❤️ 4 อาการระหว่างเดินที่บ่งชี้หลอดเลือดเริ่มตีบจากไขมันสะสม
ผู้เชี่ยวชาญเตือนให้สังเกตอาการผิดปกติที่เกิดขึ้นระหว่างการเดิน เพราะอาจเป็นสัญญาณเตือนของ ภาวะไขมันในเลือดสูง ซึ่งเป็นหนึ่งในปัจจัยเสี่ยงสำคัญของโรคหัวใจและหลอดเลือด
ภาวะไขมันในเลือดสูง (Hyperlipidemia) คือความผิดปกติของระดับไขมันในเลือด โดยเฉพาะการเพิ่มขึ้นของ คอเลสเตอรอลชนิดไม่ดี (LDL) และ/หรือ ไตรกลีเซอไรด์ (Triglycerides) ไขมันส่วนเกินเหล่านี้จะสะสมและก่อตัวเป็น คราบพลัค (Plaque) ในผนังหลอดเลือดแดง ซึ่งเป็นสาเหตุของภาวะ หลอดเลือดแข็ง (Atherosclerosis)
หากไม่ได้รับการรักษาอย่างทันท่วงที การสะสมของคราบไขมันอาจทำให้หลอดเลือดตีบแคบ เลือดไหลเวียนไม่สะดวก และเพิ่มความเสี่ยงต่อการเกิด โรคหัวใจขาดเลือดเฉียบพลัน (Heart Attack) และ โรคหลอดเลือดสมอง (Stroke) ได้
ตามรายงานจาก สื่อ Sohu ประเทศจีน ระบุว่า ผู้ที่มีภาวะไขมันในเลือดสูงมักมีอาการบางอย่างปรากฏขึ้นระหว่างการเดิน หากพบอาการต่อไปนี้ ควรรีบพบแพทย์เพื่อตรวจระดับไขมันในเลือดและความเสี่ยงต่อโรคหัวใจ
4 ความผิดปกติขณะเดินที่บ่งบอกว่าไขมันในเลือดอาจสูงเกินไป
- หายใจลำบากแม้เดินเบาๆ
หากรู้สึกเหนื่อยหรือหายใจติดขัดระหว่างเดินระยะสั้น อาจเป็นเพราะไขมันส่วนเกินไปสะสมในหลอดเลือดหัวใจ ทำให้เลือดไปเลี้ยงหัวใจไม่พอ หัวใจได้รับออกซิเจนลดลง ซึ่งอาจนำไปสู่ภาวะหัวใจวายได้หากปล่อยทิ้งไว้นาน - มือเท้าเย็นหรือชา
อาการมือเท้าเย็น ซีด หรือมีอาการชา โดยเฉพาะขณะเดินหรือยืนนาน อาจเกิดจากหลอดเลือดส่วนปลายตีบตัน เพราะไขมันไปสะสมในหลอดเลือดที่ไปเลี้ยงแขนขา ทำให้เลือดไหลเวียนไม่สะดวก - ปวดน่องหรือเป็นตะคริวบ่อย
หากเป็นตะคริวหรือปวดน่องบ่อยในขณะเดิน โดยเฉพาะช่วงขาล่าง อาจเป็นสัญญาณของ โรคหลอดเลือดส่วนปลาย (Peripheral Artery Disease – PAD) ซึ่งสัมพันธ์โดยตรงกับภาวะไขมันในเลือดสูง อาการมักดีขึ้นเมื่อพัก แต่จะกลับมาเมื่อเดินต่อ - อ่อนเพลีย เหนื่อยง่ายผิดปกติ
ความรู้สึกหมดแรงแม้เดินระยะสั้นอาจมาจากหัวใจที่ต้องทำงานหนักขึ้นเพื่อสูบฉีดเลือดผ่านหลอดเลือดที่ตีบตันจากคราบไขมัน ส่งผลให้ร่างกายได้รับออกซิเจนน้อยลงและรู้สึกเหนื่อยง่าย
ผู้เชี่ยวชาญแนะนำว่า หากพบอาการเหล่านี้ร่วมกับปัจจัยเสี่ยง เช่น มีน้ำหนักเกิน รับประทานอาหารมันจัด สูบบุหรี่ หรือมีประวัติครอบครัวเป็นโรคหัวใจ ควรเข้ารับการตรวจสุขภาพโดยเฉพาะการตรวจระดับ คอเลสเตอรอลรวม (Total Cholesterol), LDL, HDL, และ ไตรกลีเซอไรด์ เพื่อป้องกันโรคร้ายที่อาจเกิดขึ้นในอนาคต
นอกจากนี้ ควรปรับพฤติกรรมสุขภาพ เช่น เลี่ยงอาหารทอดหรือมันจัด ออกกำลังกายสม่ำเสมออย่างน้อยวันละ 30 นาที และพักผ่อนให้เพียงพอ เพื่อช่วยลดระดับไขมันในเลือดและป้องกันโรคหัวใจอย่างยั่งยืน
#ไขมันในเลือดสูง #สัญญาณเตือนโรคหัวใจ #ปวดน่องมือเท้าเย็น #สุขภาพหัวใจสำคัญ #เดินแล้วเหนื่อยอย่านิ่งนอนใจ
ทีมข่าวขอนแก่นลิงก์




Leave a Response