🥇 แก้วโลหะเคลือบสารเคมีเสี่ยงโลหะหนัก
⚠️ แก้วอีนาเมลบิ่น โลหะปนเปื้อนน้ำร้อน
🧪 สแตนเลสคุณภาพต่ำ ปล่อยสารเมื่อเจอความร้อน
🚫 พลาสติกทั่วไปปล่อย BPA อันตราย
🎨 เซรามิกเคลือบสีฉูดฉาดเสี่ยงโลหะหนักละลาย
แม้ว่าแก้วน้ำจะดูเป็นเพียงของใช้เล็กๆ ในชีวิตประจำวัน แต่การเลือกใช้แก้วผิดประเภทอาจทำให้ดื่มน้ำปนเปื้อนสารพิษโดยไม่รู้ตัว โดยเฉพาะเมื่อเทน้ำร้อนหรือน้ำเดือดลงในแก้วที่ไม่ได้ออกแบบมาให้ทนความร้อน ซึ่งอาจนำไปสู่การสะสมสารอันตรายในร่างกาย ส่งผลเสียต่อสุขภาพระยะยาว
ผู้เชี่ยวชาญชี้ว่า มีแก้ว 5 ประเภทที่ไม่ควรใช้งานกับน้ำเดือด ได้แก่
- แก้วโลหะ ที่ผ่านการเคลือบสารเคมี มักมีโลหะหนักอย่างตะกั่วหรือแคดเมียม เมื่อเจอน้ำเดือดสารเคลือบละลายลงในน้ำ หากดื่มเป็นประจำ ร่างกายจะสะสมสารพิษซึ่งเป็นอันตรายต่ออวัยวะสำคัญ เช่น ตับและไต
- แก้วสังกะสี หรือถ้วยอีนาเมล แม้มีดีไซน์คลาสสิก แต่หากมีรอยบิ่นหรือเคลือบหลุด สารโลหะหนัก เช่น ตะกั่วและอลูมิเนียม อาจปนเปื้อนในน้ำ ส่งผลเสียต่อระบบย่อยอาหารและตับ
- แก้วสแตนเลสคุณภาพต่ำ หากไม่ได้ใช้เกรดอาหาร เช่น 304 หรือ 316 อาจปล่อยสารเจือปนเมื่อต้องน้ำร้อน วิธีตรวจสอบเบื้องต้นคือ หากแช่ในชาร้อนหรือน้ำเกลือแล้วเกิดสนิม ถือว่าไม่ปลอดภัย
- แก้วพลาสติกทั่วไป โดยเฉพาะที่ทำจากโพลีคาร์บอเนต (PC) ไม่เหมาะกับน้ำร้อน เพราะอาจปล่อยสาร BPA ซึ่งกระทบต่อระบบฮอร์โมนและเพิ่มความเสี่ยงต่อสุขภาพ โดยเฉพาะเด็กและสตรีมีครรภ์
- แก้วเซรามิกเคลือบสีฉูดฉาด แม้จะดูสวยงามและราคาถูก แต่หากเคลือบด้วยสารผสมโลหะหนัก เมื่อโดนความร้อนสูง สารเหล่านี้จะละลายออกมาและปนเปื้อนในน้ำดื่ม
คำแนะนำในการเลือกใช้แก้วน้ำอย่างปลอดภัย คือ ควรเลือกแก้วที่ทำจากวัสดุคุณภาพ เช่น เซรามิกแท้ที่ไม่เคลือบสี หรือแก้วโบรอนซิลิเกต (Borosilicate) ซึ่งทนความร้อนได้ดี หลีกเลี่ยงแก้วที่มีรอยบิ่น สีสดฉูดฉาด หรือผิวไม่เรียบ และควรตรวจสอบว่าผ่านมาตรฐานความปลอดภัยด้านอาหารทุกครั้งก่อนเลือกซื้อ
#แก้วน้ำปลอดภัย #หลีกเลี่ยงสารพิษ #BPAอันตราย #สุขภาพดีเริ่มจากน้ำดื่ม #เลือกแก้วอย่างถูกต้อง
ทีมข่าวขอนแก่นลิงก์




Leave a Response