🍫 ช็อกโกแลตและขนมหวานมีคาเฟอีน
🥤 น้ำอัดลม-ชา-เครื่องดื่มชูกำลังแฝงสูง
📊 ผู้ใหญ่ไม่ควรเกิน 400 มก./วัน
หลายคนอาจเข้าใจว่าคาเฟอีนมีอยู่เฉพาะในกาแฟหรือชาเท่านั้น แต่ความจริงแล้ว คาเฟอีนยังแฝงอยู่ในอาหาร ขนม และเครื่องดื่มอีกหลากหลายชนิดที่เราบริโภคเป็นประจำ ทำให้บางครั้งร่างกายได้รับเกินปริมาณที่ควรโดยไม่รู้ตัว
คาเฟอีนเป็นสารกระตุ้นระบบประสาทที่พบในธรรมชาติ เช่น เมล็ดกาแฟ ใบชา และเมล็ดโกโก้ เมื่อเข้าสู่ร่างกายจะช่วยให้รู้สึกตื่นตัว ลดความง่วง และเพิ่มสมาธิ อย่างไรก็ตาม หากได้รับมากเกินไป อาจทำให้ใจสั่น นอนไม่หลับ หรือปวดหัว
ตัวอย่างอาหารและขนมที่มีคาเฟอีนแฝง ได้แก่ ช็อกโกแลตแท่ง ดาร์กช็อกโกแลต บราวนี่ เค้กช็อกโกแลต ไอศกรีมรสกาแฟหรือโกโก้ รวมถึงคุกกี้และบิสกิตที่ผสมโกโก้หรือกาแฟ ส่วนเครื่องดื่มที่ไม่ใช่กาแฟโดยตรง เช่น ชาเขียว ชาดำ ชาขาว ชาอู่หลง โกโก้ร้อนหรือเย็น น้ำอัดลมรสโคล่า รวมถึงเครื่องดื่มชูกำลัง ก็ล้วนมีคาเฟอีนในระดับต่างกัน โดยบางชนิดมีมากกว่ากาแฟหนึ่งแก้วด้วยซ้ำ
นอกจากนี้ คาเฟอีนยังพบในอาหารสำเร็จรูป เช่น โปรตีนบาร์ ซีเรียลบาร์ ขนมขบเคี้ยวรสโกโก้ ซีเรียลอาหารเช้าที่ใส่ผงโกโก้ และเจลพลังงานที่นักวิ่งหรือผู้เล่นกีฬาใช้ ซึ่งบางยี่ห้อมีคาเฟอีนผสม
ผู้เชี่ยวชาญแนะนำว่า ผู้ใหญ่ไม่ควรบริโภคคาเฟอีนเกิน 400 มิลลิกรัมต่อวัน หรือประมาณกาแฟ 3–4 แก้ว ขณะที่เด็กและวัยรุ่นควรได้รับในปริมาณที่น้อยกว่ามาก เพราะหากเกินขนาดอาจส่งผลให้ใจสั่น กระสับกระส่าย และรบกวนการนอนหลับ
เคล็ดลับในการหลีกเลี่ยงคาเฟอีนแฝง คือ ควรอ่านฉลากโภชนาการก่อนซื้อ หลีกเลี่ยงขนมรสโกโก้หรือกาแฟในช่วงเย็น และหากพบว่ามีอาการนอนไม่หลับหรือน้ำหนักลดโดยไม่ทราบสาเหตุ ควรตรวจสอบพฤติกรรมการกินที่อาจเกี่ยวข้องกับคาเฟอีน
การรู้เท่าทันและเลือกบริโภคคาเฟอีนอย่างพอเหมาะ จะทำให้เราได้รับประโยชน์ด้านความตื่นตัว โดยไม่ส่งผลเสียต่อสุขภาพในระยะยาว
#คาเฟอีนแฝง
#สุขภาพดีเริ่มที่เลือกกิน
#ดาร์กช็อกโกแลต
#เลี่ยงเครื่องดื่มชูกำลัง
#อ่านฉลากก่อนซื้อ
ทีมข่าวขอนแก่นลิงก์




Leave a Response