หากคุณเป็นเจ้าของบ้านที่กำลังวางแผนทำเฟอร์นิเจอร์บิ้วท์อิน ไม่ว่าจะเป็นตู้เสื้อผ้า เคาน์เตอร์ครัว หรือชั้นวางของ สิ่งหนึ่งที่คุณไม่ควรมองข้ามเด็ดขาดคือ ไม้โครง ซึ่งเป็นแกนโครงสร้างสำคัญที่อยู่ภายในเฟอร์นิเจอร์ แม้ภายนอกจะดูเรียบหรูด้วยลามิเนตหรือไม้จริง แต่ถ้าใช้ไม้โครงไม่มีคุณภาพ ก็อาจทำให้เฟอร์นิเจอร์บิดงอ ผุพังเร็ว หรือรับน้ำหนักไม่ได้ ในบทความนี้เราจะพาคุณมารู้จักไม้โครงอย่างละเอียด ตั้งแต่ชนิดที่ใช้ ความแตกต่างของไม้แต่ละประเภท พื้นที่เหมาะสมในการใช้งาน วิธีตรวจสอบคุณภาพ และแหล่งซื้อไม้โครงคุณภาพดีที่มืออาชีพเลือกใช้

1.ไม้โครง ไม้จ๊อยคืออะไร

ไม้โครง คือ วัสดุไม้แปรรูปที่มีบทบาทสำคัญในงานเฟอร์นิเจอร์บิ้วท์อิน โดยเฉพาะการใช้เป็นโครงสร้างภายใน เช่น โครงตู้ โครงโต๊ะ หรือฐานรองต่าง ๆ ลักษณะเด่นของไม้โครงคือมีความยาวเป็นเส้นตรง ขนาดมาตรฐานที่เหมาะกับการขึ้นรูป ทำให้ติดตั้งง่ายและประหยัดเวลาในการทำงาน โดยไม้โครงสามารถแบ่งออกได้เป็น 2 ประเภทหลักตามวิธีการผลิต ได้แก่ ไม้โครงท่อนเต็ม และไม้โครงจ๊อย หรือ ไม้จ๊อย (Finger Joint) ซึ่งแต่ละประเภทมีข้อดีแตกต่างกัน ไม้โครงท่อนเต็ม คือไม้ที่ตัดมาจากไม้เนื้อแข็งหรือไม้เนื้ออ่อนทั้งท่อนโดยไม่ผ่านการต่อ ทำให้ได้ไม้ชิ้นเดียวทั้งเส้น มีความแข็งแรงสูง รองรับน้ำหนักได้ดี นิยมใช้ในงานที่ต้องการความทนทานในระยะยาว เช่น โครงเฟอร์นิเจอร์ที่ต้องแบกรับน้ำหนักมาก อย่างไรก็ตาม ราคาก็จะสูงตามไปด้วยเนื่องจากต้องใช้ไม้ขนาดใหญ่และไม่มีรอยต่อ

ส่วนไม้โครงจ๊อย หรือ Finger Joint เป็นไม้ที่นำเศษไม้ชิ้นเล็ก ๆ มาต่อกันด้วยเทคนิคการเข้าฟันปลา เพื่อให้ได้ความยาวตามต้องการ กระบวนการนี้ช่วยลดการสูญเสียไม้ ทำให้ราคาถูกกว่าไม้ท่อนเต็ม แต่ยังคงความแข็งแรงในระดับที่เหมาะกับงานบิ้วท์อินทั่วไป เหมาะสำหรับเจ้าของบ้านที่ต้องการควบคุมงบประมาณโดยไม่ลดคุณภาพของโครงสร้าง

2.ไม้โครง และ ไม้จ๊อยมีกี่ชนิด ที่นิยมเอาไปทำงานบิ้วท์อิน

ไม้โครงที่นิยมในงานบิ้วท์อิน มีหลายชนิด ซึ่งแต่ละชนิดก็มีข้อดีและราคาต่างกันไป เช่น:

2.1 ไม้โครงยางพารา: ไม้เนื้ออ่อนแต่มีความยืดหยุ่นดี ตอบโจทย์งานที่ต้องการความเบา ราคาย่อมเยา

2.2 ไม้โครงสะเดา: แข็งแรงกว่ายางพารา ทนปลวกมากกว่า นิยมใช้ในเฟอร์นิเจอร์ที่เน้นความแข็งแรง

