🍽️ ตับหมูคอเลสเตอรอลสูงกว่ามันหมูเกือบ 4 เท่า
🫀 เสี่ยงโรคหัวใจ-หลอดเลือด หากกินเกินปริมาณ
📉 ตับทำงานหนัก เสี่ยงไขมันพอกตับ-ตับอักเสบ
🧬 วิตามิน A สูง เสี่ยงสะสมเกิน ทำลายตับ
🪱 พยาธิ-สารพิษสะสมในตับ เสี่ยงหากไม่สะอาด

ตับหมู ซึ่งเป็นวัตถุดิบยอดนิยมในหลายเมนูอาหาร ไม่ว่าจะเป็นผัด ต้ม ย่าง หรือเมนูแบบเอเชียต่างๆ กลับกลายเป็นภัยเงียบต่อสุขภาพ หากบริโภคบ่อยหรือมากเกินไป เนื่องจากมีคอเลสเตอรอลสูงถึง 355 มิลลิกรัมต่อ 100 กรัม ซึ่งมากกว่ามันหมูถึงเกือบ 4 เท่า จากข้อมูลของกระทรวงเกษตรสหรัฐฯ (USDA) โดยมันหมูมีเพียง 97 มิลลิกรัมต่อ 100 กรัม

คอเลสเตอรอลจัดเป็นไขมันชนิดหนึ่งที่ร่างกายใช้ในการสร้างเซลล์ สร้างฮอร์โมน และช่วยกระบวนการย่อยอาหาร ซึ่งร่างกายสามารถสร้างเองได้จากตับ แต่เมื่อได้รับจากอาหารเพิ่มมากเกินไป จะเพิ่มความเสี่ยงในการเกิดภาวะไขมันในเลือดผิดปกติ ส่งผลให้หลอดเลือดแข็งตัวหรืออุดตัน เสี่ยงโรคหัวใจ ความดันโลหิตสูง อัมพฤกษ์ อัมพาต และหัวใจวาย โดยสมาคมหัวใจอเมริกัน (AHA) แนะนำไม่ควรบริโภคคอเลสเตอรอลเกิน 300 มิลลิกรัมต่อวัน และสำหรับผู้ที่มีความเสี่ยงโรคหัวใจ ควรจำกัดไม่เกิน 200 มิลลิกรัมต่อวัน

นอกจากความเสี่ยงจากคอเลสเตอรอลแล้ว ตับหมูยังเป็นอวัยวะที่ทำหน้าที่กรองสารพิษในร่างกายหมู จึงมักสะสมสารพิษและเป็นแหล่งอาศัยของพยาธิใบไม้ในตับ หากไม่ผ่านกระบวนการฆ่าเชื้ออย่างเหมาะสม หรือมาจากหมูที่เป็นโรคตับอักเสบหรือมะเร็ง อาจเป็นแหล่งเชื้อไวรัสและสารพิษอันตราย

แม้ตับหมูจะมีคุณค่าทางโภชนาการสูง อุดมไปด้วยโปรตีน วิตามินเอ วิตามินบี 12 บี 2 โฟเลต ธาตุเหล็กแบบ Heme Iron สังกะสี และทองแดง ซึ่งจำเป็นต่อการทำงานของร่างกาย แต่การบริโภคในปริมาณมากหรือบ่อยเกินไปยังเสี่ยงต่อการสะสมวิตามินเอมากเกินไป ซึ่งอาจทำลายตับ กระดูก และเป็นอันตรายต่อหญิงตั้งครรภ์

ศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคแห่งสหรัฐฯ (CDC) ยังเตือนว่าภาวะไขมันในเลือดสูงมักไม่มีอาการชัดเจน ทำให้หลายคนไม่รู้ตัวจนกระทั่งเกิดโรคแทรกซ้อนรุนแรงแล้ว ดังนั้น การเลือกบริโภคอาหารควรคำนึงถึงปริมาณคอเลสเตอรอล และเลือกแหล่งวัตถุดิบที่ปลอดภัย สดใหม่ ได้มาตรฐาน โดยเฉพาะเมื่อต้องบริโภคตับหมู

#ตับหมูคอเลสเตอรอลสูง
#กินตับระวังสุขภาพ
#ไขมันในเลือดสูง
#ภัยเงียบจากอาหาร
#เลือกกินอย่างปลอดภัย

ทีมข่าวขอนแก่นลิงก์