Key Point
• เชฟหนุ่มชาวชุมแพลาออกจากงานประจำ มาเลี้ยงไก่สายพันธุ์ด่องเต๋าจากเวียดนาม
• ไก่มี 3 สี (ดำ เทา ขาว) สีขาวเป็นสีมงคลราคาสูงสุด
• เจ้าของสวนลองกินเนื้อแล้วบอกว่า “กรุบเหมือนเนื้อโคขุน”
• ขยายฟาร์มเข้าสู่ปีที่ 5 รายได้สูงกว่างานประจำ พร้อมออเดอร์ทุกวัน
• วางแผนเปิดร้านอาหารพร้อมฟาร์มโชว์ในอนาคต
เชฟหนุ่มชาว อ.ชุมแพ ออกจากงานประจำมาเพาะเลี้ยง “ไก่ตีนโตด่องเต๋า” จากเวียดนาม สร้างรายได้งาม-ออเดอร์เพียบ ขายไม่พอต่อความต้องการลูกค้า ยิ่งตีนโตพิเศษ สีขาว เสริมความเป็นมงคลราคาอัพเท่าตัว เผยรสชาติกรุบอร่อยเหมือนเนื้อโคขุน เมนูฮ่องเต้
เมื่อเวลา 09.00 น. วันที่ 1 กรกฎาคม 2568 ผู้สื่อข่าวลงพื้นที่ไปยังสวนฤทธิไกร ตั้งอยู่เลขที่ 240 บ้านหนองจิก หมู่ 7 ตำบลชุมแพ อำเภอชุมแพ จังหวัดขอนแก่น ซึ่งเป็นสถานที่เพาะเลี้ยง “ไก่ตีนโต” หรือไก่สายพันธุ์ด่องเต๋า (Dong Tao) ไก่หายากสัญชาติเวียดนาม ที่กำลังเป็นที่นิยมในกลุ่มผู้ชื่นชอบสัตว์สวยงามทั้งในและต่างประเทศ โดยมีนายฤทธิไกร ลือวงศ์ อายุ 42 ปี เป็นเจ้าของสวนและผู้เพาะเลี้ยงไก่สายพันธุ์นี้มาเป็นเวลา 5 ปี พาผู้สื่อข่าวดูพ่อพันธุ์แม่พันธุ์ไก่ในโรงเลี้ยงที่ให้จับคู่ผสมพันธุ์ โดยแต่ละล็อคจะมีพ่อพันธุ์ 1 ตัวต่อแม่พันธุ์ 2 ตัว โดยพ่อพันธุ์ในโรงเลี้ยงมีทั้งหมด 4 ตัว ส่วนแม่พันธุ์มีทั้งหมด 10 ตัว แต่ละตัวก็จะมีลักษณะแตกต่างกันโดยเฉพาะตีนไก่ ที่ยิ่งใหญ่ยิ่งมีราคา และสีก็จะมี 3 สี ทั้งสีดำ สีเทา และสีขาว ซึ่งแต่ละสีก็ราคาแตกต่างกันอีกด้วยเช่นกัน โดยสีดำเป็นสีปกติ สีเทาก็จะหายากราคาอัพขึ้นมาในระดับกลาง ส่วนสีขาวถือเป็นสีมงคลที่นำโชคลาภและความมั่งคั่งมาสู่ผู้เลี้ยง ก็จะมีราคาสูงกว่าทุกสีเป็นเท่าตัว และหากถามถึงรสชาตินั้น เจ้าของสวนบอกว่ายังไม่เคยกินเนื้อ กินเพียงไข่ที่มีรสชาติไม่ต่างจากไก่ทั่วไปและฟองใหญ่เท่ากัน แต่เจ้าของสวนลองกินเนื้อไก่แล้วบอกว่าอร่อย เนื้อกรุบ รสชาติเหมือนเนื้อโคขุน
