⚠️ พบ 5 อาการหลังตื่นนอนบ่งชี้ภาวะตับเสื่อม
ผู้เชี่ยวชาญด้านสุขภาพเตือนประชาชนให้หมั่นสังเกต “5 สัญญาณยามเช้า” หลังตื่นนอน ซึ่งอาจเป็นสัญญาณสำคัญบ่งบอกว่าตับกำลังอยู่ในภาวะเสื่อมสภาพ โดยตับเป็นอวัยวะหลักที่มีหน้าที่กำจัดสารพิษและควบคุมกระบวนการเมแทบอลิซึมในร่างกาย หากตับเริ่มถูกทำลายโดยไม่รู้ตัว อาจนำไปสู่โรคตับอักเสบ ตับแข็ง หรือมะเร็งตับในระยะรุนแรงได้
แพทย์ระบุว่า ตับเป็นอวัยวะที่ไม่มีเส้นประสาทรับความเจ็บปวดโดยตรง ทำให้อาการของโรคมักแสดงออกช้า และผู้ป่วยจำนวนมากไม่รู้ว่าตนเองมีปัญหาตับจนกระทั่งเข้าสู่ระยะอันตราย
ทั้งนี้ มี “5 สัญญาณเตือนยามเช้า” ที่ควรเฝ้าระวัง ได้แก่
1️⃣ ปากมีกลิ่นรุนแรงผิดปกติ – เกิดจากกระบวนการย่อยและขับสารพิษของตับที่ทำงานลดลง ทำให้เกิดการสะสมของสารเมแทบอไลต์ เช่น แอมโมเนีย ส่งผลให้เกิดกลิ่นปากแรงแม้ดูแลสุขอนามัยดีแล้ว
2️⃣ เลือดออกตามไรฟันง่าย – เป็นอาการที่บ่งบอกถึงความผิดปกติของการแข็งตัวของเลือด เนื่องจากตับไม่สามารถสังเคราะห์โปรตีนที่จำเป็นได้ อาจพบร่วมกับรอยฟกช้ำใต้ผิวหนัง
3️⃣ ปัสสาวะสีเข้มเหมือนน้ำชา – สะท้อนความผิดปกติในการเผาผลาญบิลิรูบิน ทำให้ร่างกายไม่สามารถขับของเสียทางระบบทางเดินอาหารได้ตามปกติ
4️⃣ อ่อนเพลีย เหนื่อยง่าย แม้นอนเพียงพอ – เพราะตับไม่สามารถสังเคราะห์ไกลโคเจนซึ่งเป็นแหล่งพลังงานสำรองได้เพียงพอ ทำให้ร่างกายอ่อนแรงและไม่มีแรงตลอดวัน
5️⃣ ตัวเหลือง คันตามผิวหนังโดยไม่ทราบสาเหตุ – เกิดจากการสะสมของบิลิรูบินและเกลือน้ำดีในกระแสเลือด ทำให้เกิดภาวะตัวเหลืองและอาการคันที่ไม่เกี่ยวข้องกับโรคผิวหนัง
ผู้เชี่ยวชาญแนะนำเพิ่มเติมว่า การดูแลสุขภาพตับสามารถทำได้โดยการจำกัดการดื่มแอลกอฮอล์ หลีกเลี่ยงการใช้ยาที่ไม่จำเป็น รับประทานอาหารที่ดีต่อสุขภาพ เช่น ผัก ผลไม้ ธัญพืช และลดอาหารแปรรูป รวมถึงอาหารที่มีไขมันและน้ำตาลสูง เพื่อให้ตับสามารถฟื้นฟูและทำงานได้เต็มประสิทธิภาพ
นอกจากนี้ การลดการสัมผัสกับสารพิษหรือสารเคมีจากสิ่งแวดล้อมในชีวิตประจำวัน เช่น ควันบุหรี่ น้ำมันทอดซ้ำ หรือผลิตภัณฑ์ที่มีสารระเหย ก็ช่วยลดภาระของตับได้เช่นกัน
การตระหนักรู้ถึงสัญญาณเหล่านี้และเข้ารับการตรวจสุขภาพเป็นประจำ คือกุญแจสำคัญในการป้องกันโรคตับก่อนสายเกินไป
#สุขภาพตับ #ตับแข็ง #สุขภาพดีเริ่มที่ตับ #สัญญาณเตือนโรคตับ #ตรวจสุขภาพประจำปี
ทีมข่าวขอนแก่นลิงก์




Leave a Response