🌴 น้ำตาลโตนดจากตาลโตนด หอมเข้ม
🥥 น้ำตาลมะพร้าวจากดอกมะพร้าว หวานละมุน
🔥 กระบวนการผลิตต่างกัน เคี่ยวไม่เหมือน
🍮 ใช้ทำขนมไทยได้ต่างสไตล์
⚖️ ดีต่อสุขภาพกว่าน้ำตาลทราย แต่กินพอดี

ในโลกของน้ำตาลจากธรรมชาติที่เปี่ยมด้วยกลิ่นหอมเฉพาะตัวและรสชาติกลมกล่อม “น้ำตาลโตนด” และ “น้ำตาลมะพร้าว” มักถูกเข้าใจผิดว่าเป็นสิ่งเดียวกัน หรือใช้สลับกันได้ แต่แท้จริงแล้ว ทั้งสองมีความแตกต่างชัดเจนทั้งแหล่งที่มา กระบวนการผลิต ลักษณะภายนอก รสชาติ และการใช้งาน

น้ำตาลโตนด ได้จากต้นตาลโตนด (Borassus flabellifer) โดยเฉพาะจากการปาด “งวงตาล” หรือ “จั่นตาล” ที่เป็นส่วนดอกตัวผู้หรือตัวเมีย น้ำหวานจากต้นตาลจะถูกรองไว้ในกระบอกไม้ไผ่ที่ใส่ไม้พะยอมกันบูด แล้วนำมาเคี่ยวในกระทะใบบัวบนเตาฟืน ใช้เวลาและทักษะสูงในการควบคุมไฟไม่ให้น้ำตาลไหม้ สีของน้ำตาลโตนดมักมีสีน้ำตาลเข้ม กลิ่นหอมเฉพาะคล้ายคาราเมลอ่อน รสชาติหวานลุ่มลึก บางครั้งมีรสอมเปรี้ยวอมเค็ม และสามารถพบในหลายรูปแบบ เช่น น้ำตาลโตนดปึก น้ำตาลโตนดเหลว น้ำตาลผง และเม็ด

ในขณะที่ น้ำตาลมะพร้าว ได้จากช่อดอกของต้นมะพร้าว (Cocos nucifera) โดยชาวบ้านจะปาดปลายจั่นมะพร้าวเพื่อเก็บน้ำหวานที่ไหลออกมา แล้วนำมาเคี่ยวด้วยวิธีคล้ายกันแต่ใช้เวลาน้อยกว่า น้ำตาลมะพร้าวมีสีน้ำตาลทองถึงน้ำตาลอ่อน กลิ่นหอมของมะพร้าวผสมคาราเมล รสหวานละมุน มีความหอมมัน และเนื้อสัมผัสนิ่มกว่าน้ำตาลโตนด เหมาะกับเมนูที่ต้องการความหอมนุ่มเบา เช่น แกงบวด กล้วยเชื่อม หรือเครื่องดื่มและขนมอบ

การเลือกใช้น้ำตาลแต่ละชนิดขึ้นอยู่กับจุดประสงค์ของเมนู

• หากต้องการกลิ่นหอมเข้ม รสลึก เช่น ขนมตาล ตาลเชื่อม สังขยา หรือแกงกะทิเข้มข้น ให้เลือก น้ำตาลโตนด
• หากต้องการความหอมนุ่ม หวานละมุน เช่น แกงบวด สาคูเปียก หรือเบเกอรี่ ให้เลือก น้ำตาลมะพร้าว

ทั้งสองชนิดยังถือว่าดีกว่าน้ำตาลทรายขาวทั่วไป เนื่องจากไม่ผ่านการฟอกสีและยังคงแร่ธาตุบางชนิดไว้ เช่น โพแทสเซียม แมกนีเซียม และธาตุเหล็ก อย่างไรก็ตาม ไม่ว่าจะเลือกน้ำตาลชนิดใด ควรบริโภคในปริมาณที่พอเหมาะ เพื่อสุขภาพที่ดีอย่างยั่งยืน

#น้ำตาลโตนด
#น้ำตาลมะพร้าว
#ขนมไทยโบราณ
#เลือกน้ำตาลให้เหมาะ
#สุขภาพดีเริ่มที่วัตถุดิบ

ทีมข่าวขอนแก่นลิงก์