“ปะจัน ” โดย “เขี้ยวจัน ”
ปีที่ 3 : ตามที่ใจสั่งมา……..
ที่นี่….ไม่ใช่คอลัมน์ร้องทุกข์ แต่เป็น การสังคมอุดมปัญญา ลุกขึ้นมา “ทวงสิทธิ” ของการเป็นพลเมืองผู้ตื่นรู้ เจ้าของคะแนนเสียงที่เลือก”ตัวแทน” ในทุกระดับ ของการปกครองส่วนท้องถิ่น และการบริหารบ้านเมือง ด้วยข้าราชการ “ตัวแทน” จากส่วนกลาง ทุกกระทรวง ทบวง กรม [ หน้ารวมบทความ ปะจัน]
การบริหาราชการแผ่นดิน “นายกรัฐมนตรี” คือ ผู้บริหารสูงสุด หรือ เป็น “เบอร์หนึ่ง” ที่มีทั้งอำนาจและหน้าที่ในการบริหารและรับผิด รับชอบ ในเวลาเดียวกัน
รู้กันว่า “นักการเมือง” ช่วงชิงอำนาจในการเข้ามาบริหารประเทศ จนสภาพเป็นอย่างที่พวกเรารู้สึกกันว่า ในรอบ 10 ปี ที่ผ่านมา กำลังขับเคลื่อนทางเศรษฐกิจของไทย ถดถอยไป แม้จะยืนเฉย แต่หากเพื่อนบ้านขยับตัว เราย่อมเหมือนถอยหลัง….
ปัญหาคาราคาซัง ของคนเพียงตระกูลเดียว ส่งผลให้การขับเคลื่อนทางเศรษฐกิจ ชะลอ ชะงัก เครื่องยนต์ตัวเดียวที่เรายังเชื่อมั่นว่าจะช่วยพยุงปีกหาง ให้เดินหน้าได้
แต่มาในวันนี้พบว่า อุตสาหกรรมการท่องเที่ยว ห่อเหี่ยวฟุบตัวลง เมื่อคู่แข่งก็มองเห็นช่องทางของเครื่องยนต์นี้ในบ้านเขาเช่นกัน แม้การเปิดไฟเขียว อำนวยความสะดวก เชิญชวนแบบชิล ชิลว่า ไม่ต้องลงตีตราวีซ่า กลายเป็นการเปิดประตูให้กลุ่มคนสีเทาเข้ามาทำมาหากิน และนักท่องเที่ยวกลุ่มแบกกระเป๋าแบคแพก มากกว่ากลุ่มพวกกระเป๋าหนัก จึงมีกลุ่มคนต่างชาติ รุกเข้ามาในพื้นที่ รุกเข้ามาชิงอาชีพ จากความอ่อนแอของมาตรการกวดขันของข้าราชการไทย ที่คอร์รัปชั่นระบาดไปทุกวงการ
ดัชนี ชี้วัดอุณหภูมิทางเศรษฐกิจ วัดฝีมือการบริหารของรัฐบาล ที่ทุกประเทศใช้กันเป็นสากล คือ การเติบโตทางเศรษฐกิจ ที่เรียกว่า GDP บ้านฉันโต เท่าไหร่ บ้านเธอโตเท่าไหร่ พิสูจน์กันได้ด้วยตัวเลขเทียบเคียงเดียวกันแล้วเป็นที่ยอมรับกันทั่วโลก
นักลงทุนมอง GDP เป็นปัจจัยสำคัญในการตัดสินใจนำเงินเข้ามาลงทุน และสะท้อนการทำธุรกิจในประเทศ ว่า มีความเติบโต อย่างไร ยิ่งตัวเลขน้อย ย่อมไม่เป็นผลดีต่อการขับเคลื่อนประเทศ
ตัวเลขล่าสุด ไตรมาสสอง ของปี 2568 หรือเมื่อเดือนมิถุนายน ที่ผ่านมา GDP ของไทย โตเพียง 2.8 % ต่ำสุด ในอาเซียน !!!!!
อัยยะ…. และนี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่ส่อแวว น่าตกใจ…เรื่องนี้ ยังไม่ได้ยินว่ารัฐบาล จะออกมาสื่อสารกับประชาชนอย่างไร…เงียบกริบ และยังไม่พบว่า รัฐบาลจะมีมาตรการอะไรออกมาฟื้นฟูอย่างจริงจัง
“ความรับผิดชอบ” จึงเป็นเสียงที่ประชาชนถามหา พวกเขาจะหันหน้าไปพึ่งใคร ในเมื่อนักการเมือง บอกปาว ปาว อาสามารับใช้พี่น้องประชาชน งานนี้ หากเป็น”ลูกจ้าง” ในองค์กร คงถูกไล่ออกไปแล้ว กระมัง….





Leave a Response