🚨 กลิ่นอุจจาระผิดปกติ เสี่ยงโรคภายใน! แพทย์เตือนสังเกต “4 กลิ่นอันตราย” ควรรีบพบแพทย์

_75533b0d-fe13-47d5-b6f5-588d8dd0191d

🧪 กลิ่นอุจจาระผิดปกติอาจเตือนภัยลำไส้
💨 VOCs ตัวการสำคัญบอกสุขภาพลำไส้
🩸 กลิ่นคาวเลือด-สีดำ เสี่ยงเลือดออกภายใน
🫧 กลิ่นเหม็นหืน-มันลอยน้ำ ชี้ปัญหาย่อยไขมัน
🍋 กลิ่นเปรี้ยวมีฟอง แบคทีเรียในลำไส้เสียสมดุล
🥚 กลิ่นไข่เน่า โปรตีนสูงเกิน เสี่ยงลำไส้ผิดปกติ

อุจจาระที่มีกลิ่นผิดปกติอาจไม่ใช่แค่เรื่องน่ารังเกียจ แต่เป็นสัญญาณเตือนภัยสุขภาพจากภายในที่ไม่ควรมองข้าม โดยเฉพาะเมื่อมีกลิ่นแปลกใหม่ที่แตกต่างจากเดิมอย่างชัดเจน ซึ่งแพทย์ผู้เชี่ยวชาญได้ออกมาเตือนว่า กลิ่นของอุจจาระนั้นสามารถบ่งชี้โรคในระบบทางเดินอาหารได้ตั้งแต่ระยะเริ่มต้น

นายแพทย์เจิ้ง หงจื้อ แพทย์ผู้เชี่ยวชาญระบบทางเดินอาหารชาวไต้หวัน เปิดเผยผ่านเฟซบุ๊กแฟนเพจ “你的腸胃科醫師 鄭泓志 內科 慢性病” ว่า กลิ่นอุจจาระจริงๆ แล้วเกิดจาก “สารประกอบอินทรีย์ระเหยง่าย” หรือ VOCs ซึ่งเป็นก๊าซที่เกิดจากแบคทีเรียในลำไส้ทำปฏิกิริยากับสารอาหาร โดยโรคต่างๆ ในระบบทางเดินอาหารจะมี VOCs ที่แตกต่างกันไป เปรียบเสมือนลายนิ้วมือของโรค

งานวิจัยที่ตีพิมพ์ในวารสาร The FASEB Journal ยืนยันว่า กลิ่นอุจจาระที่เปลี่ยนไปสามารถเกิดก่อนที่อาการทางร่างกายจะปรากฏ ดังนั้นการสังเกตกลิ่นอาจช่วยให้ตรวจพบโรคได้เร็วขึ้น

แพทย์ระบุ 4 กลิ่นหลักที่ควรระวัง มีดังนี้

  1. กลิ่นคาวเลือดหรือสนิมเหล็ก ร่วมกับอุจจาระสีดำคล้ำ มักเกี่ยวข้องกับภาวะเลือดออกในกระเพาะอาหารหรือลำไส้เล็กส่วนต้น เช่น แผลในกระเพาะอาหาร หรือภาวะเลือดออกในกระเพาะ อันเนื่องจากเลือดที่ถูกย่อยจะมีกลิ่นคาวและเปลี่ยนสีเป็นดำคล้ายยางมะตอย
  2. กลิ่นเหม็นหืนหรือเหม็นเน่ารุนแรง พร้อมกับอุจจาระลอยน้ำและมีคราบมัน อาจเกิดจากปัญหาการย่อยไขมัน เช่น ตับอ่อนอักเสบเรื้อรัง เนื้องอกตับอ่อน หรือถุงน้ำดีผิดปกติ ส่งผลให้ไขมันไม่ถูกย่อยจนเกิดกลิ่นรุนแรง
  3. กลิ่นเปรี้ยวคล้ายของหมัก และมีฟองผิดปกติ สะท้อนถึงความไม่สมดุลของจุลินทรีย์ในลำไส้ ซึ่งพบในผู้ป่วยลำไส้แปรปรวน (IBS) หรือผู้ที่ได้รับโปรไบโอติกไม่เพียงพอ รวมถึงผู้ที่มีความเครียดเรื้อรัง ทำให้การย่อยเกิดการหมักอย่างผิดปกติ
  4. กลิ่นไข่เน่า ร่วมกับอุจจาระลักษณะเหนียวหรือเละ พบในผู้ที่บริโภคโปรตีนสูง เช่น เนื้อสัตว์ ไข่ หรือเวย์โปรตีน ซึ่งเมื่อโปรตีนเหล่านี้ถูกย่อย จะเกิดก๊าซไฮโดรเจนซัลไฟด์ที่มีกลิ่นเหมือนไข่เน่า หากรับประทานมากเกินไปจะทำให้ขับถ่ายผิดปกติ

ทั้งนี้ แพทย์เตือนว่าหากกลิ่นอุจจาระเปลี่ยนเพียงครั้งคราว อาจเป็นผลจากอาหาร แต่หากเปลี่ยนแปลงชัดเจนและต่อเนื่อง โดยเฉพาะร่วมกับอาการอื่น เช่น ปวดท้อง น้ำหนักลด หรืออุจจาระมัน ควรรีบไปพบแพทย์เพื่อตรวจหาสาเหตุโดยเร็ว

กลิ่นอุจจาระจึงอาจเป็นสัญญาณแรกของความผิดปกติที่เกิดขึ้นภายในร่างกาย และหากจับสัญญาณได้เร็ว อาจช่วยชีวิตได้ทันเวลา

#กลิ่นอุจจาระผิดปกติ
#สัญญาณเตือนโรคทางเดินอาหาร
#VOCลายนิ้วมือโรค
#อุจจาระเปลี่ยนกลิ่นอย่านิ่งเฉย
#ตรวจสุขภาพลำไส้เร็วทันโรค

ทีมข่าวขอนแก่นลิงก์


Leave a Response

เรื่องล่าสุด