🚶‍♀️ เดินแล้วเหนื่อย มือเท้าเย็น ปวดน่องบ่อย อาจไม่ใช่เรื่องเล็ก! แพทย์เตือนเป็นสัญญาณ “ไขมันในเลือดสูง”

_033e5107-452c-48b4-ab74-f35a80d74ec3

❤️ 4 อาการระหว่างเดินที่บ่งชี้หลอดเลือดเริ่มตีบจากไขมันสะสม

ผู้เชี่ยวชาญเตือนให้สังเกตอาการผิดปกติที่เกิดขึ้นระหว่างการเดิน เพราะอาจเป็นสัญญาณเตือนของ ภาวะไขมันในเลือดสูง ซึ่งเป็นหนึ่งในปัจจัยเสี่ยงสำคัญของโรคหัวใจและหลอดเลือด

ภาวะไขมันในเลือดสูง (Hyperlipidemia) คือความผิดปกติของระดับไขมันในเลือด โดยเฉพาะการเพิ่มขึ้นของ คอเลสเตอรอลชนิดไม่ดี (LDL) และ/หรือ ไตรกลีเซอไรด์ (Triglycerides) ไขมันส่วนเกินเหล่านี้จะสะสมและก่อตัวเป็น คราบพลัค (Plaque) ในผนังหลอดเลือดแดง ซึ่งเป็นสาเหตุของภาวะ หลอดเลือดแข็ง (Atherosclerosis)

หากไม่ได้รับการรักษาอย่างทันท่วงที การสะสมของคราบไขมันอาจทำให้หลอดเลือดตีบแคบ เลือดไหลเวียนไม่สะดวก และเพิ่มความเสี่ยงต่อการเกิด โรคหัวใจขาดเลือดเฉียบพลัน (Heart Attack) และ โรคหลอดเลือดสมอง (Stroke) ได้

ตามรายงานจาก สื่อ Sohu ประเทศจีน ระบุว่า ผู้ที่มีภาวะไขมันในเลือดสูงมักมีอาการบางอย่างปรากฏขึ้นระหว่างการเดิน หากพบอาการต่อไปนี้ ควรรีบพบแพทย์เพื่อตรวจระดับไขมันในเลือดและความเสี่ยงต่อโรคหัวใจ

4 ความผิดปกติขณะเดินที่บ่งบอกว่าไขมันในเลือดอาจสูงเกินไป

  1. หายใจลำบากแม้เดินเบาๆ
    หากรู้สึกเหนื่อยหรือหายใจติดขัดระหว่างเดินระยะสั้น อาจเป็นเพราะไขมันส่วนเกินไปสะสมในหลอดเลือดหัวใจ ทำให้เลือดไปเลี้ยงหัวใจไม่พอ หัวใจได้รับออกซิเจนลดลง ซึ่งอาจนำไปสู่ภาวะหัวใจวายได้หากปล่อยทิ้งไว้นาน
  2. มือเท้าเย็นหรือชา
    อาการมือเท้าเย็น ซีด หรือมีอาการชา โดยเฉพาะขณะเดินหรือยืนนาน อาจเกิดจากหลอดเลือดส่วนปลายตีบตัน เพราะไขมันไปสะสมในหลอดเลือดที่ไปเลี้ยงแขนขา ทำให้เลือดไหลเวียนไม่สะดวก
  3. ปวดน่องหรือเป็นตะคริวบ่อย
    หากเป็นตะคริวหรือปวดน่องบ่อยในขณะเดิน โดยเฉพาะช่วงขาล่าง อาจเป็นสัญญาณของ โรคหลอดเลือดส่วนปลาย (Peripheral Artery Disease – PAD) ซึ่งสัมพันธ์โดยตรงกับภาวะไขมันในเลือดสูง อาการมักดีขึ้นเมื่อพัก แต่จะกลับมาเมื่อเดินต่อ
  4. อ่อนเพลีย เหนื่อยง่ายผิดปกติ
    ความรู้สึกหมดแรงแม้เดินระยะสั้นอาจมาจากหัวใจที่ต้องทำงานหนักขึ้นเพื่อสูบฉีดเลือดผ่านหลอดเลือดที่ตีบตันจากคราบไขมัน ส่งผลให้ร่างกายได้รับออกซิเจนน้อยลงและรู้สึกเหนื่อยง่าย

ผู้เชี่ยวชาญแนะนำว่า หากพบอาการเหล่านี้ร่วมกับปัจจัยเสี่ยง เช่น มีน้ำหนักเกิน รับประทานอาหารมันจัด สูบบุหรี่ หรือมีประวัติครอบครัวเป็นโรคหัวใจ ควรเข้ารับการตรวจสุขภาพโดยเฉพาะการตรวจระดับ คอเลสเตอรอลรวม (Total Cholesterol), LDL, HDL, และ ไตรกลีเซอไรด์ เพื่อป้องกันโรคร้ายที่อาจเกิดขึ้นในอนาคต

นอกจากนี้ ควรปรับพฤติกรรมสุขภาพ เช่น เลี่ยงอาหารทอดหรือมันจัด ออกกำลังกายสม่ำเสมออย่างน้อยวันละ 30 นาที และพักผ่อนให้เพียงพอ เพื่อช่วยลดระดับไขมันในเลือดและป้องกันโรคหัวใจอย่างยั่งยืน

#ไขมันในเลือดสูง #สัญญาณเตือนโรคหัวใจ #ปวดน่องมือเท้าเย็น #สุขภาพหัวใจสำคัญ #เดินแล้วเหนื่อยอย่านิ่งนอนใจ

ทีมข่าวขอนแก่นลิงก์


Leave a Response

เรื่องล่าสุด