ตำรวจตระเวนชายแดนภาค 2 ขอนแก่น แถลงผลการจับกุมผู้ต้องหา 4 ราย พร้อมของกลางยาไอซ์ 216 กิโลกรัม มูลค่ารวมกว่า 200 ล้านบาท หลังลักลอบขนจากจังหวัดนครพนมเพื่อส่งต่อยังอำเภอวังน้อย จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ก่อนถูกสกัดจับได้ที่สี่แยกไฟแดง ตำบลหินตั้ง อำเภอบ้านไผ่ จังหวัดขอนแก่น

เมื่อเวลา 14.30 น. วันที่ 24 ตุลาคม 2567 ที่กองบังคับการตำรวจตระเวนชายแดนภาค 2 นายประจวบ รักแพทย์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดขอนแก่น พร้อมด้วย พ.ต.อ.คณิต กลิ่นศรีสุข รอง ผบก.ตชด.ภาค 2 ร.ต.อ.คมสัน นิลสมบูรณ์ หน.ชปข.บก.ตชด.ภาค 2 และเจ้าหน้าที่ตำรวจ ตชด.อีกหลายนาย ร่วมแถลงข่าวผลการจับกุมดังกล่าว

ผู้ต้องหาได้แก่ นายพินิตย์ อายุ 55 ปี ชาว ตำบลนาจารย์ อำเภอเมือง จังหวัดกาฬสินธุ์ พร้อมรถเก๋งยี่ห้อนิสสัน มาร์ช สีดำ ทะเบียน ขข-1519 ขอนแก่น, นายจุฬชาติ อายุ 46 ปี ชาว ตำบลยอดแกง อำเภอนามน จังหวัดกาฬสินธุ์ พร้อมภรรยา น.ส.วารุณี อายุ 48 ปี และรถกระบะอีซูซุ สีขาว ทะเบียน บล-7607 กาฬสินธุ์, และนายอุทัย อายุ 50 ปี ชาวตำบลคชสิทธิ์ อำเภอหนองแค จังหวัดสระบุรี พร้อมรถเก๋งฮอนด้า ซิตี้ สีเทาดำ ทะเบียน 5 ขธ-3117 กรุงเทพมหานคร รวมทั้งของกลางยาไอซ์น้ำหนัก 216 กิโลกรัม

พ.ต.อ.คณิต กลิ่นศรีสุข รอง ผบก.ตชด.ภาค 2 เปิดเผยว่า จากชุดปฏิบัติการข่าวของ ตชด.ภาค 2 สืบทราบว่าขบวนการค้ายาเสพติดจะลักลอบขนยาเสพติดจากจังหวัดนครพนมไปส่งที่อำเภอวังน้อย จังหวัดพระนครศรีอยุธยา จึงรายงานผู้บังคับบัญชา และประสานการข่าวกับ สำนักการข่าว กอ.รมน., ขกท.กกล.สุรศักดิ์มนตรี, สำนักงาน ป.ป.ส., กก.3 บก.ปส. อุดรธานี และ ส.ทล.4 กก.4 บก.ทล. เพื่อสืบสวนติดตามจับกุม

กระทั่งเวลา 02.00 น. เจ้าหน้าที่พบรถต้องสงสัย 3 คัน ขับวนเวียนบนถนนหน้าเรือนจำจังหวัดนครพนม จึงเฝ้าติดตาม ต่อมาทั้งสามคันเคลื่อนออกจากพื้นที่ มุ่งหน้าภูพาน จังหวัดสกลนคร ผ่านอำเภอสมเด็จ จังหวัดกาฬสินธุ์ และเข้าพื้นที่จังหวัดขอนแก่น โดยมีรถเก๋งฮอนด้า ซิตี้ สีเทาดำ ทะเบียน 5 ขธ-3117 กรุงเทพมหานคร ขับนำหน้า รถเก๋งนิสสัน มาร์ช สีดำ ทะเบียน ขข-1519 ขอนแก่น อยู่ตรงกลาง และรถกระบะอีซูซุ สีขาว ทะเบียน บล-7607 กาฬสินธุ์ ปิดท้าย

เวลา 07.00 น. วันเดียวกัน เจ้าหน้าที่ตำรวจ ตชด.ภาค 2 ประสานตำรวจทางหลวงขอนแก่น สกัดจับรถทั้ง 3 คันที่สี่แยกไฟแดง ตำบลหินตั้ง อำเภอบ้านไผ่ จังหวัดขอนแก่น ตรวจค้นพบว่า รถเก๋งคันแรกมีนายอุทัย ขับเพียงลำพัง ไม่พบสิ่งผิดกฎหมาย รถกระบะสีขาวมีนายจุฬชาติ ขับ มีภรรยา น.ส.วารุณี นั่งคู่หน้า ตรวจค้นไม่พบสิ่งผิดกฎหมาย ส่วนรถนิสสัน มาร์ช สีดำ ทะเบียน ขข-1519 ขอนแก่น ที่นายพินิตย์ ขับ พบมีการพับเบาะหลังและบรรทุกกระสอบยาไอซ์ 4 กระสอบ รวม 216 กิโลกรัม

จากการสอบสวนเบื้องต้น ผู้ต้องหาทั้ง 4 ราย ให้การตรงกันว่า ถูกบุคคลสัญชาติลาวว่าจ้างให้ขนสินค้าไปส่งที่อำเภอวังน้อย จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ค่าจ้างคนละ 30,000 บาท จ่ายล่วงหน้าคนละ 5,000 บาทเป็นค่าน้ำมันและค่าอาหาร โดยให้ไปรับรถนิสสัน มาร์ช สีดำ ทะเบียน ขข-1519 ขอนแก่น ที่บรรทุกยาไอซ์ จอดอยู่ริมถนนหน้าเรือนจำจังหวัดนครพนม ถึงเวลานัดหมายทั้ง 4 คนจึงไปพบกัน จากนั้นนายพินิตย์ขับรถคันที่บรรทุกยาไอซ์ นำขบวนกลาง นายอุทัยขับฮอนด้าเป็นรถนำตรวจสอบด่าน และสองสามีภรรยาขับกระบะปิดท้าย ทั้งสองรายนี้เคยถูกจับคดียาเสพติดและอยู่ระหว่างการประกันตัวในชั้นศาล ให้การรับสารภาพว่ามีหนี้เงินกู้นอกระบบ ต้องส่งดอกเบี้ยรายวัน จึงรับงานเพราะรายได้ดี

เจ้าหน้าที่สกัดจับได้ทั้งหมดพร้อมของกลางในพื้นที่อำเภอบ้านไผ่ สำหรับยาไอซ์ที่ยึดได้ทั้งหมด จากการสอบสวนระบุว่าราคาขายส่งกิโลกรัมละ 140,000 บาท รวมประมาณ 34,440,000 บาท และหากส่งสำเร็จจะมีมูลค่าสูงกว่า 200 ล้านบาท หลังการจับกุมและสอบสวนเสร็จสิ้น จะส่งผู้ต้องหาพร้อมของกลางให้พนักงานสอบสวน สภ.บ้านไผ่ ดำเนินคดีตามกฎหมาย ฐาน “ร่วมกันมียาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ไอซ์) ไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่าย โดยเป็นการกระทำเพื่อการค้า ก่อให้เกิดผลกระทบต่อความมั่นคงของรัฐ หรือความปลอดภัยของประชาชนทั่วไป”

ทีมข่าวขอนแก่นลิงก์