นายฤทธิไกร เปิดเผยว่า เดิมครอบครัวใช้พื้นที่ขนาด 1 ไร่ตรงนี้ทำเป็นบ้านสวนเพื่อเลี้ยงไก่ชนตามความชอบของพ่อ ส่วนตนเองมีพื้นฐานด้านการทำอาหาร เคยทำงานเป็นเชฟอยู่ในภัตตาคารที่กรุงเทพฯหลายปี จนเกิดความเบื่อหน่าย กระทั่งกลับบ้านและได้พูดคุยกับพ่อเกี่ยวกับการเลี้ยงไก่ชน ทำให้เรียนรู้วัฏจักการเลี้ยง การเติบโตของไก่ชน แต่ก็เหมือนจะเลี้ยงไปเรื่อยๆไม่มีการเปลี่ยนแปลงใดๆ จึงมีความคิดว่า ถ้าเราเลี้ยงสัตว์สวยงาม สัตว์แปลกๆ น่าจะได้รับความสนใจสามารถน่าจะสร้างรายได้ให้ครอบครัวเป็นอย่างดี กระทั่งได้เห็นเพื่อนนำ “ไก่ตีนโต” หรือ “ไก่ด่องเต๋า” จากประเทศเวียดนามมาเพาะเลี้ยง จึงได้ขอไข่มาเลี้ยงด้วย กระทั่งได้พ่อพันธุ์แม่พันธุ์ พร้อมทั้งศึกษาหาข้อมูลเกี่ยวกับไก่ชนิดพิเศษนี้ ผ่านช่องทางออนไลน์ต่างๆ จนพบว่ามีลักษณะเด่นคือขาที่มีขนาดใหญ่ หนา และหนักกว่าไก่ทั่วๆไปเฉลี่ยน้ำหนักต่อตัวอยู่ที่ 4-5 กิโลกรัม ต่างจากไก่บ้านธรรมดาที่มีน้ำหนักอยู่ที่ประมาณไม่เกิน 3.8 กิโลกรัม
ส่วนการดูแลไม่แตกต่างจากไก่ชนที่พ่อเลี้ยง โดยให้อาหารด้วยเมล็ดข้าวโพด ข้าวเปลือก และหัวอาหารไก่ รวมถึงหญ้าเนเปียร์และหญ้าหวาน ในโรงเลี้ยงจะใช้ผงโอราโรยทุกวันเพื่อกำจัดกลิ่น และใช้ผงยาพาราดอนโรยรอบโรงเลี้ยงเพื่อกำจัดสัตว์เลื้อยคลานต่างๆที่จะส่งผลกระทบและเป็นอันตรายกับไก่ ทั้ง ปลวก มด ตะขาบ แมงป่องหรืองู และหลังผสมพันธุ์ในรุ่นแรกนั้นตนเองได้ไข่ไก่มาประมาณ 40 ตัว ซึ่งรอดทั้งหมด และต่อมาได้ขยายพันธุ์โดยแบ่งคอกแบบ 2 ตัวเมียต่อ 1 ตัวผู้ โดยใช้วิธีเลี้ยงแบบกึ่งขัง-กึ่งปล่อย เน้นพื้นที่แห้ง ไม่ชื้น เพราะไก่ชนิดนี้ไม่ชอบฝน หากเปียกอาจเจ็บป่วยหรือเสียชีวิตได้ง่าย อีกทั้งยังมีนิสัยขี้ตกใจ ต้องให้น้ำสะอาด อาหารสดใหม่ และวัคซีนครบถ้วนเป็นประจำ ซึ่งภายในสวนมีพ่อพันธุ์ทั้งหมด 4 ตัว โดยตั้งชื่อไว้ ได้แก่ “เอี้ยก้วย” ขาโตพิเศษ, “ดราก้อน” หน้าหล่อเหมือนมังกร หุ่นดี ขาโตปกติ, “รถถัง” ขาโตพิเศษ และ “เบ็คแฮม” พ่อพันธุ์หลักที่ให้ลูกมาตลอด และแต่ละมี