💩 6 โรคร้ายเริ่มจากอาการอุจจาระมีเลือดปน

หลายคนอาจมองข้าม “อุจจาระ” หลังเข้าห้องน้ำ แต่ในความจริงแล้ว สี กลิ่น และลักษณะของอุจจาระ สามารถบอกสุขภาพร่างกายของเราได้อย่างชัดเจน โดยเฉพาะ “อุจจาระเป็นเลือด” ซึ่งหลายคนอาจคิดว่าเกิดจากโรคริดสีดวงทวารเพียงอย่างเดียว ทว่าความจริงแล้ว อาการดังกล่าวอาจเป็นสัญญาณเตือนของโรคอื่นที่อันตรายกว่านั้นมาก

แพทย์เตือนว่า หากพบอุจจาระมีเลือดสดปนออกมา หรือสีออกแดงเข้มหรือดำคล้ำ ควรสังเกตอาการร่วมอื่นและรีบพบแพทย์เพื่อวินิจฉัย เพราะมีหลายโรคที่เริ่มต้นด้วยสัญญาณนี้

1. โรคริดสีดวงทวาร
เกิดจากการที่หลอดเลือดดำบริเวณทวารหนักโป่งพอง มักพบในผู้ที่ท้องผูกบ่อย มีอุจจาระแข็งจนไปครูดกับเยื่อบุทวารหนัก ทำให้มีเลือดสดออกมาเป็นหยดหรือเป็นเส้น พร้อมอาการปวดแสบ เจ็บ หรือมีก้อนเนื้อปลิ้นออกมา หากปล่อยไว้โดยไม่รักษา อาจเกิดการอักเสบเรื้อรังได้

2. เลือดออกในลำไส้ใหญ่
ผู้ที่มีเลือดสดปนในอุจจาระโดยไม่มีอาการปวดทวาร อาจมีเลือดออกจากผนังลำไส้ใหญ่ หากมีเลือดออกเพียงเล็กน้อยสามารถรอดูอาการได้ แต่หากเลือดออกมาก ควรงดน้ำและอาหาร พร้อมรีบไปโรงพยาบาลทันที

3. เลือดออกในกระเพาะอาหารหรือลำไส้เล็ก
อาการเริ่มต้นอาจมีการอาเจียนเป็นเลือด หรืออุจจาระสีดำคล้ำเหมือนยางมะตอย เป็นภาวะอันตรายที่อาจเกิดจากแผลในกระเพาะอาหาร หากถ่ายเป็นเลือดจำนวนมาก ควรงดอาหารและรีบพบแพทย์โดยด่วน

4. โรคบิด (Dysentery)
ผู้ที่มีอาการท้องเสียพร้อมอุจจาระมีมูกเลือดปน กลิ่นเหม็นรุนแรง อาจติดเชื้อแบคทีเรียในลำไส้ใหญ่จนเกิดการอักเสบและเป็นแผล ควรพบแพทย์เพื่อตรวจอุจจาระเพื่อหาสาเหตุที่แน่ชัดและรับการรักษาอย่างถูกวิธี

5. โรคมะเร็งลำไส้ใหญ่
มักเกิดจากแผลหรือก้อนมะเร็งในลำไส้ที่ทำให้มีเลือดปนออกมากับอุจจาระ มะเร็งลำไส้ใหญ่มักพบในผู้ที่มีอายุตั้งแต่ 40–50 ปีขึ้นไป แต่ปัจจุบันพบในคนวัยทำงานและวัยรุ่นมากขึ้น หากครอบครัวมีประวัติเป็นโรคนี้ ควรตรวจสุขภาพเป็นประจำ และหลีกเลี่ยงพฤติกรรมเสี่ยง เช่น การกินเนื้อแดงหรืออาหารปิ้งย่างไหม้เกรียม ดื่มแอลกอฮอล์ สูบบุหรี่ และไม่ออกกำลังกาย

6. โรคลำไส้ขาดเลือด
เกิดจากการที่เลือดไม่สามารถไหลเวียนไปยังลำไส้ได้ ส่งผลให้เซลล์ลำไส้ตายและเน่า อาการคือปวดท้องเกร็งรุนแรง ถ่ายเป็นเลือด หากอาการรุนแรงอาจติดเชื้อในกระแสเลือดและเสียชีวิตได้ จำเป็นต้องเข้ารับการผ่าตัดเพื่อตัดส่วนลำไส้ที่เสียออก

อย่างไรก็ตาม สีของอุจจาระที่ออกแดงเข้มหรือดำ อาจมาจากการกินอาหารที่มีเลือดสัตว์ หรือยาบำรุงเลือดก็เป็นไปได้ แต่หากอาการถ่ายเป็นเลือดเกิดซ้ำ หรือมีอาการร่วม เช่น ปวดท้อง หน้ามืด เหนื่อยง่าย ควรรีบพบแพทย์เพื่อตรวจให้แน่ใจ เพราะอาจเป็นสัญญาณเตือนโรคร้ายที่ซ่อนอยู่

#อุจจาระเป็นเลือด #สุขภาพลำไส้ #มะเร็งลำไส้ใหญ่ #โรคริดสีดวง #พบแพทย์ทันเวลา

ทีมข่าวขอนแก่นลิงก์