• พายุ “หนองฟ้า” ทำฝนตกหนัก ส่งผลน้ำไหลเข้าเขื่อนอุบลรัตน์สูง
• เขื่อนอุบลรัตน์ระบายน้ำเพิ่มแบบขั้นบันได วันละ 1.5 ล้าน ลบ.ม.
• คาด 26 ก.ย. จะระบายสูงสุดที่ 30 ล้าน ลบ.ม. ต่อวัน
• ยืนยันน้ำที่ระบายไม่กระทบลำน้ำพอง
• เตรียมประชุมอีกครั้งปลายเดือน ก.ย. ประเมินปริมาณน้ำรอบใหม่

เมื่อเวลา 12.00 น. วันที่ 24 ก.ย. 2568 นายชาญณรงค์ จันทมงคล ผู้อำนวยการโรงไฟฟ้าพลังน้ำภาคตะวันออกเฉียงเหนือ หรือเขื่อนอุบลรัตน์ เปิดเผยว่า ตามที่พายุ ดีเปรสชัน “หนองฟ้า” ได้พาดผ่านภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน ทำให้บริเวณประเทศไทยตอนบนมีฝนตกหนาแน่นเกือบตลอดทั้งเดือน ก.ย. ส่งผลให้มีปริมาณน้ำไหลเข้าเขื่อนอุบลรัตน์ ตั้งแต่วันที่ 30 ส.ค. – 22 ก.ย. มากถึง 1,501 ล้าน ลบ.ม. ในขณะที่กรมอุตุนิยมวิทยา ได้คาดการณ์ว่าในช่วงระหว่างวันที่ 25-30 ก.ย. จะมีร่องมรสุมเลื่อนขึ้นไปพาดผ่านอีกระลอก ซึ่งจะส่งผลให้มีฝนตกเพิ่มขึ้นและมีฝนตกหนัก

“วันนี้อ่างเก็บน้ำเขื่อนอุบลรัตน์ มีระดับเก็บกักที่ 1,836.18 ล้าน ลบ.ม. คิดเป็นร้อยละ 75.52 ของความจุอ่าง โดยมีปริมาณน้ำไหลเข้า 51 ล้าน ลบ.ม. ปริมาณน้ำระบาย 24 ล้าน ลบ.ม. ซึ่งที่ประชุมศูนย์อำนวยการบริหารจัดการน้ำส่วนหน้า ในพื้นที่เสี่ยงอุทกภัยลุ่มน้ำโขงตะวันออกเฉียงเหนือ มีมติให้ กฟผ. เขื่อนอุบลรัตน์ ปรับการระบายน้ำในอัตราไม่เกิน 35 ล้าน ลบ.ม.ต่อวัน ทั้งนี้ ปริมาณการระบายน้ำให้ประสานงานกับสำนักชลประทานที่ 6 และสำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ ภาค 3 เพื่อไม่ให้เกิดผลกระทบทางด้านท้ายเขื่อน”

นายชาญณรงค์ กล่าวต่อว่า การระบายน้ำเพิ่มเป็นขั้นบันไดวันละ 1.5 ล้าน ลบ.ม. ในวันที่ 26 ก.ย. จะเป็นการระบายสูงสุดที่ 30 ล้าน ลบ.ม. ทั้งนี้ ปริมาณการระบายน้ำดังกล่าวไม่ส่งผลกระทบต่อพื้นที่ลุ่มต่ำริมลำน้ำพองแต่อย่างใด เพราะความจุลำน้ำพองด้านท้ายเขื่อนรับได้ที่ 35 ล้าน ลบ.ม. ต่อวัน หรืออัตราการไหล 400 ลบ.ม.ต่อวินาที และเมื่อถึงสิ้นเดือน ก.ย. จะมีการประชุมเพื่อประเมินปริมาณน้ำ ที่จะไหลเข้าอ่างเก็บน้ำเขื่อนอุบลรัตน์อีกครั้ง