“ปะจัน ” โดย “เขี้ยวจัน ”
ปีที่ 3 : ตามที่ใจสั่งมา……..
ที่นี่….ไม่ใช่คอลัมน์ร้องทุกข์ แต่เป็น การสังคมอุดมปัญญา ลุกขึ้นมา “ทวงสิทธิ” ของการเป็นพลเมืองผู้ตื่นรู้ เจ้าของคะแนนเสียงที่เลือก”ตัวแทน” ในทุกระดับ ของการปกครองส่วนท้องถิ่น และการบริหารบ้านเมือง ด้วยข้าราชการ “ตัวแทน” จากส่วนกลาง ทุกกระทรวง ทบวง กรม [ หน้ารวมบทความ ปะจัน]
20 กระทรวง ของประเทศไทย ถูกแบ่งงาน แบ่งบทบาทในการบริหารประเทศ ที่ขยายส่วนใหญ่พองตัวขึ้น จากภาพจำของฝ่ายงานต่างๆ ในบริษัทจำกัด ที่เราคุ้นเคยในชีวิตประจำวันของคนทำงานกันอยู่แล้ว
อาทิ ฝ่ายผลิต ฝ่ายขาย ฝ่ายคลังสินค้า ฝ่ายขนส่ง ฝ่ายซ่อมบำรุง และอื่นๆ เป็นต้น
ภาพขยายมาเป็น ประเทศไทย ผู้กำกับดูแล คือ “รัฐมนตรี” และก็คือ ผู้จัดการ หรือผู้อำนวยการแต่ละฝ่าย นั่นเอง
กระทรวงศึกษาธิการ, กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม ผลิตบุคลากร, กระทรวงแรงงาน จัดหาคนให้ทำงาน จัดหางานให้กับคน, กระทรวงสาธารณสุข ดูแลหมอ พยาบาล อสม. ดูแล สุขภาพอนามัย ให้ประชาชน, กระทรวงมหาดไทย ดูแลราษฎร ตั้งแต่เกิด ยันตาย, กระทรวงกลาโหม จัดทัพทหาร บก เรือ อากาศ ใครรุกราน เป็นเจอกัน เป็น อาทิ
“การตลาด” ในยุคนี้ เป็นหัวใจ สำคัญ ต้องมอบงานในการ ขายสินค้า นำเงินตราเข้าประเทศ ในยุคของการแข่งขัน ที่เบียดตลาด ชิงลูกค้า บนเวทีการค้าระหว่างประเทศ ด้วยทุกมาตรการ ที่จะทำให้ตัวเองได้เปรียบทางการค้า
“กระทรวงพาณิชย์” จึงถูกพูดถึง และฝากความหวัง เมื่อมีรัฐมนตรีคนนอก อย่าง “ศุภจี สุธรรมพันธุ์” มารับหน้าที่ เป็นมือ “นักขาย” ในกับประเทศไทย
งานชิ้น ที่ถูกส่งเวียนๆ กันในห้องสื่อสารออนไลน์ (ตามแนบนี้) เป็นชิ้นงานที่น่าสนใจ การหาความรู้ ความเข้าใจ ในโลกออนไลน์ ที่ออกจากหน่วยงานราชการ และมีความน่าเชื่อถือ
เราได้รู้กันว่า เนื้อหมู ในท้องตลาดราคา กิโล ละ ราวๆ 105 บาท ราคาลดลง จากที่เคยยืนที่ 120 ไข่ไก่ เบอร์ 3 ฟองละ 3.50 บาท ลดลง จากฟองละ 4.20 บาท
ข้าวเปลือก ลงราคา มันสำปะหลัง ลงราคา ข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ และ ปาล์มน้ำมัน ขึ้นราคา
นับว่าเป็นข้อมูล ที่เป็นประโยชน์ คนที่เป็นผู้บริโภค จะรู้ว่าควรบริหารเงินในกระเป๋า ในการกิน การอยู่ อย่างไร กลุ่มเกษตรกร ก็จะเห็นราคาสินค้าที่ตัวเองลงมือปลูก ลงมือเลี้ยง
หากมีการวางแผน กางงานบนโต๊ะ ที่ประสานกันทุกกระทรวง กรม ให้สอดคล้องกัน จะกินอะไร จะปลูกอะไร ปลูกเท่าไหร่ ที่จะไม่ล้นตลาด แปรรูป ยามฤดูกาลที่ล้นตลาด หาตลาดใหม่ๆ หาวิธีลดต้นทุน เพิ่มประสิทธิภาพ การผลิต ป้อนตรงตามความต้องการของตลาด หรือนำการตลาดมาวางเป็นตัวตั้ง ผลิตแล้วขายได้แน่ๆ ก็จะเจ๋งมั่กมาก สำหรับประเทศไทย
เมืองไทย เด่น ดี ดัง เรื่อง “อาหาร” Good Food ระดับโลกอยู่แล้ว ฉวยจังหวะโอกาสที่โลกรวน ผลิตอาหารป้อน เลี้ยงชาวโลก
แต่มี ข้อเดียว เพียวๆ ที่ต้องยกออกจากสมการ ของประเทศไทย คือ นักการเมืองเทาและนักการเมืองที่จ้องมากอบโกย….
ต่อให้ มีล้านคน “นักขายมือทอง” สมการของประเทศ ก็เอียง ไปต่อไม่ได้อยู่อยู่ดี…..





Leave a Response