หลายหมู่บ้านอำเภอกระนวน จังหวัดขอนแก่น ส่อเค้าแล้งหนักน้ำในบ่อที่ใช้ผลิตประปาแห้งขอด ฝนก็ไม่ตก นาข้าวเริ่มแห้งตาย อำเภอต้องเร่งหาเครื่องสูบน้ำสูบน้ำจากแหล่งน้ำไกล้เคียงส่งไปเติมบ่อน้ำที่ใช้ผลิตน้ำประปาระยะทางกว่า 1,500 เมตรที่ใกล้แห้ง ชาวบ้านเผยปีนี้แล้งหนักสุดในรอบหลายสิบปี

        นายสุรชัย บุษราคัม นายกเทศมนตรีตำบลหนองโน อ.กระนวน จ.ขอนแก่น เปิดเผยว่า ขณะนี้ปริมาณน้ำในหนองคูใหญ่ พื้นที่ ต.หนองโน ซึ่งแหล่งกักเก็บน้ำเพื่อใช้ผลิตน้ำประปาให้ประชาชน 3 หมู่บ้าน ประชากรกว่า 3,000 คนไว้อุปโภคบริโภค ได้แก่ หมู่บ้านหนองโน หมู่ 1 หมู่บ้านประชาชื่น หมู่ 7 และหมู่บ้านศรีประชาใหม่ หมู่ 6 ตอนนี้เริ่มแห้งขอดจนมองเห็นเนินดินและเกาะแก่งโผล่เป็นบริเวณกว้าง รวมทั้งมองเห็นตอไม้จำนวนมากที่จมอยู่ใต้น้ำภายในหนองน้ำที่โผล่ขึ้นมาจนมองเห็นอย่างชัดเจน จนทำให้ต้องร้องขอไปยังอำเภอกระนวนให้นำเครื่องสูบน้ำขนาดใหญ่มาสูบน้ำจากหนองตะว้าแหล่งกักเก็บน้ำที่อยู่ห่างออกไปเพื่อนำน้ำมาเติมที่หนองคูใหญ่ระยะทางไกลกว่า 1,500 เมตรให้เพียงพอต่อการผลิตน้ำประปาให้ประชาชนมีน้ำกินน้ำใช้ โดยการสูบน้ำครั้งนี้เป็นครั้งที่ 3 ในรอบปี หลังจากที่เมื่อปลายเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมาน้ำเริ่มแห้ง จนต้องสูบมาเติมในครั้งแรก ต่อมาปลายเดือนมิถุนายนผ่านมาน้ำก็แห้งอีกก็ต้องสูบมาเติมอีกจนมาครั้งนี้ เนื่องจากไม่มีฝนตกในพื้นที่ โดยจะสูบจนกว่าจะมีระดับน้ำเพียงพอต่อการผลิตน้ำประปา ซึ่งคาดว่าจะใช้เวลา 15 วันหรือจนกว่าจะไม่สามารถสูบได้เนื่องจากน้ำหมดหนองตะว้า

        นายอนันต์ สะโมรินทร์ กำนันตำบลหนองโน กล่าวเพิ่มเติมว่า ปีนี้แล้งหนักมากถือว่าหนักสุดในรอบหลาย 10 ปี เนื่องจากพื้นที่ตำบลหนองโนอยู่นอกเขตชลประทาน ต้องพึ่งน้ำธรรมชาติมาเติมหนองน้ำ 2 แห่ง แต่เนื่องจากปีนี้ไม่มีฝนตกในพื้นที่เลย ทำให้น้ำในหนองที่มีไม่มากเพราะปีที่ผ่านมาก็แล้งเริ่มเหลือจนแห้ง ทุกปีช่วงหน้าแล้งจะมีการสูบน้ำเข้าหนองเพียงครั้งเดียวก็สามารถใช้ได้ตลอดปี แต่มาครั้งนี้ต้องสูบถึง 3 ครั้งแล้ว โดยทางนายทวิช พิมพะ นายอำเภอกระนวนได้ลงพื้นที่มาตรวจสอบแล้วและรับปากว่าจะขอสนับสนุนงบประมาณมาขุดลอกหนองน้ำให้สามารถกักเก็บน้ำได้มากขึ้น

        ขณะที่นายจรัส โคตรศรีวงษ์ ชาวบ้านหนองโน หมู่ 1 เล่าว่า นอกจากจะขาดแคลนน้ำอุปโภคบริโภคแล้ว ขณะนี้นาของตนที่นาเพียง 3 ไร่ ลงมือปลุกข้าวเมื่อเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมาโดยหวังพึ่งน้ำฝน ซึ่งขณะนี้ต้นข้าวกำลังเจริญเติบโตแต่กลับพบว่าไม่มีฝนตกในพื้นที่ ทำให้ขณะนี้ข้าวในนาเริ่มทยอยแห้งเหลืองรอวันตาย ตอนนี้ได้แต่ทำใจแล้ว อาจจะไม่มีข้าวให้เก็บเกี่ยวหากสถานการณ์ยังเป็นเช่นนี้ ส่วนที่นาแปลงอื่น ๆ ของชาวบ้านก็ประสพปัญหาเช่นเดียวกัน ซึ่งทั้ง 3 หมู่บ้านมีพื้นที่การเกษตรกว่า 4,000 ไร่ ขณะนี้ขาดน้ำอย่างหนักคาดว่าน่าจะเสียหายแทบทั้งหมด