📰 คนละครึ่งพลัส เปิดลงทะเบียน 20-26 ต.ค. 68

4C3B0436-E5F9-4B25-A501-749A54533F8C

📌 Key Point

• ลงทะเบียนผ่านเป๋าตัง 20-26 ต.ค.

• ใช้สิทธิ 29 ต.ค.–31 ธ.ค. 68

• ต้องใช้สิทธิครั้งแรกภายใน 11 พ.ย.

• สั่งอาหาร Food Delivery ได้ 6.00-21.00 น.

• รัฐค้ำจุนวงเงินสูงสุด 2,400 / 2,000 บาท

• ยืนยันไม่มีเก็บภาษีย้อนหลัง

วันที่ 7 ตุลาคม 2568 หลังที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) มีมติเห็นชอบมาตรการ “คนละครึ่งพลัส” โดยเปิดให้ ประชาชนลงทะเบียนผ่านแอปฯ เป๋าตัง ระหว่างวันที่ 20–26 ตุลาคม 2568 สำหรับผู้ที่เคยร่วมโครงการก่อนหน้านี้และผู้ที่ไม่เคยเข้าร่วม โดยจำกัดสิทธิ 20 ล้านคน

การใช้สิทธิของโครงการจะเริ่มตั้งแต่วันที่ 29 ตุลาคม ถึง 31 ธันวาคม 2568

ผู้ใช้สิทธิ ต้องใช้ครั้งแรกภายใน 11 พฤศจิกายน 2568 เพื่อไม่ให้ถูกตัดสิทธิ

หนึ่งในฟีเจอร์ใหม่ คือสามารถใช้สิทธิผ่านบริการ Food Delivery ได้ตั้งแต่วันที่ 7 พฤศจิกายน 2568 เป็นต้นไป ในช่วงเวลา 06.00-21.00 น. ของทุกวัน เฉพาะร้านที่เข้าร่วมโครงการและผ่านการสมัครในแอปฯ ถุงเงิน

โครงการนี้มีเป้าหมายเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจในช่วงไตรมาส 4 ซึ่งถูกประเมินว่าสภาพเศรษฐกิจอาจชะลอตัว โครงการ “คนละครึ่งพลัส” ถือเป็นโครงการ “เรา ลุงเรือธง” ที่เสริมมาตรการอื่น ๆ ของรัฐบาล

รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง นายเอกนิติ นิติทัณฑ์ประภาศ กล่าวว่า โครงการนี้จะช่วยลดรายจ่ายให้ประชาชน 20 ล้านสิทธิ์ รัฐจะสมทบเงินคนละครึ่ง และช่วยร้านค้า Micro SME ได้ยอดขายเพิ่มขึ้น พร้อมประเมินว่าสามารถกระตุ้นเศรษฐกิจได้ราว 0.3–0.4% ของ GDP

ในส่วนของร้านค้า นายเอกนิติ ยืนยันว่า จะไม่มีการนำรายได้จากโครงการนี้เข้าสู่ระบบภาษีย้อนหลัง

สำหรับร้านค้าที่จะเข้าร่วมโครงการ “คนละครึ่งพลัส” จะเปิดให้ลงทะเบียนตั้งแต่วันที่ 15 ตุลาคม 2568 เป็นต้นไป ผ่านแอปฯ เป๋าตัง/ถุงเงิน (โดยร้านเดิมที่เคยอยู่ในคนละครึ่งเฟส 5 ไม่ต้องลงใหม่)

คุณสมบัติผู้สมัครมีดังนี้

1. ประชาชนไทย สัญชาติไทย

2. อายุ 16 ปีบริบูรณ์ขึ้นไป ณ วันลงทะเบียน

3. มีบัตรประชาชน

4. ไม่เป็นผู้ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ (ยกเว้นผู้ถือบัตรแล้วจะได้รับสิทธิพิเศษในโครงการโดยตรง)

5. ไม่อยู่ในบัญชีถูกระงับสิทธิหรือถูกเรียกเงินคืนโครงการคนละครึ่งช่วงก่อนหน้า

สำหรับรายละเอียดการแบ่งกลุ่มสิทธิ

• ผู้ที่ อยู่ในระบบภาษี (ยื่นแบบแสดงรายได้) จะได้รับวงเงิน 2,400 บาท(รัฐสมทบ)

• กลุ่มที่ อยู่นอกระบบภาษี ได้รับวงเงิน 2,000 บาท

• ผู้ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ (ประมาณ 13 ล้านคน) ไม่ต้องลงทะเบียนใหม่ จะได้รับเงินเพิ่มเติมในโครงการโดยตรง

• ค่าใช้จ่ายต่อวันสูงสุดอยู่ที่ 200 บาท/วัน ในระยะเวลา 2 เดือน (พฤศจิกายน-ธันวาคม)

นับเป็นอีกหนึ่งมาตรการเร่งด่วนของรัฐบาลในการพยุงกำลังซื้อ ลดภาระค่าครองชีพ และเพิ่มการหมุนเวียนเศรษฐกิจให้เดินหน้าในช่วงปลายปีนี้

ทีมข่าวขอนแก่นลิงก์


Leave a Response

เรื่องล่าสุด