วันนี้ (9 ก.ย.2568) เวลา 10.00 น. ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง นัดฟังคำสั่งบังคับโทษถึงที่สุดของนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี โดยศาลมีคำสั่งให้นำตัวกลับไปเข้าเรือนจำ และให้จำคุก 1 ปี โดยไม่รวม 120 วันที่พักรักษาตัวอยู่ชั้น 14 โรงพยาบาลตำรวจ หลังใช้เวลาอ่านคำสั่งราว 2 ชั่วโมง

คดีนี้สืบเนื่องจากวันที่ 22 ส.ค.2566 นายทักษิณเดินทางกลับประเทศไทย และถูกควบคุมตัวเพื่อรับโทษใน 3 คดี คือ คดีทุจริตที่ดินรัชดาภิเษก 3 ปี คดีหวยบนดิน 2 ปี และคดีธนาคารกรุงเทพฯ ปล่อยกู้กฤษดามหานคร 3 ปี รวมโทษจำคุก 8 ปี ก่อนจะได้รับพระราชทานอภัยโทษเหลือ 1 ปี แต่คืนเดียวกันเกิดอาการป่วย จึงถูกส่งไปรักษาที่โรงพยาบาลตำรวจชั้น 14 และพักรักษาตัวจนได้รับพักโทษเมื่อวันที่ 18 ก.พ.2567 ซึ่งนำมาสู่เสียงวิจารณ์ว่าป่วยจริงหรือไม่

ต่อมา นายชาญชัย อิสระเสนารักษ์ อดีต ส.ส.นครนายก พรรคประชาธิปัตย์ ยื่นคำร้องให้ตรวจสอบ แต่ศาลยกคำร้องเพราะไม่ใช่คู่กรณี อย่างไรก็ตาม ศาลฎีกาได้ไต่สวนเอง โดยเรียกนายมานพ ชมชื่น ผู้บัญชาการเรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ และพยานกว่า 30 ปาก ทั้งแพทย์ พยาบาลเวร พัศดี ผู้ควบคุมตัว อดีตผู้บริหารกรมราชทัณฑ์ บุคลากรแพทยสภา และนายวิษณุ เครืองาม อดีตรองนายกฯ

ในวันนัดฟังคำสั่งวันนี้ เวลา 09.30 น. นายทักษิณเดินทางมาพร้อม น.ส.แพทองธาร ชินวัตร และ น.ส.พินทองทา ชินวัตร คุณากรวงศ์ บุตรสาว เข้าฟังคำสั่งร่วมกัน ก่อนศาลมีมติให้นำตัวจำคุก 1 ปี โดยเห็นว่าการส่งตัวรักษาที่ชั้น 14 โรงพยาบาลตำรวจเป็นการเตรียมการไว้แล้ว ไม่เข้าข่ายเงื่อนไขการป่วยตามกฎหมาย

ทั้งนี้ แพทยสภามีมติลงโทษแพทย์ 3 ราย ที่เกี่ยวข้อง โดย 1 รายถูกตักเตือน และอีก 2 รายถูกพักใช้ใบอนุญาต หลังตรวจพบว่ามีการให้ข้อมูลทางการแพทย์ไม่ตรงกับข้อเท็จจริง และระบุว่านายทักษิณไม่ได้อยู่ในภาวะป่วยวิกฤต

ทีมข่าวขอนแก่นลิงก์