ตำรวจขอนแก่นรวบผู้ต้องหา ขบวนการจำนำทองปลอม คาร้านทอง ตระเวนขายฝากหลายจังหวัด ใช้สร้อยเงินชุบทอง น้ำหนัก 10 บาท หลอกร้านทอง ทำมาแล้ว 16 ครั้ง เงินหมุนเวียนกว่า 8 ล้านบาท
เมื่อเวลา 10.30 น. วันที่ 15 ธันวาคม 2568 พ.ต.อ.ชินวัฒน์ ศรีสวัสดิ์ รองผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดขอนแก่น พร้อมด้วย พ.ต.อ.ยศวัจน์ แก้วสืบธัญนิจ ผกก.สภ.เมืองขอนแก่น และเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน ชุดป้องกันและปราบปราม สภ.เมืองขอนแก่น ร่วมกันแถลงข่าวผลการจับกุม นายวุฒิโรจน์ อายุ 35 ปี อยู่ ซ.ร่วมพัฒนา ถ. กลางเมือง ต.หนองแสง อ.เมืองนครพนม จ.นครพนม และ นายวีรภัฎ(แซม) อยู่ซอยเจริญนคร 57 แขวงสำเหร่ เขตธนบุรี กรุงเทพมหานคร พร้อมของกลางทองรูปพรรณปลอม 5 เส้น เงินสด 550,000 บาท รถเก๋งยี่ห้อฮอนด้าซิตี้ สีขาว ทะเบียน 6 ขธ-7611 กรุงเทพมหานคร

สืบเนื่องจาก เจ้าหน้าที่ตำรวจได้รับแจ้งจากร้านทองแห่งหนึ่งในพื้นที่ตำบลศิลา อ.เมืองขอนแก่น (ขอสงวนชื่อร้านทอง ห้างทองเยาวราช 1 ขอนแก่น) ว่า มีคนนำสร้อยคอทองคำ ลายหวาย น้ำหนัก 10 บาท มาขายฝากที่ร้าน ทางร้านให้ราคา 550,000 บาท แต่ร้านตรวจสอบแล้วพบว่า เป็นทองปลอม เพราะเป็นสร้อยเงิน เคลือบด้วยเนื้องทองคำ 96.5% จึงขอให้เจ้าหน้าที่ตำรวจจับกุมตัวคนที่นำทองปลอมมาจำนำที่ร้านให้ด้วย

หลังรับแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจสภ.เมืองขอนแก่น จึงรีบเดินทางไปที่ร้านทองดังกล่าว ก็พบนายวีรภัฎ นั่งอยู่ในร้าน ซึ่งทางร้านยืนยันว่า เป็นคนนำทองปลอมมาขายฝากที่ร้าน แล้วยังพบรถเก๋งยี่ห้อฮอนด้าซิตี้ สีขาว ทะเบียน 6 ขธ-7611 กรุงเทพมหานคร มีนายวุฒิโรจน์ นั่งในรถ จึงได้นำนายวีรภัฎ ตรวจปัสสาวะพบเป็นสีม่วง ซึ่งนายวีรภัฎ ยอมรับว่า เสพยาไอซ์ จึงแจ้งความผิดเกี่ยวกับยาเสพติด และพบบุหรี่ไฟฟ้าในตัวของนายวุฒิโรจน์ จึงแจ้งความผิดเกี่ยวกับ พ.ร.บ.ศุลกากร
พ.ต.อ.ยศวัจน์ แก้วสืบธัญนิจ ผกก.สภ.เมืองขอนแก่น กล่าวอีกว่า จากการสอบสวนนายวีรภัฎ เกี่ยวกับการนำสร้อยคอรูปพรรณ น้ำหนัก 10 บาทมาขายฝากที่ร้านทองดังกล่าว ในเบื้องต้น ให้การรับสารภาพว่า ได้นำสร้อยคอทองคำน้ำหนัก 10 บาทมาขายฝากที่ร้านดังกล่าวจริงโดยมีนายวุฒิโรจน์ ร่วมก่อเหตุด้วย และจากการสอบสวนขยายผลทั้ง 2 คน ทราบว่า การนำทองรูปพรรณน้ำหนัก 10 บาทมาขายฝากตามร้านทองต่างๆนั้น ทำร่วมกันมาทั้งหมด 16 ครั้ง โดยเริ่มดำเนินการมาตั้งแต่เดือนพฤศจิกายน 2568 จนถึงปัจจุบัน นำทองมาขายฝากในร้านทองในพื้นที่ อ.เมือง จ.ขอนแก่น จำนวน 6 ร้าน พื้นที่ จ.อุดรธานี จำนวน 4 ร้าน พื้นที่ จ.สกลนคร 3 ร้าน ในกรุงเทพฯและปริมณฑล 4 ร้าน ได้เงินมาประมาณ 8,000,000 บาท
ทุกอย่างดำเนินการตามคำสั่งจากชาย ที่ใช้ชื่อในแอพลิเคชั่น เทเลแกรมใช้ชื่อแอคเคาน์ว่า Jinbae หรือบอส โดยบอสจะสั่งการให้คนนำทองรูปพรรณมาส่งมอบให้ครั้งละ 10 เส้น แต่ละเส้นหนัก 10 บาท จากนั้นบอสก็จะสั่งการให้นำทองแต่ละเส้นไปขายตามร้านทองต่างๆที่บอสส่งโลเคชั่นให้ ทั้งสองคนก็จะทำตาม โดยนายวุฒิโรจน์ จะเป็นคนรับทองมาจากคนของบอส จากนั้นก็มามอบให้นายวีรภัฎ นำไปขายฝากในร้าน ซึ่งหลังดำเนินการเสร็จสิ้น นายวีรภัฎ จะได้รับเงินค่าจ้างครั้งละ 20,000 บาท นายวุฒิโรจน์ได้ค่าจ้าง 6,000 บาท ซึ่งหลังหักค่าจ้างออก เงินสดที่เหลือนายวุฒิโรจน์จะนำเข้ามาที่กรุงเทพฯ จากนั้นบอสจะให้รถจักรยานยนต์รับจ้างมารับเงินสดจากนายวุฒิโรจน์ไปส่งให้บอส
หลังการสอบสวนจึงแจ้งข้อหากับผู้ต้องหาทั้ง 2 คนในข้อหา ร่วมกันฉ้อโกง ทั้งนี้ชุดสืบสวน สภ.เมืองขอนแก่นจะได้ทำการสืบสวนขยายผลหาผู้ร่วมกระทำความผิดที่ทำหน้าที่ต่างๆในขบวนการจำนำทองปลอม ที่ตระเวนก่อเหตุหลายพื้นที่ภาคอีสาน พร้อมทั้งประชาสัมพันธ์ตำหนิรูปพรรณสร้อยรูปพรรณลักษณะคล้ายทอง น้ำหนัก 10 บาท ให้ห้างทอง ร้านทองทราบ หากพบว่ามีความเสียหายแนะนำให้พบพนักงานสอบสวนเพื่อแจ้งความร้องทุกข์ดำเนินคดีต่อไป
นอกจากนี้นายวุฒิโรจน์หรือ สับปะรด ฉายบุญครอง อายุ 35 ปี ยังถูกตรวจพบบุหรี่ไฟฟ้าแบบใช้แล้วทิ้งยี่ห้อ Guess Bamboo จำนวน 1 ชิ้น อยู่ภายในรถเก๋งคันดังกล่าว จึงถูกแจ้งข้อหา ช่วยซ่อนเร้น ช่วยจำหน่าย ช่วยพาเอาไปเสีย ซื้อ หรือรับไว้โดยประการใด ซึ่งของอันตนรู้ว่าเป็นของที่เข้ามาในราชอาณาจักร โดยยังมิได้ผ่านพิธีการศุลกากรโดยถูกต้อง ตามมาตรา 246 วรรคหนึ่ง ของ พ.ร.บ.ศุลกากร พ.ศ. 2560 พร้อมของกลาง ส่วนนายวีรภัฎ ถูกตรวจปัสสาวะ พบสารเสพติด จึงถูกแจ้งข้อหา เสพยาเสพติดให้โทษประเภท1 (เมทแอมเฟตามีน) โดยผิดกฎหมาย ควบคุมตัวทั้ง 2 คน ส่งพนักงานสอบสวนสภ.เมืองขอนแก่น นำตัวไปดำเนินคดีตามขั้นตอนของกฏหมายต่อไป



Leave a Response