2.3: ไม้เนื้อแข็ง ทนชื้นและปลวกดี เหมาะกับพื้นที่ที่ต้องรับน้ำหนักมาก เช่น ฐานตู้หรือเคาน์เตอร์ครัว

2.4 ไม้โครงเบญจพรรณ: เป็นการรวมไม้หลายชนิดผสมกัน นิยมใช้ในงานทั่วไป ราคากลางๆ

2.5 ไม้โครงสัก: สวยงาม แข็งแรง ทนปลวกสูง ราคาสูง เหมาะกับงานที่ต้องโชว์ลายไม้

3.พื้นที่ตรงไหน เหมาะกับไม้โครงแบบไหน

การเลือกใช้ ไม้โครง ให้เหมาะกับพื้นที่ติดตั้ง เป็นสิ่งที่ช่วยให้เฟอร์นิเจอร์บิ้วท์อินมีอายุการใช้งานนาน แข็งแรง และลดปัญหาในอนาคตได้ โดยควรเลือกตามลักษณะความชื้น ความแข็งแรงที่ต้องการ และความสวยงามของลายไม้ ดังนี้

• พื้นที่ชื้น เช่น ห้องครัว ห้องน้ำ

แนะนำ ไม้โครงเต็ง หรือ ไม้โครงสะเดา เพราะเป็นไม้เนื้อแข็ง ทนชื้น ไม่บวมหรือโก่งง่าย เหมาะกับโครงตู้ล่าง หรือบริเวณที่มีไอน้ำหรือความเปียกชื้นบ่อย ๆ

• ห้องแห้งทั่วไป เช่น ห้องนั่งเล่น ห้องนอน

สามารถเลือกใช้ ไม้โครงยางพารา หรือ ไม้เบญจพรรณ ซึ่งมีราคาย่อมเยา แต่ยังแข็งแรงพอสำหรับโครงเฟอร์นิเจอร์ทั่วไป ไม่รับน้ำหนักมาก เช่น ตู้เสื้อผ้า ชั้นวางของ

• งานโชว์ลายไม้

ถ้าต้องการโชว์ลายไม้สวยงาม เช่น หน้าบานตู้ โต๊ะ หรือชิ้นงานที่เน้นดีไซน์ แนะนำ ไม้โครงสักสวนป่า เพราะลายไม้ชัด ดูหรู และทนปลวก เหมาะกับงานบิ้วท์อินระดับพรีเมี่ยม

4. วิธีตรวจสอบคุณภาพไม้โครงก่อนให้ช่างติดตั้งงานบิ้วท์อิน

ก่อนเริ่มงานเฟอร์นิเจอร์บิ้วท์อิน หากคุณต้องการให้ชิ้นงานแข็งแรง ทนทาน ไม่บิดงอหรือพังในระยะยาว การตรวจสอบไม้โครงก่อนให้ช่างเริ่มงานถือเป็นเรื่องสำคัญอย่างยิ่ง โดยสามารถตรวจสอบเบื้องต้นได้ด้วยตัวเองตามขั้นตอนต่อไปนี้:

4.1 ขั้นที่ 1: ตรวจสอบผิวไม้โครง

ดูผิวหน้าไม้ให้ทั่วทุกด้าน ควรเลือกไม้ที่ผิวเรียบ ไม่แตกร้าว ไม่บิ่น หรือมีร่องลึก เพราะจุดบกพร่องเล็ก ๆ เหล่านี้อาจทำให้เกิดการบิดงอหรือแตกร้าวเมื่อใช้งานจริง

4.2 ขั้นที่ 2: ตรวจดูรอยต่อ (สำหรับไม้โครงจ๊อย)

หากไม้โครงที่ใช้เป็นแบบ Finger Joint ควรตรวจสอบว่ารอยต่อฟันปลาเรียงชิดกันสนิท ไม่หลวม ไม่มีช่องว่าง และมีลายไม้ต่อกันอย่างเรียบร้อย แสดงถึงการต่อไม้ที่ประณีตและแข็งแรง

4.3 ขั้นที่ 3: ตรวจสอบความตรงของไม้

นำไม้แต่ละท่อนวางบนพื้นเรียบหรือแนวระนาบ แล้วมองจากด้านข้างหรือปลายไม้ เพื่อดูว่าไม้มีลักษณะโก่ง บิด หรือโค้งหรือไม่ ไม้โครงที่ดีควรจะตรงเสมอ เพื่อไม่ให้เฟอร์นิเจอร์เสียรูปเมื่อประกอบติดตั้ง

