🫒 ปรุงสุกพร้อมน้ำมันมะกอก ช่วยเพิ่มประโยชน์ต่อหัวใจและหลอดเลือด

มะเขือเทศเป็นสุดยอดอาหารเพื่อสุขภาพที่อุดมด้วย ไลโคปีน (Lycopene) ซึ่งเป็นสารต้านอนุมูลอิสระสำคัญที่มีบทบาทในการลดความเสี่ยงของโรคหัวใจ ความดันโลหิตสูง และภาวะเสื่อมของเซลล์ในร่างกาย อย่างไรก็ตาม หลายคนยังเข้าใจผิดว่าการรับประทานมะเขือเทศสดให้คุณค่าสูงสุด ทั้งที่จริงแล้ว มะเขือเทศปรุงสุกต่างหาก ที่ทำให้ร่างกายดูดซึมสารไลโคปีนได้ดีกว่าอย่างชัดเจน

ผู้เชี่ยวชาญด้านโภชนาการอธิบายว่า กุญแจสำคัญอยู่ที่ “การปรุง” เพราะการให้ความร้อนจะช่วย “ปลดล็อก” ไลโคปีนออกจากผนังเซลล์ของมะเขือเทศ ซึ่งมีความแข็งแรงตามธรรมชาติ การนำมะเขือเทศไป ต้ม ผัด หรืออบ รวมทั้งการบี้ให้แหลกขณะปรุง จะทำให้ร่างกายสามารถดูดซึมสารไลโคปีนได้มากกว่าการกินสดหลายเท่า

อีกหนึ่งเคล็ดลับที่สำคัญคือ “กินคู่กับไขมันดี” เพราะไลโคปีนเป็นสารที่ละลายในไขมัน การผัดมะเขือเทศด้วย น้ำมันมะกอก น้ำมันรำข้าว หรือน้ำมันคาโนลา จะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการดูดซึมเข้าสู่กระแสเลือดได้มากขึ้นอย่างน่าทึ่ง โดยมีผลการวิจัยยืนยันว่า การปรุงมะเขือเทศร่วมกับไขมันดีสามารถเพิ่มการดูดซึมไลโคปีนได้สูงขึ้นถึง 4 เท่า เมื่อเทียบกับการรับประทานมะเขือเทศสด

อย่างไรก็ตาม ผู้เชี่ยวชาญเตือนว่า ควรใช้ไขมันในปริมาณพอเหมาะ เพื่อหลีกเลี่ยงการได้รับแคลอรี่ส่วนเกิน และควรระวังการบริโภคซอสหรือซุปมะเขือเทศสำเร็จรูปที่มักมีโซเดียมหรือน้ำตาลสูงเกินไป ซึ่งอาจลดประโยชน์ต่อสุขภาพลงได้

สรุปวิธีกินมะเขือเทศเพื่อสุขภาพสูงสุด

• 🍅 เลือกมะเขือเทศสุกเต็มที่ เพราะมีปริมาณไลโคปีนสูงที่สุด
• 🔥 ปรุงด้วยความร้อนพอเหมาะ เช่น ต้ม ผัด หรืออบ เพื่อทำลายผนังเซลล์
• 🫒 กินคู่กับไขมันดีต่อสุขภาพ เช่น น้ำมันมะกอก หรืออะโวคาโด
• ⚠️ หลีกเลี่ยงความร้อนสูงเกินไปหรือใช้น้ำมันมากเกินจำเป็น

การปรับวิธีการกินมะเขือเทศให้ถูกหลักวิทยาศาสตร์เช่นนี้ ไม่เพียงช่วยให้ร่างกายได้รับประโยชน์จากไลโคปีนเต็มที่ แต่ยังเป็นวิธีง่ายๆ ที่ช่วยดูแลหัวใจ หลอดเลือด และชะลอวัยได้อย่างมีประสิทธิภาพ

#มะเขือเทศปรุงสุก #ไขมันดีเพิ่มไลโคปีน #สุขภาพหัวใจ #น้ำมันมะกอกเพื่อสุขภาพ #โภชนาการสายเฮลท์ตี้

ทีมข่าวขอนแก่นลิงก์