🍵 วิจัยชี้ “ชาไม่ใส่น้ำตาล” ลดเสี่ยงหัวใจ-สโตรก ดื่มวันละ 2 แก้วดีสุด

_79892673-2d7a-47b6-a297-67f47240e0c6

🧬 ไม่ใส่น้ำตาล ลดเสี่ยงโรคหัวใจ
📉 ดื่มชา 2 แก้ว/วัน ลดเสี่ยงสโตรก
🧪 วิจัยกลุ่มใหญ่จากอังกฤษ ยาวนาน 12 ปี
💡 โพลีฟีนอลในชาช่วยต้านอนุมูลอิสระ
🚫 น้ำตาล-สารให้ความหวาน เสี่ยงเพิ่มโรค

เนื้อหาข่าว:
ผลวิจัยล่าสุดจากประเทศจีนร่วมกับสหราชอาณาจักรเผยว่า การดื่มชาโดยไม่เติมน้ำตาลสามารถลดความเสี่ยงต่อโรคหัวใจและโรคหลอดเลือดสมองได้อย่างมีนัยสำคัญ โดยมีเงื่อนไขสำคัญว่า ต้องดื่มในปริมาณไม่เกินวันละ 2 แก้ว และต้องไม่เติมน้ำตาลหรือสารให้ความหวานสังเคราะห์ใดๆ

รายงานนี้ถูกเปิดเผยโดยหนังสือพิมพ์ Express ของอังกฤษ ซึ่งอ้างอิงจากการศึกษาวิจัยที่ตีพิมพ์ในวารสาร International Journal of Cardiology: Cardiovascular Risk and Prevention โดยเป็นการวิจัยจากทีมมหาวิทยาลัยหนานถง ประเทศจีน ที่เก็บข้อมูลจากกลุ่มตัวอย่างในสหราชอาณาจักรจำนวน 177,810 คน อายุเฉลี่ย 55 ปี โดย 147,903 คนในกลุ่มนี้เป็นผู้ที่ดื่มชาเป็นประจำ

ตลอดระยะเวลา 12 ปีของการศึกษา พบว่ากลุ่มตัวอย่างที่ดื่มชาโดยไม่เติมน้ำตาล 68.2% มีแนวโน้มได้รับประโยชน์ด้านสุขภาพชัดเจน โดยเฉพาะในการลดความเสี่ยงของโรคหัวใจ ซึ่งมีผู้ป่วยที่เกิดปัญหาหัวใจในกลุ่มทั้งหมดเพียง 15,003 ราย

ผลการศึกษาระบุว่า ผู้ที่ดื่มชาไม่เกินวันละ 2 แก้วและไม่เติมน้ำตาล มีความเสี่ยงต่อภาวะหัวใจล้มเหลวลดลง 21% ความเสี่ยงโรคหลอดเลือดสมองลดลง 14% และความเสี่ยงโรคหลอดเลือดหัวใจลดลง 7%

นักวิจัยให้เหตุผลว่า สารโพลีฟีนอลที่อยู่ในชาธรรมชาติ มีคุณสมบัติในการต้านอนุมูลอิสระและลดการอักเสบในร่างกาย จึงส่งผลดีต่อสุขภาพหัวใจและหลอดเลือด โดยการไม่เติมน้ำตาลจะช่วยคงสารสำคัญเหล่านี้ไว้ได้มากกว่า

ในทางตรงกันข้าม การเติมน้ำตาลหรือน้ำตาลเทียมอาจไปเพิ่มความเสี่ยงต่อภาวะดื้อต่ออินซูลิน และทำให้เกิดความผิดปกติของระบบเผาผลาญ ซึ่งล้วนเป็นปัจจัยสำคัญที่เชื่อมโยงกับโรคหัวใจและหลอดเลือด

นอกจากนี้ สารโพลีฟีนอลยังพบในกาแฟ ไวน์แดง และช็อกโกแลตดำ และมีบทบาทในการปกป้องผิวจากรังสียูวี ชะลอวัย ดูแลสุขภาพลำไส้ และลดการอักเสบได้อีกด้วย

งานวิจัยนี้นับเป็นอีกหนึ่งหลักฐานที่สนับสนุนว่า การเลือกรับประทานอาหารและเครื่องดื่มที่ไม่ผ่านการแต่งเติมสามารถส่งผลต่อสุขภาพในระยะยาวอย่างแท้จริง

#ชาลดโรคหัวใจ
#สุขภาพดีเริ่มที่ชา
#ไม่เติมน้ำตาลดีสุด
#โพลีฟีนอลเพื่อหัวใจ
#วิจัยสุขภาพอังกฤษจีน

ทีมข่าวขอนแก่นลิงก์


Leave a Response

เรื่องล่าสุด