4.4 ขั้นที่ 4: ทดสอบความแน่นและน้ำหนักของไม้

ลองจับไม้แล้วยกดู หรือใช้นิ้วกดหรือบิดเบา ๆ เพื่อสัมผัสความแน่นของเนื้อไม้ หากรู้สึกว่ายวบ เบาเกินไป หรือหักง่าย อาจเป็นไม้เนื้ออ่อนหรือไม้ที่ยังไม่แห้งดี ไม่ควรนำมาใช้ทำโครงเฟอร์นิเจอร์

4.5 ขั้นที่ 5: สอบถามแหล่งที่มาและมาตรฐานการผลิต

หากเป็นไปได้ ควรถามทางร้านว่าผ่านกระบวนการอบแห้งหรือยัง มีการอบกันปลวก หรือรับรองมาตรฐานการผลิตหรือไม่ ไม้ที่ได้มาตรฐานมักจะคงทน ใช้งานได้นาน และลดโอกาสปัญหาในอนาคต

5.เลือกไม้โครง คุณภาพดี จากวิวัฒน์ชัย ค้าไม้ ทำให้เฟอร์นิเจอร์แข็งแรง

หากคุณกำลังมองหาไม้โครงคุณภาพดี ราคาประหยัดสำหรับงานบิ้วท์อิน และ เฟอร์นิเจอร์ วิวัฒน์ชัย ค้าไม้ มีตัวเลือกไม้โครงหลากหลายชนิด ทั้งไม้ยางพารา สะเดา เต็ง เบญจพรรณ และไม้สักสวนป่า ให้เลือกใช้งานตามความต้องการ โดยทุกชิ้นการคัดเกรดอย่างดี ด้วยประสบการณ์ขายไม้มามากกว่า 50 ปี ที่บางโพ ย่านค้าไม้ชื่อดังของประเทศไทย

• จัดจำหน่ายไม้โครงแบบท่อนเต็ม และไม้โครงจ๊อย
• มีครบทุกขนาดมาตรฐาน รองรับการใช้งานในงานบิ้วท์อินทุกประเภท
• ราคาส่งตรงจากโรงงาน พร้อมบริการให้คำปรึกษาโดยทีมงานผู้เชี่ยวชาญ

วิวัฒน์ชัยค้าไม้ ศูนย์รวมวัสดุไม้ครบวงจร เพราะนอกจากไม้โครงแล้ว ยังจำหน่ายวัสดุไม้อีกหลากหลายประเภท ไม่ว่าจะเป็น ไม้อัด, ไม้ HMR, ไม้ MDF, ไม้เนื้อแข็ง, ไม้เนื้ออ่อน ทั้งไม้ในประเทศและไม้นำเข้า ประตูไม้ ประตูภายใน รวมถึงฮาร์ดแวร์และอุปกรณ์งานไม้ครบครัน ไม่ว่าจะเป็นสี ฟิตติ้งตกแต่ง ไปจนถึงเครื่องมือช่าง—all in one ที่เดียวจบสำหรับช่างไม้และงานบิ้วท์อินทุกประเภท

ไม้โครงเป็นหัวใจของงานเฟอร์นิเจอร์บิ้วท์อินที่มองไม่เห็น แต่ส่งผลต่อความแข็งแรง ทนทาน และอายุการใช้งานของเฟอร์นิเจอร์ในบ้าน หากเลือกไม้โครงผิดหรือคุณภาพต่ำ อาจทำให้เสียทั้งเวลาและงบประมาณโดยไม่รู้ตัว ดังนั้นก่อนตัดสินใจจ้างช่างหรือเลือกวัสดุ เจ้าของบ้านควรทำความเข้าใจเรื่องไม้โครงให้ลึกซึ้ง พร้อมเลือกใช้ไม้คุณภาพจากแหล่งที่เชื่อถือได้ เช่น วิวัฒน์ชัย ค้าไม้ เพื่อให้ได้บ้านที่สวยงามและใช้งานได้จริงในระยะยาว

สนใจ วัสดุไม้ และ ฮาร์แวร์ ติดต่อ

• Line OA : @viwatchai
• Social Media : วิวัฒน์ชัย ค้าไม้
• website : viwatchai.com
• Showroom : ซอยประชานฤมิตร บางโพ กรุงเทพ