💪 ปลานิลโปรตีนสูงเทียบเท่าแซลมอน
🧂 แหล่งซีลีเนียม-โพแทสเซียมเสริมภูมิคุ้มกัน
🦷 ฟอสฟอรัสสูง เสริมกระดูกและฟัน
🌞 มีวิตามิน D จากปลาน้ำจืด
📉 ไขมันต่ำ เหมาะกับคนควบคุมน้ำหนัก
“ปลานิล” ปลาน้ำจืดราคาถูกที่คนไทยรู้จักและหาซื้อได้ทั่วไป กลับกลายเป็นซูเปอร์ฟู้ดที่หลายคนมองข้าม แม้จะมีกลิ่นคาวหรือโคลนเป็นอุปสรรคในการบริโภค แต่คุณค่าทางโภชนาการของปลานิลนั้นกลับสูงเกินคาด โดยเฉพาะโปรตีนที่ใกล้เคียงกับแซลมอน ทั้งยังมีสารอาหารจำเป็นต่อร่างกายหลายชนิดในราคาย่อมเยา
ปลานิล 85 กรัม ให้โปรตีนมากถึง 20.1 กรัม ใกล้เคียงกับแซลมอนที่ให้ 20.4 กรัม แต่ให้พลังงานเพียง 96 กิโลแคลอรี ต่ำกว่าครึ่งของแซลมอนที่มีถึง 208 กิโลแคลอรี นอกจากนี้ยังมีไขมันรวมเพียง 1.7 กรัม เทียบกับแซลมอนที่มี 13.4 กรัม จึงเป็นตัวเลือกที่ดีสำหรับผู้ที่ต้องการควบคุมน้ำหนัก
ปลานิลยังเป็นแหล่งของซีลีเนียม โดย 85 กรัมให้ถึง 88% ของความต้องการต่อวัน ช่วยเสริมระบบภูมิคุ้มกันและต้านอนุมูลอิสระ นอกจากนี้ยังมีฟอสฟอรัสสูง เสริมสร้างกระดูก ฟัน และเซลล์ใหม่ รวมถึงมีโพแทสเซียมที่ช่วยควบคุมความดันโลหิต และลดความเสี่ยงโรคหัวใจ
แม้ระดับวิตามิน D ในปลานิลจะน้อยกว่าแซลมอน (3.7 µg เทียบกับ 10.9 µg ต่อ 100 กรัม) แต่ก็ยังถือว่าเป็นปลาน้ำจืดที่ให้วิตามิน D ได้สูง ซึ่งสารอาหารนี้พบได้น้อยในอาหารทั่วไป และมีบทบาทสำคัญต่อระบบประสาท กล้ามเนื้อ และการดูดซึมแคลเซียม
อย่างไรก็ตาม แซลมอนยังคงเป็นแหล่งโอเมก้า-3 ที่ดีที่สุด ด้วยค่า DHA+EPA สูงถึง ~2,260 มิลลิกรัม เทียบกับปลานิลที่มีเพียง ~135 มิลลิกรัม จึงเหมาะกับการบำรุงสมองและหัวใจ
สรุปแล้ว ปลานิลเป็นทางเลือกที่เหมาะสมสำหรับผู้ที่มองหาแหล่งโปรตีนราคาย่อมเยา มีไขมันต่ำ และยังอุดมด้วยสารอาหารจำเป็น เหมาะสำหรับทุกวัย โดยเฉพาะผู้ที่ต้องการเสริมสร้างกล้ามเนื้อหรือควบคุมน้ำหนัก ในขณะที่แซลมอนยังคงเหมาะสำหรับผู้ที่เน้นไขมันดีและการบำรุงสมองหัวใจ
#ปลานิลคุณค่าเกินราคา
#โปรตีนสูงราคาประหยัด
#สุขภาพดีเริ่มที่มื้อปลา
#อาหารเพื่อคนรักสุขภาพ
#เลือกกินฉลาดสุขภาพแข็งแรง
ทีมข่าวขอนแก่นลิงก์




Leave a Response