เมื่อเวลา 10.30 น. วันที่ 5 กันยายน 2568 ผู้สื่อข่าวรายงานจากตลาดสดบางลำภู ตำบลในเมือง อำเภอเมือง จังหวัดขอนแก่น บรรยากาศเป็นไปอย่างคึกคัก พ่อค้าแม่ค้าและประชาชนที่มาจับจ่ายต่างหยุดกิจการชั่วคราวเพื่อร่วมติดตามการประชุมรัฐสภาในการโหวตเลือกนายกรัฐมนตรีคนที่ 32 ของประเทศไทย ผ่านสมาร์ทโฟน โทรศัพท์มือถือ และโทรทัศน์ที่ตั้งไว้ในแผงค้า พร้อมแสดงความเห็นตรงกันว่าการเมืองควรเดินหน้าและยุติการถกเถียง

นางอารยานี เนียมประดิษฐ์ ผู้จัดการตลาดบางลำภู กล่าวว่า ไม่ว่าผลการโหวตออกมาเช่นไร ก็มองว่ามีค่าเท่าเดิม เพราะนักการเมืองมุ่งแต่ผลประโยชน์และพวกพ้อง โดยละเลยการแก้ไขปัญหาของประชาชน ทั้งเศรษฐกิจและสถานการณ์ชายแดนไทย–กัมพูชาที่ยังมีการปะทะ ส่วนตัวเชื่อว่าใครก็ตามที่ได้เป็นนายกรัฐมนตรีจะรีบจัดการเรื่องผลประโยชน์ส่วนตนทันที ขณะที่ประชาชนยังไม่ได้รับการเหลียวแล พร้อมเสนอว่าการยุบสภาเป็นทางออกที่ประชาชนรอคอยมากกว่าการเลือกนายกรัฐมนตรี

นายสำเริง รอดทอง อายุ 47 ปี พ่อค้าในตลาด มองว่า ผลโหวตน่าจะตกลงกันตั้งแต่ก่อนหน้าแล้ว และเชื่อว่าผลจะออกมาเป็น “สีน้ำเงิน” แต่ก็เห็นว่าไม่ว่าจะใครขึ้นมา ประโยชน์ก็ยังตกอยู่ที่พวกพ้อง ขณะที่ประชาชนยังต้องเผชิญปัญหาเศรษฐกิจและสถานการณ์ชายแดน อีกทั้งยังไม่คาดหวังกับการยุบสภาหรือการเลือกตั้งใหม่ เพราะมองว่าประชาชนสิ้นหวังไปแล้ว

ด้านนางนิศาชล วงษ์ภูมี อายุ 59 ปี แม่ค้า ระบุว่า หากนายอนุทินได้เป็นนายกรัฐมนตรีก็ยังมีคดีค้างคา ทำให้ไม่มั่นใจว่าจะเกิดการเอื้อประโยชน์หรือไม่ แต่หากเป็นตัวแทนพรรคเพื่อไทยจะมองว่าดีกว่า เพราะอย่างน้อยยังสามารถสานต่อโครงการที่กำลังดำเนิน เช่น รถไฟฟ้า 20 บาท และโครงการเอ็นเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ที่ช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจ พร้อมแสดงความเชื่อมั่นว่านายทักษิณ ชินวัตร ที่บินไปต่างประเทศ จะกลับมารับฟังคำตัดสินของศาล

ทีมข่าวขอนแก่นลิงก์