ขอนแก่น เปิดโครงการ “Kick-off App Tech Connect : เทคโนโลยีที่เหมาะสม เชื่อมอนาคตเกษตรไทย” ยกระดับเกษตรกรสู่ความยั่งยืนด้วยนวัตกรรม
เมื่อเวลา 10.30 น. วันที่ 6 ตุลาคม 2568 ที่นาสามดี ตำบลศิลา อำเภอเมือง จังหวัดขอนแก่น นายศรัญญู พูลลาภ ผู้ตรวจราชการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เป็นประธานเปิดงาน “Kick-off App Tech Connect : เทคโนโลยีที่เหมาะสม เชื่อมอนาคตเกษตรไทย” โดยมีนายวิชาญ อิงศรีสว่าง ผู้อำนวยการสำนักงานพัฒนาการวิจัยการเกษตร (องค์การมหาชน) หรือ สวก. พร้อมด้วยคณะผู้บริหาร หน่วยงานภาครัฐ ภาคเอกชน และเกษตรกรในพื้นที่เข้าร่วมอย่างพร้อมเพรียง
นายวิชาญ อิงศรีสว่าง ผู้อำนวยการสำนักงานพัฒนาการวิจัยการเกษตร กล่าวว่า ปัจจุบันโครงการฯ มีเทคโนโลยีเข้าร่วมแล้วกว่า 27 เทคโนโลยี มีเกษตรกรเข้าร่วมประมาณ 17,000 ราย และอยู่ระหว่างการขยายผลเพิ่มอีกประมาณ 3,000 ราย ซึ่งเกษตรกรที่เข้าร่วมต่างนำเทคโนโลยีที่เหมาะสมไปใช้ในเชิงปฏิบัติ และสามารถต่อยอดเป็นต้นแบบให้เกษตรกรรายอื่นได้ หากเกษตรกรรายใดสนใจสามารถหารือกับผู้อำนวยการโปรแกรมเพื่อเข้าร่วมโครงการเพิ่มเติมได้
ในส่วนของ เทคโนโลยีใหม่ ขณะนี้อยู่ระหว่างคัดเลือกเพิ่มเติมอีกประมาณ 3,000 ราย โดยจะเน้นเทคโนโลยีที่ช่วยสร้างรายได้ให้เกษตรกรเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว พร้อมกล่าวถึงแนวคิด “ความยั่งยืน” ของโครงการว่า มีอยู่สองมิติสำคัญ คือ ความยั่งยืนทางรายได้ — เกษตรกรต้องมีรายได้หมุนเวียนอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้สามารถดำเนินการต่อได้ด้วยตนเอง
ความยั่งยืนของเทคโนโลยี — เทคโนโลยีที่ได้รับการถ่ายทอดต้องถูกนำไปใช้จริงอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุดในระยะยาว
นายวิชาญ ยังยกตัวอย่าง เทคโนโลยีการเลี้ยงโคพันธุ์ไทยแบล็ค (Thai Black) ซึ่งกำลังเป็นกระแสที่ได้รับความสนใจ เนื่องจากสามารถผลิตเนื้อโคคุณภาพสูง มีไขมันแทรกในเนื้อเทียบเท่าเนื้อวากิว โดยใช้เทคโนโลยีสมัยใหม่ในการผสมเทียมและฝากตัวอ่อน (Embryo Transfer) รวมถึงการผลิตตัวอ่อนในหลอดแก้ว (IVF) ซึ่งช่วยขยายพันธุ์โคที่มีคุณภาพได้อย่างรวดเร็วและมีมูลค่าสูง เป็นอีกหนึ่งตัวอย่างของเทคโนโลยีที่ตอบโจทย์ความต้องการของเกษตรกรไทยในปัจจุบัน
ทางด้าน นายศรัญญู พูลลาภ ผู้ตรวจราชการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กล่าวว่า กระทรวงให้ความสำคัญกับโครงการนี้อย่างยิ่ง เพราะเป็นการช่วยเกษตรกรลดต้นทุนและเพิ่มรายได้อย่างเป็นรูปธรรม โดยมุ่งให้เกิดความยั่งยืนในระยะยาว โครงการนี้ถือเป็น “โครงการนำร่อง” ที่จะขับเคลื่อนสู่เกษตรกรโดยตรง และหากประสบความสำเร็จจะขยายผลไปยังหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อดำเนินการต่อเนื่อง
นายศรัญญู กล่าวเพิ่มเติมว่า การวัดผลรายได้ของโครงการนี้จะใช้ระยะเวลา 2 ปี เนื่องจากต้องคำนึงถึงฤดูกาลเพาะปลูกของพืชและรอบการเลี้ยงสัตว์ โดยได้แบ่งการดำเนินงานเป็นสองประเภท คือ การพัฒนาเทคโนโลยีสำหรับพืชและสำหรับสัตว์ ซึ่งเกษตรกรที่เข้าร่วมต่างให้ความพึงพอใจกับผลลัพธ์ของเทคโนโลยีที่ได้รับ
ทั้งนี้ กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ยังดำเนินนโยบาย “ตลาดนำนวัตกรรมเสริมเพิ่มรายได้” ตามแนวทางของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ที่มุ่งลดการปลูกข้าวในพื้นที่ไม่เหมาะสม และส่งเสริมให้เกษตรกรปลูกพืชหลังนา เช่น ถั่วเขียว ถั่วลิสง โดยมีเทคโนโลยีสนับสนุนด้านเมล็ดพันธุ์ดี ปลอดโรค ทนต่อสภาพอากาศ และแมลงศัตรูพืช รวมถึงการบริหารจัดการน้ำอย่างมีประสิทธิภาพ
โครงการ “Kick-off App Tech Connect” จึงเป็นอีกหนึ่งกลไกสำคัญของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ที่มุ่งผลักดันให้เกษตรกรไทยก้าวสู่เกษตรอัจฉริยะ (Smart Agriculture) ด้วยเทคโนโลยีที่เหมาะสมและทันสมัย สอดคล้องกับการใช้ทรัพยากรอย่างคุ้มค่า เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม เพื่อแก้ปัญหาความยากจนและสร้างความมั่นคงทางอาหารให้กับประเทศอย่างยั่งยืนในอนาคต




Leave a Response