คลัสเตอร์เรือนจำขอนแก่นระบาดหนักติดเพิ่มรวม929คนแล้ว (มีคลิป)

news2021_Facebook1

นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดขอนแก่นเผย คลัสเตอร์เรือนจำกลางขอนแก่นเชื้อไวรัสโควิด-19 แพร่ระบาดหนัก ทำให้จำนวนนักโทษติดเชื้อแล้ว สะสมรวม 929 คน จากการตรวจ 1,620 คน ส่วนที่เหลืออีกกว่า 3 พันคน สั่งปรับแผนใหม่ระดมรถเอกซเรย์ตรวจปอดนักโทษที่เหลือทั้งหมด หากพบมีฝ้าและติดเชื้อจ่ายยารักษาทันที พร้อมสั่งห้ามเคลื่อนย้ายนักโทษทั้งหมดทั้งชายและหญิง

        เมื่อเวลา 15.00 น. วันที่ 23 ก.ค.2564 ผู้สื่อข่าวติดตามความคืบหน้าคลัสเตอร์เรือนจำกลางขอนแก่น หลังพบนักโทษชายติดเชื้อโควิด-19 จำนวน 315 คน โดยได้รับการเปิดเผยจากนายแพทย์สมชายโชติ ปิยวัชร์เวลา นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดขอนแก่น ทราบว่า หลังจากพบนักโทษติดเชื้อวิด-19 ทางทีมสอบสวนโรคก็ได้ระดมทีมตรวจเชิงลึกเพิ่มทั้งหมด 1,620 คน ซึ่งเป็นกลุ่มเสี่ยงสูง จากนักโทษในเรือนจำกลางขอนแก่นทั้งหมด 4,458 คน และวันนี้จากการตรวจเชิงลึกทั้ง 1,620 คน พบว่าผลการตรวจออกมาติดเชื้อเพิ่มสะสมรวมล่าสุดอยู่ที่ 929 คน ซึ่งก่อนหน้านี้ที่มีแผนจะย้ายนักโทษหญิงไปยังเรือนจำข้างเคียงก็ตรวจพบว่ามีนักโทษหญิงติดเชื้อโคสิด-19 จำนวน 5 คน จึงได้มีการสั่งปรับแผนในการจัดการควบคุมโรค

นายแพทย์สมชายโชติ ปิยวัชร์เวลา นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดขอนแก่น
นายแพทย์สมชายโชติ ปิยวัชร์เวลา นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดขอนแก่น

        โดยแบ่งเป็น 2 ส่วน ประกอบด้วยส่วนที่ 1 ให้ทำการ บับเบิล แอนด์ ซีล ผู้ที่เกี่ยวข้องทั้งหมด ได้แก่เจ้าหน้าที่เรือนจำทั้งหมด 135 คน ที่จะต้องมีการอยู่เวรยามและใช้ระบบ 727 คืออยู่เวร 7 วัน พัก 2 วัน และอยู่เวรต่ออีก 7 วัน เป็น 2 ผลัด หลังจากนั้นจะให้มีการฉีดวัคซีนกระตุ้นเข็มที่ 3 ให้กับบุคลากรของเรือนจำ และในส่วนของผู้ต้องขังที่ป่วย 929 คน จะแบ่งออกเป็น 2 กลุ่ม คือ กลุ่มผู้สูงอายุและ7กลุ่มโรคเรื้อรังไปอยู่แดนหอประชุมกลางและนอกเหนือจากกลุ่มนี้ จะจัดให้อยู่อีกจุดหนึ่ง สำหรับผู้ต้องขังหญิงจากการคัดกรองพบว่าผลเป็นบวก 5 คน จะไม่ให้มีการเคลื่อนย้ายใดๆ และจะใช้หอพักเรือนจำเป็นที่รักษา และนักโทษชายหญิงที่เหลืออีก2,838 คน จะไม่มีการสวอปเพิ่ม แต่จะทำการเอกซเรย์ปอด หากเอกซเรย์แล้วปอดมีฝ้าจึงจะทำการสวอปซ้ำ หากผลเป็นบวกจะทำการรักษาต่อไป แต่หากผลเป็นลบ จะแยกกักตัวเนื่องจากมีความเสี่ยง และวางแผนที่จะใช้หอเรือนนอนในการแยกกลุ่มเป็นที่พักรักษา และได้ให้กรมราชทัณฑ์ขอสนับสนุนวัคซีนในนามกรมราชทัณฑ์เพิ่มเติม

        ส่วนที่ 2 จะขอสนับสนุนยาต้านไวรัสเพิ่ม และการสนับสนุนรถเอกซเรย์ ในการช่วยตรวจ และจะมีการเชื่อมต่อระบบบริการของโรงพยาบาลขอนแก่น ในเบื้องต้นจะใช้กรณีศึกษาของเรือนจำ ในการจัดทำเป็นโมเดล เพื่อให้เรือนจำดูแลผู้ป่วยในทุกระดับยกเว้นผู้ป่วยสีแดง หากเป็นผู้ป่วยสีเหลืองก็จะมีการเพิ่มเครื่องออกซิเจนเข้าไป เนื่องจากถ้าหากให้ผู้ต้องขังออกมาจะมีประเด็นเกี่ยวกับข้อกฎหมาย ที่ต้องมีการกักตัว รวมถึงโรงพยาบาลที่รองรับที่แน่นอยู่แล้ว แต่หากโรงพยาบาลมีเตียงเพียงพอ ก็พร้อมที่จะนำมาดูแล คลัสเตอร์เรือนจำนี้ถือเป็นสิ่งที่ท้าทาย ในกรณีที่ศูนย์หรือสถานพินิจที่มีคนอยู่จำนวนมาก จะต้องมีระบบการคัดกรองที่ดีกว่านี้

        นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดขอนแก่น กล่าวว่า ขณะนี้ยังไม่สามารถหาสาเหตุได้ว่ามีการรับเชื้อมาจากไหน เพราะจากการวัดระดับค่าแลปได้ค่าประมาณ 38 ซึ่งหมายความว่ามีการติดเชื้อมาเป็นเวลาประมาณ 2-3 สัปดาห์ เมื่อมีการสอบสวนเบื้องต้นพบว่าไม่ได้สัมผัสอะไร และจากผลการตรวจเชื้อจากผู้คุมผลเป็นลบทั้งหมด ในระบบของเรือนจำผู้ต้องขังรายใหม่นั้นได้มีการกักตัว 21 – 28 วัน ซึ่งอาจจะมีบางคนที่กักตัวครบแต่ไม่ได้ตรวจซ้ำ จึงได้เสนอทางออกว่าให้มีการสวอปผู้ต้องขังรายใหม่ทุกคนก่อน :yahoo: :yahoo: :yahoo:

Leave a Response

อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง