⚠️ หินปูนคือแหล่งสะสมแบคทีเรีย
🩸 เสี่ยงเหงือกอักเสบและโรคปริทันต์
👃 ก่อให้เกิดกลิ่นปากเรื้อรัง
❤️ เชื่อมโยงโรคหัวใจ เบาหวาน และครรภ์
🪥 ขูดหินปูนทุก 6 เดือนเพื่อป้องกัน
หลายคนอาจคิดว่า “หินปูน” เป็นเพียงคราบเหลืองหรือน้ำตาลที่ทำให้ฟันไม่สวยงาม แต่แท้จริงแล้วหินปูนคือแหล่งสะสมของเชื้อแบคทีเรีย ซึ่งอาจก่อให้เกิดปัญหาสุขภาพช่องปากร้ายแรงถึงขั้นสูญเสียฟันได้
หินปูนเกิดจากแผ่นคราบจุลินทรีย์ (Plaque) ซึ่งเป็นฟิล์มเหนียวใสที่เกิดจากเศษอาหารและเชื้อแบคทีเรีย หากทำความสะอาดไม่ทั่วถึง คราบเหล่านี้จะทำปฏิกิริยากับแร่ธาตุในน้ำลายจนแข็งตัวกลายเป็นหินปูน โดยหินปูนมีพื้นผิวขรุขระ ทำให้เชื้อแบคทีเรียเกาะได้ง่าย และไม่สามารถกำจัดออกด้วยการแปรงฟันหรือไหมขัดฟันเพียงอย่างเดียว
อันตรายที่พบบ่อย ได้แก่ เหงือกอักเสบ (Gingivitis) มีอาการเหงือกบวมแดง เลือดออกง่ายขณะแปรงฟัน หากละเลยจะลุกลามเป็น โรคปริทันต์ (Periodontitis) โดยหินปูนจะลามลงใต้เหงือก ทำลายกระดูกและเส้นยึดฟัน จนฟันโยกและหลุดในที่สุด นอกจากนี้ยังทำให้เกิดกลิ่นปากเรื้อรังจากสารระเหยที่แบคทีเรียปล่อยออกมา และส่งผลต่อความมั่นใจในการยิ้มและพูดคุย
ที่สำคัญ อันตรายของหินปูนไม่ได้หยุดแค่ในช่องปาก งานวิจัยหลายชิ้นพบว่า โรคปริทันต์ขั้นรุนแรงอาจเชื่อมโยงกับปัญหาสุขภาพอื่น เช่น เพิ่มความเสี่ยงโรคหัวใจและหลอดเลือด ทำให้ผู้ป่วยเบาหวานควบคุมน้ำตาลยากขึ้น และเพิ่มโอกาสคลอดก่อนกำหนดในสตรีตั้งครรภ์
แนวทางป้องกันที่มีประสิทธิภาพ ได้แก่ สังเกตฟันและเหงือก หากมีฟันเหลือง เลือดออก หรือเหงือกร่นควรรีบพบทันตแพทย์ การขูดหินปูนเป็นวิธีเดียวที่สามารถกำจัดหินปูนได้จริง พร้อมทั้งควรตรวจสุขภาพช่องปากและขูดหินปูนทุก 6 เดือน และรักษาสุขอนามัยด้วยการแปรงฟันวันละ 2 ครั้งและใช้ไหมขัดฟันเป็นประจำ
อย่าปล่อยให้ “หินปูน” กลายเป็นภัยเงียบที่ทำลายสุขภาพปากและฟัน การดูแลตั้งแต่เนิ่นๆ คือกุญแจสำคัญในการรักษารอยยิ้มที่แข็งแรงในระยะยาว
#หินปูน #สุขภาพฟัน #ขูดหินปูน #เหงือกอักเสบ #ปริทันต์
ทีมข่าวขอนแก่นลิงก์




Leave a Response