⏱️ แช่น้ำเกลือแค่ 5–10 นาที เพียงพอ
🧂 เกลือเข้มข้นเกิน ทำผักเหี่ยว วิตามินหาย
🥗 ผักแต่ละชนิด ใช้วิธีล้างไม่เหมือนกัน
⚠️ แช่นาน ไม่ได้กำจัดสารเคมีทั้งหมด

พฤติกรรมการแช่ผักในน้ำเกลือเป็นเวลานาน ก่อนนำมาปรุงอาหาร ยังคงพบได้ทั่วไปในหลายครัวเรือน โดยมีความเชื่อว่ายิ่งแช่นาน ผักจะยิ่งสะอาดและปลอดภัยจากเชื้อโรคมากขึ้น อย่างไรก็ตาม ผู้เชี่ยวชาญด้านความปลอดภัยทางอาหารออกมาเตือนว่า การแช่ผักในน้ำเกลือนานเกินความจำเป็น ไม่เพียงไม่เพิ่มประสิทธิภาพในการกำจัดจุลินทรีย์ แต่ยังทำให้สารอาหารสำคัญในผักลดลง และกระทบต่อรสชาติและความกรอบของผักอีกด้วย

ในหลายครอบครัว โดยเฉพาะในประเทศแถบเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ การล้างผักมักรวมถึงการแช่น้ำเกลือ เพื่อหวังขจัดแบคทีเรีย ไข่พยาธิ แมลงขนาดเล็ก และสารตกค้างจากยาฆ่าแมลง น้ำเกลือสามารถช่วยได้ในระดับหนึ่ง เนื่องจากเมื่อเกลือละลายน้ำ จะเกิดสภาพแรงดันออสโมติกสูง ช่วยให้สิ่งสกปรกและจุลินทรีย์บางชนิดหลุดออกจากผิวผักได้ง่ายขึ้น

อย่างไรก็ตาม ผู้เชี่ยวชาญย้ำว่า น้ำเกลือไม่ใช่วิธีที่สามารถกำจัดสารเคมีกำจัดศัตรูพืชได้ทั้งหมด โดยเฉพาะสารที่ซึมเข้าไปในเนื้อเยื่อของผัก การแช่ผักเป็นเวลานานโดยหวังว่าจะ “ล้างสารพิษออกให้หมด” จึงเป็นความเข้าใจที่คลาดเคลื่อน

คำแนะนำจากผู้เชี่ยวชาญด้านความปลอดภัยอาหารระบุว่า ระยะเวลาที่เหมาะสมในการแช่ผักในน้ำเกลือเจือจางคือเพียง 5–10 นาทีเท่านั้น ซึ่งเพียงพอสำหรับการทำความสะอาดผิวผัก ลดจำนวนจุลินทรีย์ทั่วไป และไม่ทำให้ผักนิ่มหรือสูญเสียสารอาหาร ความเข้มข้นของเกลือควรอยู่ที่ประมาณ 1–2 ช้อนชาต่อน้ำ 1–2 ลิตร การใช้น้ำเกลือที่เค็มเกินไปไม่ได้ช่วยให้ผักสะอาดขึ้น แต่กลับทำให้ผักเหี่ยวเร็วและวิตามินละลายน้ำสูญเสียไป

สำหรับผักแต่ละประเภท ควรใช้วิธีล้างที่แตกต่างกัน ผักใบเขียว เช่น ผักบุ้ง กะหล่ำปลี หรือผักกาดหอม ควรแช่น้ำเกลือเจือจางไม่เกิน 10 นาที แล้วล้างด้วยน้ำสะอาดหลายครั้ง ผักประเภทหัว เช่น แครอท หัวไชเท้า หรือมันฝรั่ง เพียงล้างด้วยน้ำไหลผ่านและปอกเปลือกก็เพียงพอ ไม่จำเป็นต้องแช่น้ำเกลือ ขณะที่สมุนไพรและเครื่องเทศอย่างผักชี ต้นหอม หรือผักชีลาว ควรล้างอย่างรวดเร็ว เพราะการแช่น้ำนานจะทำให้กลิ่นหอมจางหาย

ส่วนผักออร์แกนิก หากมาจากแหล่งที่เชื่อถือได้ การล้างด้วยน้ำสะอาดหลายๆ ครั้งก็เพียงพอ ไม่จำเป็นต้องแช่น้ำเกลือนาน

ผู้เชี่ยวชาญยังเตือนว่า การแช่ผักในน้ำเกลือเป็นเวลานานทำให้วิตามินที่ละลายในน้ำ เช่น วิตามินซีและวิตามินบี สูญเสียไปได้ง่าย อีกทั้งเกลือจะดึงน้ำออกจากเซลล์ผัก ทำให้ผักนิ่ม ช้ำ และไม่น่ารับประทาน

ลำดับการล้างผักที่ถูกต้องคือ เด็ดใบที่เหี่ยวหรือเสียออก ล้างด้วยน้ำไหลเพื่อขจัดดินและทราย แช่น้ำเกลือเจือจางประมาณ 5–10 นาที จากนั้นล้างด้วยน้ำสะอาดอย่างน้อย 2–3 ครั้ง และสะเด็ดน้ำก่อนนำไปปรุงอาหาร วิธีการง่ายๆ นี้ช่วยให้ผักสะอาด ปลอดภัย และคงคุณค่าทางโภชนาการได้ดีกว่าการแช่น้ำเกลือเป็นเวลานาน

#ล้างผักให้ถูกวิธี
#สุขภาพครอบครัว
#ความปลอดภัยอาหาร
#เคล็ดลับในครัว
#เทรนด์ดูแลสุขภาพ

ทีมข่าวขอนแก่นลิงก์