สำนักงานขนส่งจังหวัดขอนแก่น ให้ความรู้กับเจ้าของสถานตรวจรถ เพื่อให้ความรู้กับผู้ที่ปฏิบัติงานตรวจสภาพรถ รวมทั้งรถยนต์ไฟฟ้า ที่ใกล้จะเข้าสู่การตรวจสภาพรถ ภายใน 1 ปีข้างหน้า

วันที่ 7 ก.ย.68 ที่สำนักงานขนส่งแห่งที่ 2 ตำบลสำราญ อำเภอเมืองขอนแก่น นายวิมาน ปานกลาง หัวหน้าฝ่ายตรวจสภาพรถ สำนักงานขนส่งจังหวัดขอนแก่น เปิดโครงการเสริมสร้างความรู้ผู้ปฏิบัติงานด้านการตรวจสภาพรถ ของสถานตรวจสภาพรถจังหวัดขอนแก่น ประจำปีงบประมาณ 2568 โดยมีสถานตรวจสภาพรถในจังหวัดขอนแก่น จำนวน 78 แห่ง เข้าร่วมโครงการ

นายวิมาน ปานกลาง หัวหน้าฝ่ายตรวจสภาพรถ สำนักงานขนส่งจังหวัดขอนแก่น กล่าวว่า ปัจจุบันจังหวัดขอนแก่น มีสถานตรวจสภาพรถทั้งสิ้น 78 แห่ง เมื่อตรวจสอบผ่านศูนย์ควบคุมระบบตรวจรถ (ZVICC) และการออกตรวจสอบ ณ ที่ตั้งของสถานตรวจสภาพพบว่า การปฏิบัติงานเจ้าหน้าที่ควบคุมการตรวจสภาพรถ และเจ้าหน้าที่ตรวจสภาพรถ ในสถานตรวจสภาพรถเอกชนหลายแห่ง ยังขาดความถูกต้องและไม่เป็นไปตามระเบียบ ว่าด้วยการตรวจสภาพรถซึ่งส่งผลต่อผู้ประกอบการ สถานตรวจสภาพรถ จะต้องถูกลงโทษตามกฎหมายในข้อหาความผิด ไม่ควบคุม กำกับ ดูแล ให้มีการปฏิบัติงานไม่เป็นไปตามกฎหมายกำหนด พบว่าปัญหาหลักพบว่าเกิดจากการปฏิบัติงาน ของผู้ควบคุมการตรวจสภาพรถและเจ้าหน้าที่ที่ตรวจสภาพรถ จึงต้องมีการให้ความรู้ในการตรวจสภาพรถที่ถูกต้องตามมาตรฐาน ของกรมขนส่งทางบกกำหนดไว้ ทำให้ฝ่ายตรวจสภาพรถ สำนักงานขนส่งจังหวัดขอนแก่น จัดอบรมให้ความรู้ในครั้งนี้

หัวหน้าฝ่ายตรวจสภาพรถ สำนักงานขนส่งจังหวัดขอนแก่น กล่าวต่อไปว่า เพื่อเป็นการยกระดับการปฏิบัติงาน ของผู้ควบคุมการตรวจสภาพรถ และเจ้าหน้าที่ตรวจสภาพรถในสถานตรวจสภาพรถเอกชน จึงต้องมีการอบรมให้ความรู้จากเจ้าหน้าที่ขนส่งจังหวัดขอนแก่น และผู้เชี่ยวชาญจากศูนย์บริการรถยนต์, ผู้เชี่ยวชาญจากมหาวิทยาลัยราชมงคลอีสาน วิทยาเขตขอนแก่น, วิทยาลัยเทคนิคขอนแก่น โดยมีการให้ความรู้และการแบ่งกลุ่มปฏิบัติจริง เพื่อความปลอดภัยของลูกค้า ที่นำรถเข้ามาตรวจสภาพก่อนนำรถยนต์ออกไปใช้ บนท้องถนน นอกจากนี้ยังจะได้นำความรู้การตรวจสภาพรถยนต์ไฟฟ้า มาให้ความรู้อีกด้วย เพราะเนื่องจากรถไฟฟ้าที่เริ่มนำเข้าในประเทศไทย มีการใช้มานานกว่า 6 ปี และเมื่อเข้าสู่ปีที่ 7 จะต้องมีการนำรถเข้ามาตรวจสภาพ จำเป็นที่สถานตรวจสภาพรถจะต้องได้รับความรู้ ในการตรวจสภาพรถยนต์ไฟฟ้า เพราะรถไฟฟ้ามีระบบที่ต้องใช้ไฟฟ้าแรงสูงในการขับเคลื่อน จึงต้องมีผู้เชี่ยวชาญให้ความรู้ไปด้วย