ซึ่งจากการสอบสวนนางสาวพิจิตรา ทราบว่า คนที่มาลักพาตัวลูกชายไป คือ นายสุรพงษ์ แก้วกิ่ง หรือนายสุ อายุ 22 ปี อยู่บ้านเลขที่ 85 หมู่ 16 ต.วาสรนิวาส อ.วานรนิวาส จ.สกลนคร ซึ่งเป็นชายที่คบหากันมาประมาณ 4 เดือน และได้เลิกรากันไป ได้มาเอาน้องภัทรซึ่งเป็นลูกของ น.ส.พิจิตรา กับสามีเก่า ที่ถนนภายในหมู่บ้านโสกม่วง ขึ้นรถยนต์กระบะ ยี่ห้อ โตโยต้า ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียน ขับหลบหนี และเชื่อว่านายสุ จะพากลับไปบ้านตนเอง ที่อ.วานรนิวาส จ.สกลนคร ขอให้เจ้าหน้าที่ตำรวจช่วยติดตามเอาตัวลูกชายกลับคืนมาและดำเนินคดีกับนายสุให้ถึงที่สุด

        ผกก.สภ.น้ำพอง กล่าวอีกว่า จากการสอบสวนมารดาของเด็กยังทราบอีกว่า นายสุ อดีตแฟนหนุ่มเคยก่อนเหตุลักพาตัวลูกชายมาแล้ว 1 ครั้งเมื่อวันที่ 29 สิงหาคม ที่ผ่านมา แต่มารดาของเด็กได้ไปขอลูกชายคืนจากนายสุ โดยนายสุมีข้อแม้ว่า มารดาของเด็กต้องอยู่ด้วย 3 วันจึงจะคืนให้ เมื่อมารดาตกลง จึงเดินทางไปที่บ้านนายสุ อยู่กับนายสุ ครบ 3 วันก็รับตัวลูกชายกลับบ้าน จากนั้นฝ่ายหญิง มารดาของเด็กชายภัทรก็ขอเลิกและตัดขาดกับนายสุ กระทั่งวันที่ 6 กันยายน ที่ผ่านมา นายสุ ได้นำรถยนต์กระบะของมารดา ขับมาที่บ้านพักฝ่ายหญิงในอ.น้ำพอง เพื่อมาขอคืนดี แต่ไม่พบฝ่ายหญิง พบแต่ลูกชาย เดินเล่นอยู่ในหมู่บ้าน จึงอุ้มขึ้นรถกลับบ้านที่สกลนคร เมื่อเจ้าหน้าทีตำรวจทราบรายละเอียด จึงติดตามหานายสุที่บ้าน แต่ทราบว่า ยังไม่เข้าบ้าน จึงตามไปที่บ้านเพื่อนสนิทกระทั่งพบนายสุ พักอยู่ในบ้านเพื่อน ซึ่งน้องภัทรก็อยู่ด้วย จึงเข้าควบคุมตัวนายสุไว้

        จากการสอบสวนในเบื้องต้น นายสุ ยอมรับว่า รักฝ่ายหญิงและรักน้องภัทรเหมือนลูกชาย แต่ฝ่ายหญิงไม่ยอมมาอยู่ด้วย และขอเลิกคบ ไม่รู้จะทำอย่างไรให้ฝ่ายหญิงกลับมาหา จึงตัดสินใจเอาน้องภัทรกลับบ้านด้วย เพราะเชื่อว่าฝ่ายหญิงจะตามมาเอาลูกชายคืน ก็จะถือโอกาสขอคืนดี และอยู่ด้วยกัน และไม่คิดว่าฝ่ายหญิงจะแจ้งตำรวจจับ ส่วนการก่อเหตุครั้งนี้ มีเพื่อนอีกคนมาช่วยขับรถให้ด้วย ภายหลังการสอบสวน

        ในเบื้องต้นได้แจ้งข้อหา ร่วมกันพรากผู้เยาว์ ควบคุมตัวกลับมาดำเนินคดีที่สภ.น้ำพอง ส่วนเพื่อนที่ร่วมก่อเหตุอยู่ระหว่างการหลบหนี เจ้าหน้าที่ก็กำลังตามหาตัวมาดำเนินคดีตามกฎหมายเช่นกัน ส่วนน้องภัทร ปลอดภัยและไม่มีร่องรอยการถูกทำร้ายแต่อย่างใด จึงได้ส่งตัวคืนให้กับมารดาเรียบร้อยแล้ว