Key Point

• เกษตรกรที่ ต.บึงเนียม, อ.เมือง จ.ขอนแก่น เร่งดูแลแปลงผักสลัด หลังพายุฝนทำให้เกิด โรคใบด่าง, รา แป้ง, ใบเหลือง และใบช้ำ

• ราคาขายส่งผักสลัด ดีขึ้นเป็น 14 บาท/กำ (จากเดิม 6‑7 บาท) แต่ฝนตกต่อเนื่องยังเสี่ยงทำให้ผลผลิตเสียหาย

• นางบังอร ปลูกผัก 1 ไร่ ใช้เวลาเก็บผลผลิต 2 เดือน แต่กังวลน้ำหลากจากลำน้ำพองช่วงปลาย ส.ค.

• มีการถอนวัชพืชและพ่นยา เมื่อต้องเผชิญพายุฝน เพื่อควบคุมโรค แต่หากฝนหนักต่อเนื่อง ก็อาจควบคุมไม่อยู่

• เกษตรกรคาดหวังว่าฝนจะลดลง เพื่อหลีกเลี่ยงความเสียหาย และเตรียมปลูกใหม่ช่วงหน้าหนาว

เมื่อเวลา 09.00 น. วันที่ 20 ก.ค. 2568 ผู้สื่อข่าวลงพื้นที่ที่แปลงผัก บ้านปากเปือย ม.7 ต.บึงเนียม อ.เมือง จ.ขอนแก่น เนื่องจากขณะนี้เกษตรกรผู้ปลูกผักในพื้นที่ต่างกำลังเร่งถอนวัชพืชออกจากแปลงผักสลัดและเตรียมพ่นยา กันรา แป้งและโรคใบด่าง หลังจากเกิดพายุฝนตกลงมาอย่างหนักอย่างต่อเนื่องในระยะนี้ ขณะที่ราคาผักสลัดราคาดีขายส่งกำละ 14 บาท จากเดิม 6‑7 บาท ตามกลไกและความต้องการของตลาด

นางบังอร ยาหัวดง อายุ 51 ปี บ้านเลขที่ 18 บ.ปากเปือย ม.7 ต.บึงเนียม จ.ขอนแก่น กล่าวว่า ครอบครัวปลูกผักสลัดบนเนื้อที่ 1 ไร่ แต่ช่วงนี้ฝนตกเยอะทุกวันทำให้ผักเป็นโรคใบด่าง, รา แป้ง, ใบเหลือง และใบช้ำ ซึ่งหากผักเป็นโรคแล้วก็จะลามไปหมดซึ่งจะทำให้ผักเสียหายทั้งแปลง ถ้าเป็นโรคแล้วฉีดยาไว้ก็เอาไม่อยู่

“สำหรับราคาขายช่วงนี้ 100 กำ 1,400 บาท ถือว่าเป็นราคาในช่วงนี้ ก่อนหน้านี้เคยได้กำละ 6‑7 บาทเท่านั้น ราคาปรับขึ้นมาตั้งแต่เดือนที่แล้ว แต่ช่วงที่ราคาดีแบบนี้ฝน ดันมาตกทำให้ผักเสียหาย และการที่ปลูกผักสลัดเพราะเป็นกลุ่มผักที่ทนฝนมากกว่าผักชนิดอื่นๆ แต่ถ้าฝนตกทุกวันตกเยอะแบบนี้ก็ไม่ไหว”

นางบังอร กล่าวต่อว่า การปลูกผักสลัดนั้นใช้เวลา 2 เดือน ก็จะได้เก็บผลผลิตแต่ก็ต้องลองเสี่ยงดูว่าจะขาดทุนน้อยหรือมาก ในระยะนี้ก็ได้แต่ขอให้ฝนตกลงมาไม่มาก เพราะช่วงประมาณปลายเดือน ส.ค. ที่กำลังจะมาถึงฝนจะเริ่มตกหนักและคาดว่าน้ำจากลำน้ำพองจะไหลเข้ามาท่วมอย่างเช่นทุกปี เกษตรกรในพื้นที่ก็จะหยุดปลูกและจะไปเริ่มปลูกอีกทีช่วงหน้าหนาว

เกษตรกรขอนแก่นเร่งพ่นยากันโรคราแป้งในผักสลัด หลังต้องเผชิญกับพายุฝนจนทำให้เป็นโรคใบด่าง , รา แป้ง, ใบเหลือง และใบช้ำ