🧪 งานวิจัยชี้ความเร็วเหนือจำนวนก้าว
💓 เดินเร็วลดเสี่ยงสมองเสื่อม-หัวใจ
⏱️ เดินเร็ว 30 นาที ดีกว่าเดินช้า 1 ชม.
🧍♀️ เทคนิคท่าทาง-แขน-เท้า-ก้าวเดิน
📊 เริ่มที่ 2,000 ก้าว/วัน เสริมสุขภาพ
การเดินถูกยกย่องว่าเป็น “ยาธรรมชาติ” ที่ช่วยบำรุงสุขภาพและยืดอายุมาโดยตลอด แต่คำถามคือ ควรโฟกัสที่จำนวนก้าวหรือความเร็ว? งานวิจัยล่าสุดที่ตีพิมพ์ในวารสาร Jama Internal Medicine และ Jama Neurology เผยข้อค้นพบที่น่าประหลาดใจว่า “ความเร็วในการเดินสำคัญกว่าจำนวนก้าว”
การศึกษาที่ดำเนินการโดยมหาวิทยาลัยซิดนีย์ ประเทศออสเตรเลีย ระบุว่า แม้จะเดินน้อยกว่า 4,000 ก้าวต่อวัน แต่หากเดินเร็วก็ช่วยลดความเสี่ยงโรคเรื้อรังได้ โดยเฉพาะภาวะสมองเสื่อมที่ลดลงถึง 25% เมื่อเทียบกับการเดินจำนวนก้าวมากแต่ช้า นักวิจัยจึงแนะนำว่าควรเพิ่มความเร็วมากกว่ามัวแต่นับก้าว
นอกจากนี้ยังพบว่า การเดินเร็ว 30 นาทีต่อวัน มีประสิทธิภาพมากกว่าการเดินช้าๆ 1 ชั่วโมง ขณะที่การรักษานิสัยเดินอย่างน้อย 2,000 ก้าว/วัน ยังคงเป็นเกณฑ์สำคัญเพื่อสุขภาพโดยรวม
ผู้เชี่ยวชาญอธิบายว่า “การเดินเร็ว” หมายถึงการเดินที่ความเร็วประมาณ 5 กม./ชม. โดยระหว่างเดินสามารถพูดคุยได้ แต่ไม่สามารถร้องเพลงจนจบเพลงได้ ถือเป็นสัญญาณว่ากำลังเดินในระดับที่มีประโยชน์ต่อหัวใจและร่างกาย
เพื่อให้ได้ผลสูงสุด การเดินเร็วควรทำอย่างถูกวิธี แบ่งออกเป็น 4 องค์ประกอบหลัก ได้แก่
- ท่าทาง: ยืนตัวตรง สายตาขนานพื้น ไหล่ผ่อนคลาย
- การเคลื่อนไหวแขน: งอข้อศอก 90 องศา แกว่งแขนตามจังหวะ ไม่แกว่งข้างลำตัว
- การเคลื่อนไหวเท้า: ลงส้นก่อนปลาย และดันตัวด้วยปลายเท้า
- การก้าวเดิน: ก้าวตามธรรมชาติ ไม่ก้าวยาวเกินไปเพื่อลดการบาดเจ็บ
วิธีฝึกที่แนะนำคือเริ่มเดินช้า 5 นาที จากนั้นเดินเร็ว 10 นาที แล้วค่อยลดความเร็วลง และเพิ่มเวลา 5 นาทีต่อสัปดาห์จนถึงเป้าหมาย 15-30 นาทีต่อวัน ซึ่งสอดคล้องกับเกณฑ์กิจกรรมระดับปานกลาง 150 นาที/สัปดาห์
การเดินเร็วไม่เพียงเสริมความฟิต แต่ยังเป็น “เกราะป้องกันโรคเรื้อรัง” ทั้งโรคหัวใจ สมองเสื่อม เบาหวาน ไปจนถึงปัญหาสุขภาพจิต กล่าวได้ว่า หากอยากมีอายุยืนยาวและสุขภาพแข็งแรง อย่านับแต่ก้าว ให้เร่งความเร็วแทน
#เดินเร็วดีต่อสุขภาพ #ยืดอายุด้วยการเดิน #สุขภาพแข็งแรง #วิจัยใหม่ชี้ทาง #ดูแลหัวใจและสมอง
ทีมข่าวขอนแก่นลิงก์




Leave a Response