🍽️ ใยอาหารสูงช่วยขับถ่าย
👁️ วิตามินเอบำรุงสายตา
🦴 มีแคลเซียมช่วยเสริมกระดูก
💊 มีสารต้านอนุมูลอิสระ
⚠️ บริโภคมากเกินอาจทำให้เกิดนิ่ว

“ผักปลัง” หรือที่หลายคนรู้จักในฐานะผักพื้นบ้านริมรั้ว กลายเป็นหนึ่งในสมุนไพรท้องถิ่นที่กำลังได้รับความสนใจอย่างมากในวงการสุขภาพและโภชนาการ ด้วยลักษณะเป็นไม้เลื้อย ใบสีเขียวสด หาได้ง่ายในแทบทุกพื้นที่ของไทย โดยเฉพาะตามเขตรั้วบ้านหรือตามแปลงปลูกในชุมชนต่างๆ โดยผักปลังนอกจากจะมีรสชาติอร่อย สามารถนำไปประกอบอาหารได้หลากหลายเมนู ยังอุดมไปด้วยคุณค่าทางโภชนาการและสรรพคุณทางยาที่โดดเด่น

หนึ่งในคุณสมบัติสำคัญของผักปลังคือ มีใยอาหารสูงมาก ส่งผลดีต่อระบบขับถ่าย ช่วยป้องกันและบรรเทาอาการท้องผูก ควบคุมระดับน้ำตาลในเลือด รวมถึงช่วยลดระดับคอเลสเตอรอลในร่างกาย พร้อมกันนี้ยังมีวิตามินเอในปริมาณมาก ซึ่งมีบทบาทสำคัญในการบำรุงสายตา การมองเห็นในที่มืด และช่วยให้ผิวพรรณดูสดใสเปล่งปลั่ง

วิตามินซีในผักปลังถือว่าอยู่ในระดับสูง จึงทำหน้าที่เป็นสารต้านอนุมูลอิสระที่ช่วยปกป้องเซลล์จากความเสียหาย เสริมสร้างภูมิคุ้มกัน ลดโอกาสเป็นหวัด และช่วยในการดูดซึมธาตุเหล็กจากอาหาร ส่วนแร่ธาตุอย่างแคลเซียมและฟอสฟอรัส ก็มีบทบาทสำคัญในการบำรุงกระดูกและฟันให้แข็งแรง พร้อมทั้งป้องกันโรคกระดูกพรุน ขณะที่ธาตุเหล็กในผักปลังก็มีส่วนช่วยในการสร้างเม็ดเลือดแดง ป้องกันภาวะโลหิตจาง โดยเฉพาะในกลุ่มผู้หญิงและผู้ที่รับประทานมังสวิรัติเป็นประจำ

นอกจากนี้ ผักปลังยังมีสารต้านอนุมูลอิสระหลากหลายชนิด ซึ่งช่วยลดความเสี่ยงของโรคเรื้อรัง และชะลอความเสื่อมของร่างกาย ขณะเดียวกันตามตำรายาไทยยังระบุว่า ผักปลังมีฤทธิ์เย็น จึงสามารถช่วยลดไข้ ดับพิษร้อน แก้อาการกระหายน้ำ และช่วยระบายความร้อนในร่างกายได้เป็นอย่างดี

อย่างไรก็ตาม ผักปลังก็มีข้อควรระวังในการบริโภค โดยเฉพาะการมีสารออกซาเลต (Oxalates) อยู่ในปริมาณหนึ่ง ซึ่งหากรับประทานติดต่อกันเป็นเวลานาน และในปริมาณมาก อาจไปจับตัวกับแคลเซียมและสะสมกลายเป็นนิ่วในไตได้ โดยเฉพาะในผู้ที่มีความเสี่ยงต่อโรคนี้ คำแนะนำคือ ควรลวกหรือต้มผักปลังก่อนนำไปประกอบอาหาร และควรดื่มน้ำเปล่าให้เพียงพอในแต่ละวัน

อีกประเด็นที่ต้องระวังคือ ผักปลังมีฤทธิ์เป็นยาระบายอ่อน เนื่องจากมีใยอาหารและเมือกในปริมาณสูง หากบริโภคมากเกินไป อาจทำให้บางคนเกิดอาการท้องเสียหรือท้องเดินได้ โดยเฉพาะผู้ที่มีระบบขับถ่ายไว ควรเริ่มรับประทานในปริมาณน้อยเพื่อตรวจสอบการตอบสนองของร่างกายก่อน

สุดท้าย หากเก็บผักปลังจากแหล่งที่ไม่สะอาด หรือปลูกโดยไม่ระมัดระวัง ผักปลังอาจมีสารเคมีตกค้างหรือเชื้อโรคปนเปื้อนได้ ดังนั้นจึงควรล้างให้สะอาดหลายๆ ครั้งก่อนนำไปปรุงอาหาร เพื่อให้ได้ประโยชน์จากผักชนิดนี้อย่างปลอดภัย

แม้ว่าผักปลังจะเป็นผักพื้นบ้านที่ดูธรรมดา แต่เมื่อเจาะลึกลงไปแล้ว จะพบว่ามีสรรพคุณทางโภชนาการและยาสูงอย่างคาดไม่ถึง การเพิ่มผักปลังในเมนูประจำวันจึงเป็นทางเลือกที่ดีต่อสุขภาพ ทั้งยังช่วยส่งเสริมการใช้วัตถุดิบท้องถิ่นอย่างยั่งยืน อย่างไรก็ตาม ผู้บริโภคควรศึกษาข้อมูลให้รอบด้านเพื่อใช้ประโยชน์ได้อย่างชาญฉลาด

#ผักปลังมหัศจรรย์ริมรั้ว
#สุขภาพดีด้วยสมุนไพรไทย
#กินอยู่รู้คิด
#ผักพื้นบ้านสร้างภูมิคุ้มกัน
#วิถีไทยยุคใหม่เพื่อสุขภาพ

ทีมข่าวขอนแก่นลิงก์