Key Point

• เหตุปะทะชายแดนส่งผลกระทบภาคเศรษฐกิจอีสาน โดยเฉพาะ 4 จังหวัด

• การค้าชายแดนชะงัก สูญเสียรายได้เฉลี่ย 500 ล้านบาทต่อเดือน

• ภาคบริการและเกษตรได้รับผลกระทบซ้ำ

• สถาบันการเงินเข้าเยียวยาด้วยมาตรการผ่อนชำระและสินเชื่อ

• ขอนแก่นเป็นศูนย์กลางติดตามสถานการณ์ชายแดน

เมื่อเวลา 14.00 น.วันที่ 4 ส.ค.2568 ที่ธนาคารแห่งประเทศไทย หรือ ธปท.สำนักงานภาคตะวันออกเฉียงเหนือ (ขอนแก่น) นายมนัสชัย จึงตระกูล รอง ผอ.ธปท. สำนักงานภาคตะวันออกเฉียงเหนือ จ.ขอนแก่น เปิดเผยว่า ภายหลังจากที่รัฐบาลมีมาตรการเปิดปิดด่านชายแดน ทำให้การค้าขายผ่านชายแดนชะงัก โดยมูลค่าการค้าชายแดนไทย กัมพูชา เดิมนั้นเฉลี่ย 10,000 ล้านบาทต่อเดือน ในจำนวนนี้มากถึงร้อยละ 95 เป็นมูลค่าทางด่านภาคตะวันออก สระแก้ว จันทบุรี ตราด ส่วนภาคอีสานรวมกัน 4 จังหวัด คือ อุบลราชธานี, สุรินทร์, ศรีสะเกษ และ บุรีรัมย์ สูญเสียมูลค่า 500 ล้านบาทต่อเดือน หรือคิดเป็น 5% จากมูลค่าทั้งหมด

“นอกจากการค้าชายแดนที่ได้รับผลกระทบโดยตรงแล้ว ยังรวมไปถึงภาคบริการที่ชาวกัมพูชาที่เดินทางเข้ามาใช้จ่ายแถบจังหวัดชายแดน และใช้บริการรักษาพยาบาล ประมาณหมื่นกว่าคนต่อเดือน ทำให้รายได้ส่วนนี้หายไป นอกจากนี้ยังมีภาคการเกษตรที่ได้รับผลกระทบ เนื่องจากพี่น้องประชาชนฝั่งอีสานทำนา จำนวนมาก มีกระสุนทางฝั่งกัมพูชาตกในพื้นที่นา จำนวนไม่น้อย ทำให้เกษตรกรไม่สามารถเก็บเกี่ยวผลผลิตได้ ซึ่งเป็นหน้าที่ของหน่วยความมั่นคงในการเก็บกู้”

นายมนัสชัย กล่าวต่อว่า สำหรับมาตรการเยียวยาผู้ประกอบการหรือประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์ความไม่สงบตามแนวชายแดนไทยกัมพูชานั้น สถาบันการเงินเข้าไปช่วยเหลือดูแลโดยการยืดระยะเวลาในการผ่อนชำระ และปล่อยสินเชื่อ เพื่อให้มีสภาพคล่องมากขึ้น ภาคธุรกิจหรือประชาชนที่ได้รับผลกระทบ สามารถติดต่อสถาบันการเงินในพื้นที่ได้