🔥 ขอนแก่นเดือด! ขนยาบ้า 3 ล้านเม็ดกลางดึก ตชด.ไล่ล่าระทึกกลางทาง ก่อนรวบเครือข่ายยานรก “999”

IMG_0125

ตชด.ภาค 2 สกัดยาบ้าล็อตใหญ่กว่า 3 ล้านเม็ด รวบ 2 ผู้ต้องหาขณะลำเลียงจากบึงกาฬ มุ่งหน้าสระบุรี มูลค่ากว่า 100 ล้านบาท พบเป็นยาบ้า 999 ที่ส่วนใหญ่ระบาดเฉพาะภาคเหนือ คาดเปลี่ยนเส้นทางใช้สายอีสานเพราะอาจจะคิดว่ากำลังเจ้าหน้าที่ส่วนใหญ่ไปชายแดนกัมพูชา

เมื่อเวลา 14.30 น. วันที่ 19 ธ.ค. 2568 ที่กองบังคับการตำรวจตระเวนชายแดนภาค 2 (บก. ตชด. ภาค 2) พ.ต.อ. คณิต กลิ่นศรีสุข รองผู้บังคับการตำรวจตระเวนชายแดนภาค 2 พร้อมเจ้าหน้าที่ชุดปฏิบัติการข่าว บก. ตชด. ภาค 2 , บูรณาการร่วมกับ สำนักการข่าว กอ.รมน., ขกท. กกล. สุรศักดิ์มนตรี, สำนักปราบปราม ป.ป.ส., กก.3 บก.ปส.2 อุดรธานี, สำนักปราบปรามยาเสพติด ปป.4 และ ชปพ.ศอ.ปส.ทร. (นสร.กร.) ร่วมกันแถลงข่าวผลการสกัดจับกุมรถยนต์ยี่ห้อโตโยต้า รุ่นอแวนซา สีเทา หมายเลขทะเบียน กย- 4957 อุดรธานี ที่บริเวณสะพานข้ามทางรถไฟ ริมถนนหมายเลข 2246 ตำบลโนนข่า อ.พล จ.ขอนแก่น พร้อมตรวจยึดยาบ้าจำนวนกว่า 3 ล้านเม็ด มูลค่ารวมกว่า 100 ล้านบาท

พ.ต.อ. คณิต กล่าวว่า เจ้าหน้าที่ได้รับแจ้งเบาะแสจากประชาชนว่า มีรถต้องสงสัยเข้ามาในพื้นที่และมีการขนย้ายสิ่งของผิดกฎหมาย โดยยังไม่ทราบเส้นทางแน่ชัด เจ้าหน้าที่จึงบูรณาการกำลังร่วมกับหลายหน่วยงาน วางกำลังเฝ้าระวังทุกเส้นทางที่คาดว่าจะใช้ลำเลียงยาเสพติดจากพื้นที่จังหวัดบึงกาฬ เข้าสู่พื้นที่ตอนกลางของประเทศ จนกระทั่งช่วงกลางดึกที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่พบรถต้องสงสัยวิ่งอยู่บนถนนมิตรภาพ บริเวณแยกบ้านไผ่ อ.บ้านไผ่ จ.ขอนแก่น จึงติดตามอย่างต่อเนื่อง ก่อนที่รถจะมุ่งหน้าไปทาง อ.พล และเลี้ยวเข้าสู่เส้นทางไป จ.นครราชสีมา เจ้าหน้าที่จึงแสดงตัวเข้าตรวจสอบและตรวจค้นรถยนต์ยี่ห้อโตโยต้า รุ่นอแวนซา สีเทา หมายเลขทะเบียน กย -4957 อุดรธานี พบยาบ้าบรรจุในถุงสีดำ จำนวน 8 ถุง รวมประมาณ 3,000,000 เม็ด ซุกซ่อนอยู่ภายในห้องโดยสารด้านหลังคนขับ ซึ่งสามารถควบคุมตัวผู้ต้องหาได้ 2 ราย ประกอบด้วย นายสุข อายุ 65 ปี ชาว จ.หนองคาย และ น.ส.วรรณิศา อายุ 38 ปี ชาว จ.ลำพูน จึงแจ้งข้อกล่าวหา “ร่วมกันจำหน่ายยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (เมทแอมเฟตามีนหรือยาบ้า) โดยมีไว้เพื่อจำหน่าย อันเป็นการกระทำเพื่อการค้า ก่อให้เกิดการแพร่กระจายในหมู่ประชาชน และกระทบต่อความมั่นคงของรัฐ หรือความปลอดภัยของประชาชนทั่วไป”

“จากการสอบสวน ผู้ต้องหาทั้งสองให้การรับสารภาพว่า ได้รับการว่าจ้างจากชายชาวไทยผ่านแอปพลิเคชันไลน์ ให้ไปรับยาเสพติดจากพื้นที่อำเภอปากคาด จังหวัดบึงกาฬ เพื่อนำไปส่งให้กลุ่มเป้าหมายในจังหวัดสระบุรี โดยได้รับค่าจ้างคนละ 40,000 บาท ได้รับเงินล่วงหน้ามาแล้วคนละ 5,000 บาท และยอมรับว่าเคยลำเลียงในลักษณะดังกล่าวมาแล้ว 2 ครั้ง ครั้งนี้นับเป็นครั้งที่ 3 โดยไม่พบประวัติเคยต้องโทษมาก่อน ทั้งนี้ ผู้ต้องหามีหน้าที่เพียงรับรถจากนายทุนและขับไปส่งตามคำสั่งเท่านั้น”

พ.ต.อ. คณิต กล่าวต่อว่า สำหรับผู้ว่าจ้าง เจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างขยายผล ทราบชื่อเล่นว่า “นายโจ” คาดว่าเป็นเครือข่ายค้ายาเสพติดข้ามชาติรายใหญ่ นอกจากนี้ ยังพบว่ายาบ้าของกลางมีสัญลักษณ์ “999” ซึ่งปกติพบในพื้นที่ภาคเหนือ ถือเป็นครั้งแรกที่ตรวจพบในพื้นที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ โดยปกติพื้นที่นี้จะพบสัญลักษณ์ Y1 เจ้าหน้าที่เชื่อว่าเครือข่ายยาเสพติดได้เปลี่ยนเส้นทางลำเลียงจากภาคเหนือมาใช้เส้นทางภาคอีสาน เนื่องจากสถานการณ์การกดดันตามแนวชายแดนไทย–กัมพูชา จึงเชื่อว่ากำลังเจ้าหน้าที่จะน้อยลง ซึ่งหากยาเสพติดล็อตดังกล่าวหลุดรอดเข้าสู่พื้นที่ จะส่งผลกระทบร้ายแรงต่อประชาชนและความมั่นคงของประเทศ หลังจับกุมได้นำตัวผู้ต้องหาทั้ง 2 รายพร้อมของกลางส่งพนักงานสอบสวนดำเนินคดีตามกฎหมายอย่างเคร่งครัด และอยู่ระหว่างขยายผลเครือข่ายที่เกี่ยวข้องเพิ่มเติมต่อไป


Leave a Response

ใส่ความเห็น

เรื่องล่าสุด