⏰ คาเฟอีนค้างร่างกายยาว 5–6 ชั่วโมง
😴 ลดหลับลึก–ทำให้หลับยาก
💓 ใจสั่น–กระสับกระส่ายจากระบบประสาทถูกกระตุ้น
🌙 ทำลายนาฬิกาชีวภาพของร่างกาย

ผู้เชี่ยวชาญด้านสุขภาพเตือนว่าการดื่มกาแฟในช่วงเย็น โดยเฉพาะหลังเวลา 16.00 น. อาจส่งผลกระทบต่อคุณภาพการนอนหลับและการทำงานของระบบประสาท แม้หลายคนจะดื่มกาแฟเพื่อเพิ่มความตื่นตัวระหว่างวัน แต่คาเฟอีนมีฤทธิ์คงอยู่ในร่างกายได้หลายชั่วโมง ทำให้การดื่มในเวลาที่ไม่เหมาะสมส่งผลเสียต่อร่างกายโดยไม่รู้ตัว

ผลกระทบแรกที่พบได้บ่อยคือการ “นอนหลับยากและคุณภาพการนอนลดลง” เนื่องจากคาเฟอีนมีค่าครึ่งชีวิตประมาณ 5–6 ชั่วโมง การดื่มหลัง 16.00 น. ทำให้ระดับคาเฟอีนยังคงอยู่ในเลือด จนสมองยังคงตื่นตัว ส่งผลให้ใช้เวลานานกว่าจะหลับได้ แม้สามารถหลับได้ แต่คาเฟอีนจะรบกวนช่วงการหลับลึก ทำให้ตื่นกลางดึกบ่อยครั้ง และตื่นเช้ามาแล้วไม่สดชื่นเหมือนพักผ่อนไม่เพียงพอ

นอกจากนี้ คาเฟอีนยัง “กระตุ้นระบบประสาทและส่งผลต่ออารมณ์” ทำให้หัวใจเต้นเร็ว ใจสั่น หรือมีอาการกระสับกระส่าย โดยเฉพาะผู้ที่ไวต่อคาเฟอีนหรือดื่มในปริมาณมาก ระดับคาเฟอีนสูงก่อนนอนอาจกระตุ้นให้เกิดความวิตกกังวลได้มากขึ้นในผู้ที่มีประวัติอยู่แล้ว

ผลกระทบอีกประการคือ “การรบกวนสมดุลของร่างกายโดยรวม” ซึ่งเกิดจากการนอนที่ผิดเวลาและคุณภาพต่ำ ทำให้นาฬิกาชีวภาพหรือ Circadian Rhythm แปรปรวน ร่างกายสับสนระหว่างช่วงตื่นและพักผ่อน ส่งผลต่อสมดุลของฮอร์โมนหลายชนิด รวมถึงทำให้ระบบประสาททำงานหนักเพื่อขจัดคาเฟอีน จนทำให้รู้สึกล้า หงุดหงิด หรือไม่สบายตัวในวันถัดไป

สรุปแล้ว การดื่มกาแฟหลังเวลา 16.00 น. อาจส่งผลเสียชัดเจนต่อคุณภาพการนอนและสุขภาพระบบประสาท การหลีกเลี่ยงเครื่องดื่มคาเฟอีนช่วงเย็นจะช่วยให้หลับง่ายขึ้น และตื่นมาพร้อมความสดชื่นในวันใหม่

#กาแฟช่วงเย็น #คาเฟอีนทำให้นอนไม่หลับ #นาฬิกาชีวภาพ #คุณภาพการนอน #สุขภาพประจำวัน
#หลับลึกสำคัญ #งดกาแฟหลังบ่ายสี่ #ใจสั่นเพราะคาเฟอีน #เทรนด์สุขภาพ2025 #WellnessTrend
#ดื่มกาแฟอย่างไรให้ปลอดภัย #นอนหลับดีชีวิตดีขึ้น #เคล็ดลับนอนหลับ #หลีกเลี่ยงคาเฟอีน #ไลฟ์สไตล์สุขภาพ
#SleepQuality #CaffeineEffect #สุขภาพระบบประสาท #พักผ่อนเพียงพอ #ข่าวสุขภาพมาแรง
#กาแฟกับสุขภาพ #หลับยากทำไงดี #คาเฟอีนครึ่งชีวิต #กระแสสุขภาพออนไลน์ #เทรนด์โซเชียล

ทีมข่าวขอนแก่นลิงก์