🩺 นักโภชนาการชี้ 6 อาหารลดเสี่ยง “ลิ่มเลือด” ป้องกันสโตรก–หัวใจวาย

_8f0e19e4-7fbb-4281-8ff4-4b1ad52603f6

🥗 อาหารธรรมชาติช่วยลดการเกิดลิ่มเลือด
🐟 แนะปลาทะเลไขมันสูงเสริมสุขภาพหัวใจ
💧 ดื่มน้ำเพียงพอช่วยลดเลือดข้นหนืด
⚠️ ผู้ใช้ยาละลายลิ่มเลือดควรปรึกษาแพทย์ก่อน

นักโภชนาการ กู้ ฉวนหลิง กรรมการสมาคมโภชนาการเพื่อสุขภาพและอาหารเพื่อสุขภาพแห่งนครปักกิ่ง เปิดเผยคำแนะนำสำคัญเกี่ยวกับการป้องกันภาวะ “ลิ่มเลือดอุดตัน” ซึ่งพบมากขึ้นในกลุ่มคนอายุน้อย และอาจรุนแรงถึงขั้นเส้นเลือดในสมองตีบหรือหัวใจวายเฉียบพลัน โดยแนะนำ 6 อาหารที่ช่วยลดความเสี่ยงลิ่มเลือด พร้อมเสริมแนวทางดูแลสุขภาพด้วยอาหารและพฤติกรรมที่ถูกต้อง

ข้อแนะนำอันดับแรกคือ “ไขมันดี” โดยการเลือกน้ำมันที่มีกรดไขมันจำเป็น เช่น โอเมก้า-3 ในน้ำมันงาขี้ม่อนและน้ำมันเมล็ดแฟลกซ์ รวมถึงโอเมก้า-9 ในน้ำมันมะกอกและน้ำมันรำข้าว ซึ่งมีส่วนช่วยลดการอักเสบ ปกป้องผนังหลอดเลือด และลดระดับคอเลสเตอรอลที่เป็นตัวการทำให้เลือดข้นหนืด

ต่อมาคือ “ผักและผลไม้สด” ซึ่งอุดมไปด้วยสารต้านอนุมูลอิสระและสารต้านการอักเสบ มีบทบาทสำคัญในการปกป้องเซลล์บุผนังหลอดเลือดไม่ให้เกิดความเสียหาย ช่วยลดความเสี่ยงการเกิดคราบพลัค โดยแนะนำให้รับประทานผักวันละ 5 กำมือ และผลไม้ 2–3 กำมือเป็นประจำ

ส่วน “ปลาทะเลไขมันสูง” เช่น แซลมอน ปลาทู ซาร์ดีน และทูน่า เป็นแหล่ง DHA ที่ช่วยลดการเกาะตัวของเกล็ดเลือดและลดโอกาสเกิดลิ่มเลือดโดยตรง ควรรับประทานสัปดาห์ละอย่างน้อย 2 ครั้ง เพื่อสุขภาพหัวใจที่แข็งแรง

อีกกลุ่มอาหารสำคัญคืออาหารที่มี “เบต้า–กลูแคน” จากข้าวโอ๊ตและข้าวบาร์เลย์ ซึ่งช่วยลดการดูดซึมคอเลสเตอรอลเข้าสู่กระแสเลือด ทำให้เลือดไม่ข้นหนืด แนะนำให้เลือกรับประทานข้าวโอ๊ตแบบเต็มเมล็ดหรือแบบหยาบเพื่อให้ได้ประโยชน์สูงสุด

นอกจากนี้ “เลซิตินจากถั่วเหลือง” ซึ่งทำงานเหมือน “ไม้กวาดหลอดเลือด” มีส่วนช่วยกำจัดไตรกลีเซอไรด์ ลดความหนืดของเลือด และเสริมความยืดหยุ่นของหลอดเลือด โดยการรับประทานเต้าหู้ น้ำเต้าหู้ หรือฟองเต้าหู้เป็นประจำจะช่วยลดความเสี่ยงโรคหลอดเลือดหัวใจและสมองได้ดี

ปัจจัยที่ง่ายที่สุดแต่สำคัญที่สุดคือ “น้ำเปล่า” การดื่มน้ำให้เพียงพอช่วยลดความข้นของเลือด ผู้หญิงควรดื่มอย่างน้อยวันละ 1,500 มิลลิลิตร และผู้ชาย 1,700 มิลลิลิตร โดยเฉพาะช่วงตื่นนอนตอนเช้าที่ร่างกายอยู่ในภาวะขาดน้ำ ควรดื่มน้ำทันทีเพื่อช่วยกระตุ้นการไหลเวียนโลหิต

อย่างไรก็ตาม มีข้อควรระวังสำคัญสำหรับผู้ที่รับประทานยาต้านการแข็งตัวของเลือด เช่น Warfarin หรือ Apixaban เนื่องจากอาหารบางชนิดอาจส่งผลต่อฤทธิ์ยา เช่น ผักใบเขียวที่มีวิตามิน K สูง หรือผลิตภัณฑ์น้ำมันปลา ผู้ป่วยควรปรึกษาแพทย์ประจำตัวก่อนปรับเปลี่ยนอาหารเพื่อหลีกเลี่ยงความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้น

นักโภชนาการย้ำว่า อาหารเหล่านี้เป็นเพียง “ตัวช่วยเสริม” ไม่สามารถทดแทนการรักษาทางการแพทย์ได้ ผู้ป่วยยังคงต้องปฏิบัติตามแผนการรักษาของแพทย์อย่างเคร่งครัด รวมถึงการปรับเปลี่ยนพฤติกรรม โดยเฉพาะการขยับร่างกายสม่ำเสมอ การออกกำลังกาย และการเลิกสูบบุหรี่ ซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญที่สุดในการป้องกันลิ่มเลือดอุดตันอย่างได้ผล

#อาหารป้องกันลิ่มเลือด #สุขภาพหัวใจ #ปลาทะเลDHA #กินผักผลไม้ #น้ำเปล่าสำคัญ
#ลิ่มเลือดอุดตัน #สโตรก #หัวใจวายเฉียบพลัน #โภชนาการเพื่อสุขภาพ #ป้องกันโรค
#สุขภาพดีเริ่มที่ตัวเอง #ดื่มน้ำให้พอ #ออกกำลังกาย #ลดความเสี่ยงโรคหลอดเลือด #เทรนด์สุขภาพ
#BeijingHealth #ปลาทะเลกำลังมา #เทรนด์สุขภาพ2025 #กระแสโซเชียล #สุขภาพมาแรง
#สุขภาพหลอดเลือด #ลดคอเลสเตอรอล #ข้าวโอ๊ต #ถั่วเหลือง #วิตามินK

ทีมข่าวขอนแก่นลิงก์


Leave a Response

ใส่ความเห็น

เรื่องล่าสุด