🦗 พบมากช่วงพฤศจิกายนถึงธันวาคม
🔥 ผื่นแดง-รอยไหม้หลังสัมผัสพิษแมลง
👁️ สารพิษโดนตาอาจทำให้ตาบอด
🧴 วิธีปฐมพยาบาลเบื้องต้นควรล้างด้วยน้ำสะอาด

สถาบันโรคผิวหนัง กรมการแพทย์ ออกประกาศเตือนประชาชนในช่วงปลายฝนให้ระวังโรคผิวหนังจากการสัมผัส “แมลงก้นกระดก” หรือด้วงก้นกระดก หลังพบผู้ป่วยเพิ่มขึ้น โดยมีรายงานมากที่สุดในช่วงเดือนพฤศจิกายนถึงธันวาคม

นายแพทย์มานัส โพธาภรณ์ รองอธิบดีกรมการแพทย์ เปิดเผยว่า แมลงชนิดนี้พบมากในพื้นที่เกษตรและนาข้าว หากมาเกาะบนร่างกายแล้วเผลอปัดหรือบี้จนท้องแตก สารพิษในตัวแมลงจะสัมผัสกับผิวหนัง อาการจะเริ่มเกิดขึ้นหลังสัมผัส 8–12 ชั่วโมง โดยพบบริเวณนอกร่มผ้า มีลักษณะเป็นผื่นแดงหรือรอยไหม้ตามแนวปาดมือ

แพทย์หญิงมิ่งขวัญ วิชัยดิษฐ ผู้อำนวยการสถาบันโรคผิวหนัง เสริมว่า ผื่นจากแมลงก้นกระดกมีขอบเขตชัดเจน ภายใน 2–3 วันจะมีตุ่มน้ำพองใสหรือตุ่มหนองขนาดเล็ก อาการคันไม่มากแต่จะรู้สึกแสบร้อน หากพิษกระจายเข้าตาอาจทำให้ตาบวมแดงและเสี่ยงตาบอด โดยอาการทั่วไปมักหายไปภายใน 1–2 สัปดาห์ แต่หากได้รับพิษจำนวนมากหรือแพ้รุนแรงอาจมีไข้สูงและมีอาการทางระบบหายใจ

สำหรับการปฐมพยาบาล หากสัมผัสแมลงก้นกระดกควรล้างผิวหนังด้วยน้ำสะอาด ฟอกสบู่ หรือเช็ดด้วยแอมโมเนีย หลีกเลี่ยงการเกาเพราะอาจติดเชื้อเพิ่ม หากอาการไม่ดีขึ้นควรรีบไปพบแพทย์

วิธีป้องกันทำได้โดยหลีกเลี่ยงการสัมผัสแมลง หากมาเกาะบนผิวไม่ควรตีหรือบี้ แต่ควรเป่าหรือใช้เทปกาวใสแปะนำออก ก่อนนอนควรปัดที่นอนและผ้าห่มให้สะอาด ปิดประตูหน้าต่างให้มิดชิด และเปิดไฟเฉพาะที่จำเป็นเพื่อลดโอกาสที่แมลงจะเข้ามาในบ้าน

#แมลงก้นกระดก #โรคผิวหนัง #เตือนภัยสุขภาพ #ปลายฝนระวังแมลง #กรมการแพทย์

ทีมข่าวขอนแก่นลิงก์