🍇 ลำไย ผลไม้ต้านมะเร็ง เสริมภูมิคุ้มกัน แต่กินมากอาจร้อนใน

Screenshot 2025-08-07 at 07-17-38 ลำไย ผลไม้ไท เคล็ดลับวิธีกินไม่ให้ร้อนใน

🍬 น้ำตาลสูง เสี่ยงร้อนใน
🧪 สารต้านมะเร็งในเนื้อและเมล็ด
🩺 แพทย์จีนชี้ลำไยมีฤทธิ์ร้อน
🧊 แช่น้ำเกลือช่วยลดความร้อน
🌿 สมดุลด้วยผลไม้ฤทธิ์เย็น

“ลำไย” ผลไม้รสหวานฉ่ำที่เป็นของโปรดของใครหลายคน ไม่เพียงแต่อร่อยและกินง่าย แต่ยังอุดมด้วยวิตามิน แร่ธาตุ และสารต้านอนุมูลอิสระที่เป็นประโยชน์ต่อร่างกาย โดยเฉพาะคุณสมบัติในการต้านมะเร็ง เสริมสร้างภูมิคุ้มกัน และบำรุงสมอง อย่างไรก็ตาม แม้จะมีประโยชน์มากมาย แต่ลำไยกลับทำให้หลายคนเกิดอาการ “ร้อนใน” เช่น เจ็บคอ เป็นแผลในปาก ปากแห้ง หรือท้องผูก หากบริโภคในปริมาณมากเกินไป

สาเหตุที่ลำไยทำให้เกิดอาการร้อนในนั้น ส่วนหนึ่งมาจากความเป็น “ผลไม้ธาตุร้อน” ตามหลักศาสตร์แพทย์แผนจีน โดยลำไยมีฤทธิ์กระตุ้นการไหลเวียนโลหิต หากรับประทานมากเกินไป จะทำให้เกิดภาวะหยางเกิน ซึ่งนำไปสู่ความร้อนในร่างกาย ขณะเดียวกันลำไยยังมีปริมาณน้ำตาลธรรมชาติสูง เช่น กลูโคสและฟรุกโตส ซึ่งทำให้ระบบย่อยและระบบเผาผลาญทำงานหนัก เป็นอีกหนึ่งปัจจัยที่เพิ่มความร้อนภายในร่างกาย

อาการที่มักพบได้หลังรับประทานลำไยในปริมาณมาก ได้แก่ ปากแห้ง เจ็บคอ เป็นแผลในช่องปาก ท้องผูก หรือมีอาการตัวร้อน

เคล็ดลับกินลำไยไม่ให้ร้อนใน

  1. แช่ลำไยในน้ำเกลือ
    เป็นวิธีพื้นบ้านที่ช่วยลดฤทธิ์ร้อนและยังช่วยปรับรสหวานของลำไยให้กลมกล่อมยิ่งขึ้น วิธีทำคือผสมน้ำสะอาด 1 ลิตร กับเกลือ 1 ช้อนชา แล้วนำลำไยที่ปอกเปลือกแล้วแช่ลงไปประมาณ 10–15 นาที จากนั้นล้างด้วยน้ำสะอาดอีกครั้งก่อนรับประทาน
  • หากต้องการแช่ทั้งเปลือก ให้เพิ่มเวลาเป็น 15–20 นาที
  • การแช่น้ำเกลือเย็นช่วยเพิ่มความกรอบให้เนื้อลำไย
  1. ดื่มน้ำเกลือหรือน้ำเปล่าหลังทาน
    การดื่มน้ำเปล่าผสมเกลือ ½ ช้อนชา ต่อ 1 แก้ว หลังรับประทานลำไย จะช่วยลดความร้อนในร่างกายและปรับสมดุลได้ดี
  2. กินคู่กับผลไม้ฤทธิ์เย็น
    เช่น มังคุด แตงโม ชมพู่ ส้มโอ แอปเปิล และแคนตาลูป เพื่อช่วยปรับสมดุลของธาตุในร่างกาย และลดอาการร้อนในจากลำไยได้อย่างมีประสิทธิภาพ

ลำไย: ผลไม้ต้านมะเร็งตามงานวิจัย

ในเนื้อลำไยมีสารสำคัญอย่าง “แกลโลแทนนิน” (Ellagic acid) ที่มีคุณสมบัติช่วยกระตุ้นการตายของเซลล์มะเร็งโดยไม่ทำลายเซลล์ปกติ ส่วนในเมล็ดลำไยยังพบสารโพลีฟีนอล เช่น เคอร์ซิทิน และแทนนิน ซึ่งมีฤทธิ์ในการต้านอนุมูลอิสระ ต้านการอักเสบ และช่วยยับยั้งเซลล์มะเร็งลำไส้ใหญ่ นอกจากนี้ยังมีสาร Lignin และ Polysaccharides ที่มีส่วนช่วยเสริมระบบภูมิคุ้มกัน ต่อต้านเชื้อแบคทีเรียและเชื้อรา

ข้อมูลโภชนาการของลำไย (ต่อ 100 กรัม)

  • พลังงาน: 73 กิโลแคลอรี
  • น้ำตาล: 18 กรัม
  • วิตามินซี: 69.2 มิลลิกรัม
  • โปรตีน: 0.97 กรัม
  • คาร์โบไฮเดรต: 16.98%
  • ไขมันต่ำ ใยอาหารน้อย

สรรพคุณทางแพทย์แผนไทยและจีน

ลำไยช่วยบำรุงหัวใจ ประสาท และม้าม บรรเทาอาการเครียด ส่งเสริมการนอนหลับ และบำรุงเลือด โดยเฉพาะเนื้อผลลำไย เหมาะสำหรับผู้หญิงหลังคลอด ส่วนเมล็ดช่วยลดอาการปวด กระเพาะอักเสบ และห้ามเลือด เปลือกลำไยสามารถนำไปใช้ทาแผลน้ำร้อนลวกเพื่อลดแผลเป็น ขณะที่รากและใบลำไยมีสรรพคุณในการแก้อาการช้ำใน ตกขาว หวัด และมาลาเรีย

กินลำไยเท่าไรดี?

  • ลำไยสด: แนะนำไม่เกิน 6-10 ผลต่อวัน
  • ลำไยแห้ง: ควรบริโภคไม่เกิน 2-3 เม็ดต่อวัน เพราะมีปริมาณน้ำตาลเข้มข้น
    ทั้งนี้ ผู้ที่เป็นเบาหวาน มีปัญหาระบบย่อย หรือกำลังเป็นไข้หวัด ควรหลีกเลี่ยงการบริโภคลำไย

#ลำไยต้านมะเร็ง
#ผลไม้ฤทธิ์ร้อน
#กินอย่างสมดุล
#ลำไยไม่ให้ร้อนใน
#สุขภาพดีด้วยลำไย

ทีมข่าวขอนแก่นลิงก์


Leave a Response

เรื่องล่าสุด