“ปะจัน ” โดย “เขี้ยวจัน ”
ปีที่ 3 : ตามที่ใจสั่งมา……..
ที่นี่….ไม่ใช่คอลัมน์ร้องทุกข์ แต่เป็น การสังคมอุดมปัญญา ลุกขึ้นมา “ทวงสิทธิ” ของการเป็นพลเมืองผู้ตื่นรู้ เจ้าของคะแนนเสียงที่เลือก”ตัวแทน” ในทุกระดับ ของการปกครองส่วนท้องถิ่น และการบริหารบ้านเมือง ด้วยข้าราชการ “ตัวแทน” จากส่วนกลาง ทุกกระทรวง ทบวง กรม [ หน้ารวมบทความ ปะจัน]
การตั้ง และการบริหารงบประมาณแผ่นดิน มากกว่า 20 ปี ที่ผ่านมา พบว่า เป็นเงินผูกพันการจ่ายด้านงานบุคลากร เกือบ 3 ใน 4 หมายถึงเงินงบประมาณ ทุกๆ 100 บาท จะต้องนำไปจ่ายเป็นค่าจ้าง ข้าราชการ ลูกจ้างรัฐ 75 บาท ที่เหลืออีก 25 บาท เป็นค่าใช้จ่ายในการพัฒนาประเทศ งบลงทุนและอื่นๆ
ตามแผนงานการบริหารงานการจ้างงานเยอะ อาจไม่ใช่เรื่องแปลกใหม่ เพราะทุกงานย่อมขับเคลื่อน ด้วยพลังงานคนอยู่แล้ว ซึ่งเราเห็นกันในประเทศพัฒนาแล้ว เขาล้วนใช้คนเก่ง มาพัฒนา ยกระดับบ้านเมืองทั้งนั้น ดูอย่างสิงคโปร์ นั่นปะไร… 60 ปี ของการก่อตั้งประเทศ เขาออกแบบประเทศของเขา จนวันนี้…ขึ้นระดับโลก ไปแล้วนะ… เพราะ “คน” ล้วนๆ
ข้อมูลจากสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคม ระบุว่า จำนวนข้าราชการ+ลูกจ้าง ในรอบ 10 ปีที่ผ่านมา มีจำนวนเพิ่มขึ้นจาก 3 ล้านคน ปัจจุบัน ราว 4 ล้านคน และเรามักพิจารณาถึงประสิทธิภาพของคนกลุ่มนี้ รวมทั้งการที่ควรมีเทคโนโลยีเข้ามาช่วยงาน ก็ไม่คืบหน้า ในแนวทางปฏิบัติแต่อย่างใด จึงเกิดเหตุที่เราได้เห็นกันจากโครงสร้างค่าใช้จ่ายของงบประมาณแผ่นดิน
ข้าราชการน้ำดี ก็มีมาก ไม่ได้พูดให้น้อยใจกัน แต่คนทำงาน ทำดี ควรมีกำลังใจ ใช่ว่า คนดี ผลของงานคือ คนของใคร ?
หากจำนวนคนเยอะ แต่มีการศึกษา มีคุณภาพ ย่อมส่งผลกับประเทศ ตามสมการของการพัฒนา แต่สภาพเป็นอย่างไร ? เรารู้ เราเห็น เราสัมผัสกันได้ ไม่ต้องมีคำอธิบายใดๆ
ระบบการศึกษาไทย เป็นที่วิพากษ์กันว่า แม้จะเขียน สะกดการอ่านว่า มีการปฏิรูปการศึกษา แต่พบว่า ลดระดับการประเมิน ทั้งในระดับโลก ระดับอาเซียน เด็กไทย มีพัฒนาการด้านศึกษา น่าเป็นห่วง ที่พวกเราจะส่งผ่านบ้านเมืองไปสู่คนรุ่นต่อไป
เห็นข่าวประเทศเพื่อนบ้านที่กำลังแซงหน้าบ้านเรา ด้านการพัฒนาเศรษฐกิจ “เนื้อหอม” ให้นักลงทุนต่างชาติรุม เทเงินเข้าไปลงทุน อย่าง เวียดนาม เขาประกาศเปรี้ยง ในการยุบรวมจังหวัดที่มีมากเกิน ยากต่อการดูแล และปลดข้าราชการ เบื้องต้น จำนวน 80,000 คน ใช้การบริหารงาน เล็กแต่แจ๋ว โดยมองประโยชน์ของบ้านเมืองเป็นที่ตั้ง
อีกข่าวที่น่าสนใจ คือ เกาหลีใต้ มีกฎหมายห้ามใช้มือถือในห้องเรียน มีผลบังคับใช้ ปีหน้า-2569 ด้วยเหตุผลของการมีสมาธิแห่งการเรียน
สองเรื่องหลัก ที่แหลมคม ตรงประเด็นของข้อจำกัด แต่อาจต้องเจอแรงกระแทกแรงๆ จะมีนักการเมืองคนไหน กล้าทำ กล้าผ่าฝีหนองให้ประเทศไทยกันไหม ?





Leave a Response