อายุ 1 ปีครึ่ง ส่วนแม่พันธุ์ในสวนมีทั้งหมด 10 ตัว ส่วนลูกๆนั้น แม่พันธุ์ไก่จะมีการวางไข่เป็นจำนวนมากต่อรอบอยู่ที่ 25-30 ฟอง และได้จำหน่ายลูกไก่ให้ลูกค้าไปจนเกือบหมดแล้ว เหลืออยู่ไม่กี่ตัว และแต่ละตัวก็ถูกจองไปทั้งหมดแล้วเพื่อรอให้วัคซีนครบก็จะส่งให้ลูกค้าไปเลี้ยงสวยงาม
นายฤทธิไกร กล่าวอีกว่า ปกติลูกค้าจะสั่งซื้อสั่งจองผ่านทางเฟซบุ๊กตนเอง พร้อมทั้งเข้าร่วมกลุ่มผู้รักสัตว์สวยงาม เช่น กลุ่มคนรักไก่งวง ไก่ต๊อก และสัตว์ปีกสายสวยงามในขอนแก่น ส่งผลให้มีผู้สนใจจากทั้งในประเทศและประเทศเพื่อนบ้านอย่างลาวและกัมพูชา ติดต่อสั่งซื้ออย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะไก่ตีนโตสีขาว ซึ่งถือเป็นสีมงคล นิยมนำไปใช้ในเทศกาลสำคัญของเวียดนามและเชื่อว่าเป็นไก่ที่ “ฮ่องเต้” นิยมรับประทานด้วย โดยที่จำหน่ายนั้น ถ้าเป็นลูกไก่อายุ 1 เดือน ที่ได้รับวัคซีนครบ ราคาขายเริ่มต้นตัวละ 500 บาท แยกตามสีจะมีราคาแตกต่างกัน โดย สีขาว (สีมงคล) ราคา 1,000 บาท สีเทา 700-800 บาท และสีดำ 500 บาท เป็นสีพื้นฐานทั่วไป หากไก่มีเท้าขนาดใหญ่พิเศษ ก็จะเพิ่มราคาอีกตัวละ 100 บาท ส่วนราคาพ่อพันธุ์ตัวเต็มวัย สีขาว ราคาสูงสุดอยู่ที่ 5,000 บาท ขึ้นอยู่กับขนาดเท้าและสีเหมือนกัน โดยตนเองเลี้ยงไก่ด่องเต๋ามาเข้าสู่ปีที่ 5 ตอนนี้สร้างรายได้ดีกว่างานประจำ ดูแลครอบครัวได้ มีออเดอร์เข้ามาทุกวัน ไข่และลูกไก่ยังผลิตไม่พอขาย กำลังวางแผนขยายพื้นที่เลี้ยงไปยังที่ดินแปลงใหม่ที่กว้างขวางกว่า และตั้งใจจะต่อยอดเปิดเป็นร้านอาหารที่มีฟาร์มไก่โชว์ให้เด็กๆ มาเรียนรู้ด้วย
ทั้งนี้ นอกจากไก่ตีนโตด่องเต๋าแล้ว ภายในสวนฤทธิไกรยังมีไก่พันธุ์หายากอื่น ๆ เช่น ไก่ต๊อก ไก่งวง ไก่ซิลกี้ ไก่บราห์มา และไก่คอล่อน เพื่อรองรับตลาดสัตว์สวยงามโดยเฉพาะ ผู้สนใจสามารถติดต่อสอบถามหรือสั่งซื้อได้ที่เฟซบุ๊กชื่อ Luewongchicken Grey (ไก่ไดโนเสาร์) หรือเบอร์โทรศัพท์ 094-2820121 โดยตรงกับเจ้าของสวน//////

Leave a Response