวบที่ถูกลักพาตัวก็เดินทางมาดูด้วยเช่นกัน ซึ่งน้องภัทรเองจากการพูดคุยกับน้องพบว่าร่าเริงดี หยอกล้อกับคนแปลกหน้าไม่มีความกลัว ขณะที่เจ้าหน้าที่ตำรวจได้จัดชุดสายตรวจและชุดสืบสวนคอยสังเกตการณ์เพื่อไม่ให้เกิดเหตุการณ์ไม่สงบขึ้น ซึ่งทุกอย่างก็สามารถผ่านพ้นไปได้ด้วยดี

         ในส่วนของการทำแผนนั้นเริ่มจากจุดแรก ซึ่งเป็นจุดที่ นายเต้ ผู้ต้องหาเป็นคนขับรถกระบะ มาจอดที่กลางถนนหน้าบ้านบ้านของน้องภัทรซึ่งห่างจากบ้านประมาณ 50 เมตร แล้วสั่งให้นายกาย เพื่อนที่นั่งมาในรถ ลงไปอุ้มเอาเด็กชายภัทร ที่เดินอยู่ริมถนนหน้าบ้านขึ้นรถแล้วขับหลบหนีไป ส่วนพี่ชายวัย 9 ขวบจำได้ว่าเป็นรถนายเต้จึงรีบวิ่งเข้าไปในบ้านญาติ โดยนายกายหรือนายวรวุธ พาละการ เปิดเผยว่า นายเต้ขับรถไปหาที่บ้านแล้วบอกว่า ให้นั่งรถไปเป็นเพื่อน เพื่อไปรับเอาลูกชายที่อยู่กับภรรยามาเลี้ยง จึงนั่งรถมาเป็นเพื่อน โดยนายเต้บอกให้อุ้มพาขึ้นรถเพราะเป็นลูกของนายเต้ เพื่อที่จะพากลับบ้านที่ จ.สกลนคร กระทั่งถูกตำรวจตามจับ จึงรู้ว่าเป็นการลักพาตัวลูกคนอื่น รู้สึกโกรธที่เพื่อนโกหก จนต้องถูกจับเข้าคุกเพราะช่วยเพื่อน และขอโทษพ่อแม่เด็กไม่ได้ตั้งใจและไม่รู้มาก่อนว่านายเต้จะลงมือทำอะไร

         ขณะที่นายเต้ เปิดเผยกับผู้สื่อข่าวว่า หลังจากพาน้องขึ้นรถก็ขับรถมุ่งหน้าไป จ.สกลนครทันที โดยใช้เส้นทางเลียบคลองชลประทานก่อนจะมาเติมน้ำมันที่ปั๊มน้ำมันริมถนนสายน้ำพอง-กระนวน และออกเดินทางต่อไปผ่าน อ.ศรีธาตุ จ.อุดรธานี แล้วมุ่งหน้าไป จ.สกลนครทันที ระหว่างทางยืนยันว่าไม่มีการทำร้ายร่างกายน้องแต่อย่างใด ไม่มีการใช้ไม้ตีศีรษะตามที่เป็นข่าว พอถึงบ้านตัวเองก็พาอาบน้ำกินข้าวและพาเข้านอน ไม่คิดจะตีน้องเด็ดขาดเพราะคิดเป็นลูกคนหนึ่ง

         หลังจากจุดแรก เจ้าหน้าที่ตำรวจก็นำตัวนายเต้เดินทางไปชี้จุดที่จอดรถ มองดูบ้านฝ่ายหญิง ซึ่งอยู่ห่างจากจุดแรกประมาน 50 เมตร ซึ่งในจุดดังกล่าว นายเต้ กล่าวว่า รักฝ่ายหญิงและรักน้องภัทรเหมือนลูก อยากได้ไปอยู่ด้วยกัน จึงตามหาตัวฝ่ายหญิงแต่ไม่พบ จึงเอาลูกชายไปแทน โดยได้ขับรถวนไปมาผ่านหน้าบ้านฝ่ายหญิงหลายครั้ง แต่ไม่พบตัว พบลูกชายเดินอยู่ริมถนนจึงลักพาตัวไปที่บ้านที่อ.วานรนิวาส จ.สกลนคร โดยไม่ได้ทำร้ายเด็กแต่อย่างใด กระทั่งถูกตำรวจสภ.น้ำพอง ตามจับกุมตัวได้ ในส่วนการก่อเหตุครั้งนี้ ทำเพราะความรักที่มีต่อฝ่ายหญิง ไม่ได้ประสงค์ร้าย จึงขอโทษฝ่ายหญิงและครอบครัวด้วย

         การทำแผนประมาน 30 นาที ท่ามกลางความสนใจของชาวบ้านนับร้อยคน ที่ต่างก็พูดว่า ความรักทำให้คนขาดสติ ถูกจับเข้าคุกแล้ว ก็ขอให้ทำตัวดีดี ออกมาเป็นคนดีของพ่อแม่ และรักคนที่เขารักเราดีกว่า จากนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ควบคุมตัวผู้ต้องหาเดินทางออกจากหมู่บ้านทันที เตรียมส่งฟ้องศาลฝากขังผลัดแรกที่ศาลจังหวัดขอนแก่นในวันพรุ่งนี้

         พ.ต.อ.พัฒนศักดิ์ ยี่สารพัฒน์ ผกก.สภ.น้ำพอง กล่าวภายหลังการทำแผนว่า ผู้ต้องหาให้ความร่วมมือเจ้าหน้าทีตำรวจเป็นอย่างดี โดยเฉพาะนายเต้ รับสารภาพว่า รักฝ่ายหญิงที่เป็นมารดาของน้องภัทรมากคบหากันมาประมาน 4 เดือน แต่ฝ่ายหญิงไม่ยอมคบหาต่อและขอเลิกคบ พยายาตามง้อหลายครั้งก็ยังไม่ยอมคบ จึงตจัดสินใก่อเหตุ เพื่อให้ฝ่ายหญิงเห็นใจ แต่ฝ่ายหญิงแจ้งตำรวจจับ และขอยอมรับผิดในสิ่งที่ตัวเองก่อเหตุขึ้น ในส่วนของเจ้าหน้าที่ตำรวจก็ได้แจ้งข้อหาเพียงข้อหาเดียวคือข้อหาร่วมกันพรากเด็กอายุยังไม่เกิน15 ปี ไปเสียจากบิดามารดาหรือผู้ปกครองผู้ดูแล ส่วนกรณีที่เด็กชายภัทรบอกพ่อแม่ว่า ถูกนายเต้ทำร้ายร่างกายนั้น นายเต้ให้การปฏิเสธ และยังไม่มีพยาน หลักฐานยืนยัน จึงไม่ได้แจ้งข้อหาเพิ่ม ซึ่งหลังจากนี้ก็จะมีการสอบสวนเพิ่มเติม และคัดค้านการประกันตัวในชั้นพนักงานสอบสวน เมื่อการสอบสวนเสร็จสิ้น ก็จะส่งผู้ต้องหาทั้ง 2 คน เพื่อฝากขังที่ศาลจังหวัดขอนแก่นตามขั้นตอนต่อไป

 

Leave a Response

อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง